ดูกันจะจะ วิวาทะ “สนธิลิ้ม-บูลสกาย-ทีนิวส์” เรื่องแหล่งทุนทีวีจอฟ้า
เปิดวิวาทะคนกันเอง “สนธิลิ้ม ASTV-วิทเยนทร์ Bluesky-สนธิญาณ Tnews” เรื่องแหล่งทุนทีวีจอฟ้า
หลายคนอาจสงสัยว่า “บุคคลท่านหนึ่ง” ที่นายวิทเยนทร์ มุตตามระ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ผู้จัดการสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม Bluesky Channel ต้องโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Vittayen Muttamara กลางดึกวันที่ 14 ต.ค. เพื่อชี้แจงรายรับของ “ทีวีจอฟ้า” ช่องนี้
...หมายถึงใคร???
โดยนายวิทเยนทร์เขียนว่า ตามที่มีบุคคลท่านหนึ่งพูดจากจินตนาการของตัวเอง ว่าแหล่งทุนของ Bluesky Channel มาจากการคอร์รัปชั่น ตนจึงขอชี้แจงว่าทุกบาททุกสตางค์ของ Bluesky Channel เป็นรายได้ที่ได้มาจากการทำหน้าที่ มิได้มาโดยขอรับบริจาคแบบหน้าด้านๆ ครั้งหนึ่งเคยมีคุณป้าระดับเศรษฐีนีจะขอสนับสนุนค่าใช้จ่ายทุกเดือน ตนต้องบอกไปว่าให้ช่วยหาคนมาซื้อโฆษณาดีกว่า ไม่อยากให้บูลสกายฯต้องมาแบมือขอเงินบริจาค
นายวิทเยนทร์ยังเขียนว่า ช่วงแรกเราขาดทุนทุกเดือน ตนและนายเถกิง สมทรัพย์ ผู้อำนวยการ Bluesky Channel ต้องไปขอกู้หนี้ยืมสินคนภายนอกมาเพื่อใช้จ่ายในบริษัท แต่หลังจากทำงานมาได้ 11 เดือนกว่า บลูสกายฯก็ลืมตาอ้าปากได้ โดยคาดว่าเมื่อครบ 1 ปี จะมีรายรับเท่ากับรายจ่าย โดยปัจจุบัน Bluesky Channel มีรายรับ 5 จากแหล่ง 1.รายได้จากการขายโฆษณา 60% 2.รายได้จากการรับสมัครสมาชิกข้อความสั้น (SMS) 10% 3.รายได้จากการจัดกิจกรรมต่างๆ กับผู้ชม เช่น จัดบลูสกายทัวร์เดือนละ 1-2 ครั้ง 15% 4.รายได้จากการขายสินค้าผ่านระบบ Blue Sky Direct อาทิ ข้าวสาร กาแฟ ผงซักฟอก จานดาวเทียม ฯลฯ 10% และ 5.รายได้อื่นๆ อาทิ รายได้จาก SMS ที่ผู้ชมส่งความเห็นมาขึ้นหน้าจอ เป็นต้น
"ที่ผมต้องเขียนแจกแจงเช่นนี้ ก็มีคนท่านหนึ่งลุกขึ้นมานั่งเทียนพูดแบบเลื่อนลอยทำให้ Bluesky Channel เสียหาย และเมื่อเรามุ่งมั่นที่จะนำเสนอข้อเท็จจริงและต่อต้านเรื่องราวต่างๆที่ไม่ถูกต้องในสังคม ผมจึงไม่อาจปล่อยให้ภาพลักษณ์ Bluesky Channel เสื่อมเสียได้" นายวิทเยนทร์เขียนไว้ในเฟซบุ๊ก
เว็บไซต์สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ตรวจสอบพบว่า ก่อนหน้านี้ ในช่วงค่ำวันที่ 12 ต.ค. มีการตั้งข้อสงสัยถึงที่มาของเงินทุน Bluesky Channel ผ่านรายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV มี "นายสนธิ ลิ้มทองกุล" แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เป็นผู้ดำเนินรายการหลัก
หรือ "สนธิลิ้ม" จะเป็นบุคคลท่านหนึ่งของนายวิทเยนทร์
เนื้อหาส่วนหนึ่งจากการถอดเทปชนิดคำต่อคำโดยเว็บไซต์เอเอสทีวีผู้จัดการ http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9550000125477
พิธีกรร่วม - วันนั้นได้ยินคุณสุเทพ (เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ ปชป.) ให้สัมภาษณ์ว่า (เรื่องแหล่งทุนทีวีทั้ง 3 ช่องที่สนับสนุน ปชป.ได้แก่ Bluesky Channel, T-news และ Thai TVD) ว่าทีวีทั้ง 3 ช่องเกิดจากคนที่มีอุดมการณ์เดียวกัน
นายสนธิ - อุดมการณ์ อ๋อ มีใช่ไหม อุดมการณ์ ค่าเช่าดาวเทียม 3 ช่อง ช่องละเกือบ 1 ล้านบาท รวม 3 ล้านบาท ค่าเงินเดือนๆ หนึ่งทั้ง 3 ช่อง ราว 10 ล้านบาท ผมถามว่า อุดมการณ์ใครเอามาลง ถ้าอุดมการณ์เอเอสทีวี เพราะประชาชนเขาสนับสนุน ของพวกคุณนี่มันอุดมการณ์ทางการเมือง คือทั้ง 3 ช่อง ไม่รู้เงินมาจากไหน เอาบัญชีมาให้ดูหน่อยได้ไหม เงินที่ดูผ่านบัญชีว่า ที่มาใช้จ่าย จ่ายค่าดาวเทียม จ่ายค่าโน้นค่านี้ ผมกล้าฟันธงเลยว่า 3 ช่องนี้ จะต้องได้เงินมาจากบางแห่งที่อธิบายไม่ได้
พิธีกรร่วม - มันก็แปลกที่ทุกครั้งมีการวิพากษ์ทีวีดาวเทียมว่า ทำให้เกิดความแตกแยก มักจะมีแค่ช่องเหลืองกับช่องแดง แต่ไม่มีใครพูดถึง เพราะเขาเก่งเรื่องการปล่อยข่าว ชอบเสี้ยมว่าเป็นเพราะเหลืองกับแดง แต่วันนี้มันมีช่องสีฟ้าขึ้นมาด้วย จะตอบอย่างไร
นายสนธิ - ด้วยเหตุนี้ไง เราถึงไม่อยากจะยุ่ง ทั้ง ปชป.และพรรคเพื่อไทย (พท.) เพราะเราไม่ชอบทั้งคู่ ใครชอบ ชอบไป แต่ผมคนหนึ่งไม่เอา แกนนำพันธมิตรฯอีกทั้ง 4 คน ก็ไม่เอาอย่างเด็ดขาด
ขณะที่ "นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม" เจ้าของสำนักข่าว T-news ได้เขียนถึงเรื่องดังกล่าวไว้ในเฟซบุ๊กส่วนตัว สนธิญาณ สำนักข่าวทีนิวส์ เมื่อวันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมา ว่า
"ประกาศ สำนักข่าวทีนิวส์กับข้อเท็จจริงที่ถูกบิดเบือน
ตามที่นายสนธิ ลิ้มทองกุลได้พูดพาดพิงถึง สำนักข่าวทีนิวส์กับทีนิวส์ทีวีนั้น ผมในฐานะผู้ก่อตั้ง ผู้ถือหุ้นใหญ่ และผู้บริหารขอเรียนข้อเท็จจริงให้ทราบโดยทั่วกันดังนี้
สำนักข่าวทีนิวส์ก่อตั้งในปี 2550 เพื่อทำรายงานข่าวทาง SMS ผ่านทางผู้ให้บริการทั้ง 3 ค่ายคือ AIS, DTACและ TRUE ซึ่งผมได้คิดค้นพัฒนามาเป็นธุระกิจเป็นคนแรกของประเทศไทย ก็ประสบความสำเร็จด้วยดี มีสมาชิกถึงวันนี้ประมาณ 3 แสนรายเศษ สามารถหล่อเลี้ยงพนักงานและผู้ถือหุ้นได้ตามสภาพ
