แกะรอยประชุมโอไอซี กับท่าทีข้องใจของรัฐมนตรีถาวร เสนเนียม
หลายเสียงในรัฐบาลชี้แจงว่าสถานการณ์ไฟใต้ที่ร้อนระอุในช่วงนี้ มีสาเหตุสำคัญมาจากความพยายามก่อเหตุรุนแรงเพื่อยกระดับปัญหาสู่เวทีโลก เนื่องจากใกล้ถึงการประชุมองค์การการประชุมอิสลาม หรือโอไอซี ซึ่งจะมีขึ้นในเดือน มี.ค. ข้อมูลนี้จริงหรือไม่ก็ไม่ทราบ แต่ในเมื่อเป็นข้อมูลจากทางฝั่งรัฐบาล เราๆ ท่านๆ ในฐานะประชาชนตาดำๆ ก็ต้องรับฟังเอาไว้ก่อน
อย่างไรก็ดี รัฐบาลก็ไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ มากไปกว่าย่อหน้าข้างบนนี้ "ทีมข่าวอิศรา" จึงไปค้นข้อมูลเกี่ยวกับโอไอซีมารายงาน
"โอไอซี" เป็นชื่อย่อของ "องค์การการประชุมอิสลาม" หรือ Organization of the Islamic Conference (OIC) ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อปี ค.ศ.1971 หรือ พ.ศ.2514 จากผลการประชุมของผู้นำชาติมุสลิม 35 ชาติเมื่อ 2 ปีก่อนหน้า (1969) ปัจจุบันมีสมาชิก 57 ประเทศ จาก 4 ทวีป คือเอเชีย ยุโรป อัฟริกา และอเมริกาใต้ ถือเป็นองค์กรนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดของโลกมุสลิม
สำหรับประเทศไทยไม่ได้เป็นสมาชิกโอไอซี แต่มีสถานะเป็น "ผู้สังเกตการณ์" ร่วมกับอีกหลายๆ ประเทศ เช่น รัสเซีย
การประชุมที่สำคัญของโอไอซี ได้แก่ การประชุมสุดยอดผู้นำชาติมุสลิม หรือ The Islamic Summit Conference ซึ่งจะจัดขึ้นทุกๆ 3 ปี ครั้งล่าสุดเมื่อเดือน มี.ค.ปี ค.ศ.2008 (พ.ศ.2551) นับเป็นการประชุมครั้งที่ 11 จัดที่ประเทศเซเนกัล
การประชุมอีกระดับหนึ่งคือ ระดับรัฐมนตรีต่างประเทศโอไอซี จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ครั้งที่แล้วเมื่อเดือน พ.ค.ปี ค.ศ.2010 (พ.ศ.2553) ที่ประเทศคาซัคสถาน ซึ่งนับเป็นการประชุมครั้งที่ 37
พิจารณาจากข้อมูลของรัฐบาล การประชุมโอไอซีที่พูดถึง น่าจะหมายถึงการประชุมสุดยอดผู้นำชาติอิสลามในเดือน มี.ค.ปีนี้ ซึ่งจะเป็นการประชุมครั้งที่ 12 จัดที่ประเทศอียิปต์
ส่วนจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้สถานการณ์ในภาคใต้ของไทยร้อนแรงขึ้นหรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องติดตาม!
"ถาวร"ข้องใจโอไอซีไม่เคยถามข้อมูล จนท.ตาย
ข้อคิดเห็นที่เกี่ยวกับโอไอซี นอกจาก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ให้สัมภาษณ์ในเรื่องนี้แล้ว ยังมี นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กำกับดูแลศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ด้วย โดยท่าทีของ นายถาวร ที่มีต่อโอไอซี นับว่าน่าสนใจ เพราะไม่ได้พูดแค่ว่าเป็นเหตุปัจจัยที่ทำให้ไฟใต้คุโชนมากขึ้นหรือไม่เท่านั้น
นายถาวร กล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ 24 ม.ค.เอาไว้แบบนี้...
"ผมพูดตรงๆ ว่าฝ่ายตรงข้ามยั่วยุเพื่อให้รัฐใช้ความรุนแรง เพื่อหยิบยกเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมโอไอซีในช่วงเดือน มี.ค.และการประชุมครั้งดังกล่าวกระทรวงการต่างประเทศจะไปชี้แจง เนื่องจากเมื่อวันที่ 19 ม.ค. ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุคนร้ายบุกโจมตีฐานทหาร (ที่ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส) เจ้าหน้าที่โอไอซีได้เดินทางเข้าพบ นายชวรัตน์ ชาญวีรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยมาหาข้อมูลและตรวจสอบตามเป้าหมายว่า รัฐบาลใช้ความรุนแรงกับคนไทยมุสลิมหรือไม่"
"ผมทราบว่าโอไอซีไม่เคยถามเลยว่า ผู้ก่อความไม่สงบกระทำต่อเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนผู้บริสุทธิ์จนบาดเจ็บและเสียชีวิตเท่าใด" นายถาวร กล่าว
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ยังยืนยันข้อมูลเชิงสถิติการเกิดเหตุรุนแรงว่า ลดจำนวนลงอย่างชัดเจน แสดงให้เห็นถึงสถานการณ์ที่ดีขึ้น ส่วนเหตุการณ์พิเศษที่เกิดขึ้น (เช่น คนร้ายโจมตีฐานทหาร) ต้องไปตรวจสอบกับผู้รับผิดชอบในพื้นที่นั้น
"งานของคนอื่นผมไม่อยากก้าวก่าย แต่วันนี้ภาคใต้มีกี่กองร้อยไปคิดเอาเอง ไม่ต้องออกจากปากผม" นายถาวร กล่าว พร้อมย้ำว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่กระทบกับแนวทางทยอยยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินซึ่งรัฐบาลจะเดินหน้าต่อไป
ส่วนความคืบหน้าการจัดทำร่างระเบียบ ศอ.บต. หลังจากพระราชบัญญัติการบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 หรือกฎหมาย ศอ.บต.ฉบับใหม่ มีผลบังคับใช้นั้น นายถาวร บอกว่า ขณะนี้ดำเนินการเสร็จแล้ว 3 ระเบียบ คือ
1.ระเบียบว่าด้วยการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ และคณะอนุกรรมการ หรือคณะทำงานที่คณะกรรมการยุทธศาสตร์ได้จัดตั้งขึ้น
2.ระเบียบกำหนดหลักเกณฑ์วิธีการและระยะเวลาในการสั่งเจ้าหน้าที่ของฝ่ายพลเรือนออกจากพื้นที่ ในกรณีที่บุคคลเหล่านั้นทำให้เกิดความเสียหายต่อประชาชน หรือก่อให้เกิดปัญหาด้านความมั่นคง โดยจะกำหนดให้เลขาธิการ ศอ.บต.เป็นผู้มีอำนาจสามารถสั่งให้ออกจากพื้นที่ได้
3. ระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์การคัดเลือกเพื่อให้ได้มาซึ่งสมาชิกสภาที่ปรึกษาด้านการบริหารการพัฒนา ซึ่งมาจากกลุ่มต่างๆ ทั้งหมด 12 กลุ่มในพื้นที่ รวม 49 คน ซึ่งระเบียบทั้ง 3 ฉบับผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้แล้ว
---------------------------------------------------------------------------------------------------------
หมายเหตุ : ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
