"สมจิตต์" นักข่าวภาคสนาม เขียนจม.เปิดผนึกถึง "สรยุทธ" เพื่อทวงถามจิตสำนึกความเป็นสื่อ

ในช่วงค่ำวันที่ 5 ต.ค. น.ส.สมจิตต์ นวเครือสุนทร ผู้สื่อข่าวการเมือง สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบก ช่อง 7 ได้เขียนจดหมายเปิดผนึกผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรชื่อดัง สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 เพื่อทวงถามจิตสำนึกความเป็นสื่อมวลชนของนายสรยุทธ ภายหลังนายสรยุทธยื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เพื่อตอบโต้สมาคมนักข่าวฯ ที่จัดงานเสวนากรณี บริษัท ไร่ส้ม จำกัด และนายสรยุทธถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิดของเจ้าหน้าที่ บมจ.อสมท ในการยักยอกเงินโฆษณาจากการจัดรายการ “คุยคุ้ยข่าว” ในสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ทีวี ระหว่างปี 2548-2549 เป็นเงินกว่า 138 ล้านบาท โดยมีวิทยากรบางคนในงานเสวนาดังกล่าวเรียกร้องให้นายสรยุทธแสดงสปิริตลาออกจาการเป็นพิธีกร
สำหรับจดหมายเปิดผนึกดังกล่าว มีเนื้อหาดังนี้
“จดหมายเปิดผนึกถึง คุณสรยุทธ สุทัศนะจินดา
เราต่างรักในวิชาชีพสื่อสารมวลชนใช่ไหม?
ดิฉัน สมจิตต์ นวเครือสุนทร ผู้สื่อข่าวการเมือง (เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับสังกัด) ในฐานะสื่อมวลชน แม้จะไม่เคยรู้จักคุณสรยุทธ เป็นการส่วนตัว แต่สิ่งที่ได้เห็นคุณสรยุทธ แสดงออกเสมอมาคือความรักในวิชาชีพสื่อสารมวลชน ไม่ว่าวันนี้จะยังเป็นกรรมกรข่าวหรือเศรษฐีค้าข่าว แต่จิตวิญญาณแห่งวิชาชีพน่าจะยังคงอยู่ นอกจากว่าที่ผ่านมาสิ่งที่ทำทั้งหมดเป็นเพียงแค่การเสแสร้งสร้างภาพ ซึ่งดิฉันคิดว่าคุณสรยุทธ ย่อมมีความซื่อสัตย์ต่อประชาชนที่ศรัทธาและโอบอุ้มคุณสรยุทธ โดยไม่ควรแม้แต่จะคิดทรยศต่ อความไว้วางใจของประชาชน
การที่คุณสรยุทธ ตอบโต้แถลงการณ์ของสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ด้วยการลาออกจากการเป็นสมาชิก หลังจากถูกทวงถามด้านจริยธรรมกรณีถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดว่ายักยอกเงินค่าโฆษณาอสมท. 138 ล้านบาท ด้วยการให้พิจารณาตัวเองจากการทำหน้าที่พิธีกรเล่าข่าวนั้น ถือเป็นการทำร้ายวิชาชีพสื่อสารมวลชนอย่างเลือดเย็นยิ่ง เพราะเท่ากับว่า คุณสรยุทธ ซึ่งมีอิทธิพลต่อสังคมไทยอย่างมาก กำลังทำให้คนเข้าใจว่า คนวงการสื่อไม่ยอมรับการตรวจสอบ ไร้ซึ่งจริยธรรมที่จะแสดงตนเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับสังคมไทย
ถามคุณสรยุทธง่ายๆ ว่า นักเล่าข่าวที่ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลว่าทุจริต จะตรวจสอบนักการเมืองที่ทุจริตได้อย่างไร
นักเล่าข่าวที่ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลว่าทุจริต จะกล้าเรียกร้องให้นักการเมืองที่ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลว่าทุจริตแสดงสปิริตด้วยการหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าคดีจะถึงที่สุดหรือไม่
นักเล่าข่าวที่ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลว่าทุจริต แต่ยังคงมีสถานะทางสังคมโดยไม่ต้องแสดงความรับผิดชอบใดๆ จะสร้างค่านิยมแบบไหนให้กับประเทศชาติของเรา?
ค่านิยมที่สังคมยอมรับการโกงว่าเป็นเรื่องปกติที่ใครๆ ก็ทำ และยังได้ดิบได้ดีไม่ถูกลงโทษจากสังคมจึงไม่จำเป็นต้องมีความละอายต่อบาป เพราะทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไปอย่างนั้นหรือ?
หน้าที่ของสื่อมวลชนส่วนหนึ่ง คือการชี้นำสังคมให้เดินไปในทิศทางที่ถูกต้อง ถ้าวันนี้คุณสรยุทธ ซึ่งเป็นสื่อมวลชนที่คนไทยให้การยอมรับอย่างมาก ไม่เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับประชาชน ก็เท่ากับกำลังบ่มเพาะความไม่ละอายต่อบาปให้เพิ่มพูนมากขึ้นเรื่อยๆ ในสังคมนี้ จนเห็นการทำความผิดเป็นเรื่องปกติไม่ใช่เรื่องที่ต้องประนาม
แม้คดีนี้จะยังไม่มีบทสรุปในชั้นศาล แต่องค์กรอิสระอย่าง ป.ป.ช.ได้ชี้มูลแล้ว การแสดงออกให้เห็นว่า “จริยธรรมอยู่เหนือกฎหมาย” จะทำให้คุณสรยุทธ “เป็นเรื่องเล่าระดับตำนานให้คนในแวดวงสื่อสารมวลชนได้กล่าวขานถึงว่า เป็นสื่อมวลชนที่มีความรับผิดชอบต่อวิชาชีพของตัวเองและไม่ทรยศต่อความไว้วางใจของประชาชน”
จดหมายเปิดผนึกจากนักข่าวตัวเล็กๆ อาจไม่มีความหมายอะไรเลยต่อการตัดสินใจของคุณสรยุทธ แต่ดิฉันเขียนจดหมายฉบับนี้ด้วยหวังว่าจะจุดประกายเล็กๆ ให้เพื่อนพ้องน้องพี่ในแวดวงสื่อสารมวลชนได้ช่วยกันไตร่ตรองดูว่า เราจะไม่ทำอะไรเพื่อรักษาวิชาชีพที่เรารักเลยหรือ?
เราต่างรักในวิชาชีพสื่อสารมวลชนใช่ไหม?
และอย่าจำนนกับความคิดที่ว่า “เราทำไม่ได้ ถ้าเรายังไม่ได้ทำ”
สมจิตต์ นวเครือสุนทร
ผู้สื่อข่าวสายการเมือง"