จนถึงปี 2553 หลังจากที่ธุระกิจได้พัฒนาแข็งแรงพอสมควร จึงได้จัดตั้ง ทีนิวส์ทีวี ขึ้นเพื่อขยายผลทางธุรกิจให้ครบวงจร และใช้ประโยชน์จากกำลังคนที่มีให้เต็มที่เพราะเพิ่มช่างภาพและทีมงานในห้องสตูดิโอในสัดส่วนไม่เท่าไหร่ก็สามารถทำ สถานีโทรทัศน์ที่สมบูรณ์แบบได้ และเริ่มต้นก็ถ่ายทอดผ่านดาวเทียม NSS 6 โดยมีค่าเช่าเพียงเดือนละ 5 แสนบาทเศษ
จนปัจจุบัน มีดาวเทียมไทยคม มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเดือนละ 1 ล้านบาท ก็ไม่ได้เป็นภาระ เพราะถึงปัจจุบันนี้ มีรายได้จากค่าโฆษณา เดือนละประมาณ 5 ล้านบาทรวมกับรายได้จาก SMS ก็ทำให้พออยู่ได้
การทำธุรกิจของ สำนักข่าวทีนิวส์และทีนิวส์ทีวี ถึงปัจจุบันอยู่ได้ด้วยธุรกิจที่เลี้ยงตัวเองไม่ให้ใหญ่เกินตัวตามสภาพ มีพนักงานเป็นคนรุ่นใหม่ที่ฝึกอบรมกันเองค่าจ้างตามมาตราฐานวิชาชีพไม่สูงเกินไป
ตั้งแต่ก่อตั้งธุรกิจมาไม่เคยประกาศอุดมการณ์ความดีใดๆ ทำงานไปตามหน้าที่ เน้นหนักเปิดโปงขบวนการล้มเจ้า และการเคลื่อนไหวของขบวนการสนับสนุนทักษิณ ที่นำไปสู่การแตกแยก ของคนในชาติด้วยอุดมการณ์ทางชนชั้นซึ่งจะก่อปัญหากับประเทศระยะยาว แต่น้ำหนักอยู่ที่การรายงานข่าวโดยเฉพาะการถ่ายทอดสดและรายงานงานข่าวของทุกฝ่ายอย่างเหมาะสม
30 ปีในวิชาชีพข่าว มีเกียรติมีศักดิ์ศรีเคารพตัวเองไม่เคยประกาศตัวเป็นนักต่อสู้หรือคนดีใดๆ
เพราะไม่เคยคิดว่าตัวเองดีพอที่จะประกาศอะไร แต่ไม่กลัวความไม่ถูกต้องใดๆแม้ต้องแลกกับชีวิตก็ตาม ผมกับคุณสนธิ เคยมีความผูกพันกันด้วยบุญคุณบางประการ เพราะคุณสนธิเคยให้ ผมยืมเงิน 1 แสนบาทโดยการแลกเช็คเพื่อเอามารักษาชีวิต "หนังสือพิมพ์ข่าวพิเศษ" เมื่อ 25 ปีก่อน ซึ่งต่อมาก็ได้ใช้คืนหนี้ไปเป็นที่เรียบร้อย
ด้วยบุญคุณดังกล่าวและในฐานะรุ่นพี่ในวิชาชีพเดียวกันไม่เคยกล่าวล่วงเกินใดๆพี่ ถึงวันนี้ต้องบอกพี่ว่า ผมอยู่ของผมไม่เคยเบียดเบียนพี่ ไม่เบียดเบียนประเทศชาติ ทำหน้าที่ของตัวเองไปตามกำลัง ทุกคนมีศักดิ์ศรีของตัวเอง พี่มี ผมก็มี ใครดีไม่ดีเหมือนพี่พูดครับ เรารู้อยู่แก่ใจเราดีตายไปกรรมจะจัดสรรให้แน่นอนครับ ส่วนหากพี่ต้องการเปรียบเทียบรายชื่อผู้ถือหุ้นและรายรับรายจ่ายของสำนักข่าวทีนิวส์และทีนิวส์ทีวี กับ เอเอสทีวี แม้ทีนิวส์จะไม่ได้เป็นสื่อของประชาชนแต่ก็เป็นองค์กรธุระกิจที่มีความโปร่งใส ผมก็ยินดีครับ
สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม
13 ต.ค.2555”
