“มีขบวนการ discredit กสทช.อย่างเป็นระบบเพื่อล้มประมูล 3 จี” สุทธิพล ทวีชัยการ

จากการเคลื่อนไหวการคัดค้านการประมูล 3 จี ทำให้หลายฝ่ายไม่สบายใจเกรงว่าจะเป็นปัญหาลุกลามบานปลายและเกิดความเสียหายต่อประเทศไทย ตนในฐานะกรรมการ กสทช. และเป็นหนึ่งในกรรมการ กทค. ขอยืนยันว่าได้ดำเนินการในเรื่องนี้ ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต รอบคอบ และใช้ดุลพินิจเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับประเทศชาติในขณะนี้ โดยมุ่งประโยชน์ของประชาชนชาวไทย
อย่างไรก็ตาม ได้ติดตามเรื่องต่างๆ และข้อมูลข่าวสารด้วยความเป็นห่วง รวมทั้งได้มีการหารือ กับผู้ที่เกี่ยวข้อง พร้อมวิเคราะห์สถานการณ์ในเรื่องดังกล่าวดังนี้
(1) การเคลื่อนไหวต่อต้านการประมูลในครั้งนี้มีการนำประเด็นเรื่องสัมปทานมาเกี่ยวข้อง ทั้งๆ ที่ มีหลายคนมีแนวคิดที่ไม่เห็นด้วยกับระบบสัมปทานมาก่อน รวมทั้งเคยผลักดันให้มีการเปลี่ยนจากระบบสัมปทานเป็นระบบการแข่งขัน แต่ตอนนี้มีความพยายามนำเรื่องการประมูลมาเปรียบเทียบกับข้อดีของระบบสัมปทาน ทั้งๆ ที่ ระบบการประมูลคลื่นความถี่จะเป็นการช่วยลดการผูกขาดอำนาจของหน่วยงานของรัฐ เพิ่มการแข่งขันให้ภาคเอกชน ส่งผลให้คุณภาพดีขึ้น และราคาค่าบริการถูกลง
การนำประเด็นเรื่องราคาตั้งต้นการประมูลมาโจมตีว่า กสทช. ตั้งราคาตั้งต้นการประมูลต่ำไป โดยมีการสื่อข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่คลาดเคลื่อน และนำมาเปรียบเทียบกับมูลค่าสัมปทาน ทั้งๆ ที่ การประมูลครั้งนี้เป็นการนำคลื่นความถี่ที่ไม่อยู่ภายใต้สัมปทานมาจัดสรรให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชน โดยมิได้เข้าไปแทนที่ระบบสัมปทาน จึงเป็นเรื่องที่น่ากังขาอย่างยิ่ง
(2) การเคลื่อนไหวคัดค้านการประมูลในครั้งนี้เคลื่อนไหวในประเด็นที่ต้องการเพิ่มรายได้ให้กับรัฐบาล โดยการพยายามให้ กสทช. หารายได้ให้รัฐบาลเยอะๆ และมุ่งโจมตีว่ารัฐบาลจะเสียผลประโยชน์จากการประมูลในครั้งนี้
ทั้งๆ ที่ กสทช. เป็นองค์กรของรัฐก็จริงแต่เป็น “อิสระ” จากรัฐบาลและมิได้มีหน้าที่หารายได้ให้รัฐบาล แต่ต้องจัดสรรคลื่นความถี่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน จึงมีข้อสงสัยว่าเหตุใดจึงเคลื่อนไหวเช่นนั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ขัดต่อบทบาทอำนาจหน้าที่ของ กสทช. ตามรัฐธรรมนูญและกฏหมาย
(3) การให้ กสทช. กำหนดราคาตั้งต้นการประมูลสูงเกินไปโดยไม่มีหลักวิชาการรองรับ ทำให้ส่งผลเป็นการกีดกันผู้ประกอบการรายย่อยไม่ให้เข้าร่วมการประมูลได้ ทำให้ตลาดผูกขาดเฉพาะผู้ประกอบการรายใหญ่เท่านั้น
เหตุใดการคัดค้านจึงต้องการให้ กสทช. กำหนดราคาตั้งต้นที่สูงอย่างไม่มีเหตุผล โดยมีการบิดเบือนข้อเท็จจริงจากผลการศึกษาของคณะผู้วิจัยจากคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เช่นนี้
หาก กสทช. ทำตามข้อเรียกร้อง ย่อมเป็นการทำให้ กสทช. กระทำผิดกฎหมายเนื่องจากถูกมองว่าเอื้อประโยชน์ต่อผู้ประกอบการรายใหญ่และมุ่งหารายได้ให้รัฐบาล โดยไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามกรอบที่รัฐธรรมนูญกำหนดที่จะต้องคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของประชาชน
(4) กระบวนการโจมตีการทำงาน และ discredit กสทช. ถูกทำอย่างเป็นระบบ มีการเคลื่อนไหวตั้งแต่ก่อนการประมูล มีการให้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อน ส่งต่อกันเป็นทอดๆ มีการปลุกระดมโดยใช้สื่อหลายแขนง ซึ่งถ้ากระบวนการนี้ยังดำเนินต่อไปอาจนำไปสู่ความขัดแย้งทางการเมือง ประชาชนบางกลุ่มอาจถูกโน้มน้าวให้เกิดความเข้าใจผิดๆ จนต้องการให้ล้มการประมูล 3 จีครั้งนี้
(5) มีผู้วิพากษ์วิจารณ์ว่า กระบวนการเคลื่อนไหวนี้มิได้เป็นการวิพากษ์วิจารณ์ทางวิชาการอย่างสุจริตใจ เนื่องจากมีการปลุกเร้าให้คนไทยเกลียดชังและหวาดระแวงว่า กสทช. ทำให้รัฐสูญเสียรายได้นับหมื่นล้าน
ทั้งที่จริงๆ แล้ว คลื่นความถี่ที่นำมาประมูลครั้งนี้ รัฐบาลไม่ได้มีต้นทุนใดๆ เนื่องจากเป็นทรัพยากรที่มีอยู่แล้วและใช้ได้ตลอดไปโดยสามารถกำหนดระยะเวลา การใช้ตามอายุของใบอนุญาตได้ เมื่อหมดใบอนุญาตก็สามารถนำมาจัดสรรได้ใหม่ และที่ผ่านมาคลื่นความถี่ย่าน 2.1 GHz จำนวน 45 MHz ก็ ถูกทิ้งไว้เฉยๆ ไม่ได้นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ใดๆ
ตรงกันข้าม หากไม่มีการนำคลื่นความถี่นี้มาจัดสรร หรือประวิงเวลาให้การจัดสรรคลื่นย่านความถี่นี้ต้องล่าช้าออกไป จะทำให้เกิดวิกฤตต่อระบบโทรคมนาคมของไทยและเกิดความเสียหายต่อประเทศชาติ อย่างมหาศาล
(6) อีกไม่ถึง 2 ปี เราก็จะเข้าสู่ AEC แล้ว หากประเทศไทยยังมีระบบโทรคมนาคมที่ไม่มีประสิทธิภาพเราก็จะแข่งขันกับประเทศอื่นๆ ไม่ได้ และเมื่อบริษัทโทรคมนาคมของต่างชาติเข้ามาแข่งขัน บริษัทโทรคมนาคมของไทยจะไม่มีโอกาสเติบโตได้ การขัดขวางผลการประมูล 3 จี จะทำให้ต่างชาติได้ประโยชน์แต่ประเทศไทยเสียหายย่อยยับ
จึงมีหลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็นเรื่องที่ผิดปกติที่มีการเคลื่อนไหวในเรื่องนี้โดยทำให้ประเทศชาติเสียหาย แต่ต่างชาติได้ประโยชน์
(7) มีการโจมตีการทำงานของ กทค. เช่น โจมตีว่า กทค. เร่งรับรองผลการประมูล และ รีบให้ใบอนุญาตโดยพิรุธ ทั้งๆ ที่สื่อมวลชนก็เห็นแล้วว่าเราได้มีการถ่ายทอดเสียงในวันพิจารณาผลการประมูล โดยมีการพิจารณาอย่างรอบคอบ ไม่ได้มุบมิบแอบทำ และไม่ได้ลุกลี้ลุกลนแต่ต้องดำเนินการตามกรอบเวลาที่กฎหมายกำหนด
นอกจากนี้ มีการกล่าวหาว่า กสทช. เร่งรัดออกใบอนุญาตให้ผู้ชนะการประมูล ซึ่งไม่เป็นความจริง ดังจะเห็นได้จากวันนี้ที่ กทค. ได้แถลงการณ์ยืนยันว่ามีเงื่อนไขที่ผู้ประกอบการจะต้องดำเนินการก่อนให้บริการ 3 จี ซึ่งเราต้องแน่ใจก่อนว่าผู้ประกอบการต้องทำตามเงื่อนไขที่เรากำหนดก่อนว่าประชาชนผู้ใช้บริการได้รับประโยชน์สูงสุด
จึงขอวิงวอนให้ประชาชนชาวไทยรับฟังข้อมูลต่างๆ อย่างมีสติ ไตร่ตรองให้รอบคอบ อย่าให้การยั่วยุใดๆ อยู่เหนือเหตุผลจนทำให้คนไทยเกลียดชังกัน และมองข้ามประโยชน์ที่คนไทยจะได้รับจากการประมูล 3 จี บทเรียนความขัดแย้งทางการเมืองในอดีตที่เกิดความเสียหายอย่างเจ็บปวดต่อประเทศชาติ จึงคงไม่มีใครต้องการให้เหตุการณ์ความขัดแย้งนี้เกิดขึ้นอีก
ซึ่งผมขอยืนยันว่าการเมืองไม่ได้มาเกี่ยวข้องในการที่ กสทช. จัดประมูล 3 จี ในครั้งนี้ โดยบอร์ดกระทำการโดยบริสุทธิ์ใจและทำเพื่อประโยชน์ของคนไทย จึงขอให้ประชาชนชาวไทยมั่นใจว่า กสทช. จะสานต่อภารกิจเพื่อชาติให้สำเร็จให้ได้
เพื่อให้การจัดสรรคลื่นความถี่สำหรับเทคโนโลยี 3 จี ซึ่งเป็นการประมูลคลื่นความถี่ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชาติไทย เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและประชาชนอย่างแท้จริง
หมายเหตุ : นายสุทธิพล ทวีชัยการ เป็นกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และเป็นกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) เสียงข้างมากที่ลงมติรับรองผลการประมูล 3 จี ในวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา
