แหวกพิรุธสอบเลื่อนชั้น DSI ข้อสอบอัตนัย 900 ข้อ “ธาริต” ตรวจวันเดียวเสร็จ !
เปิดคำวินิจฉัยร้อนๆ ของ กวฉ.สาขาสังคมฯ ที่พบพิรุธการสอบเลื่อนชั้น ขรก.ดีเอสไอ โดยสงสัยว่า “ธาริต เพ็งดิษฐ์” อาจจะให้คะแนน โดยไม่ได้ตรวจข้อสอบ

คำวินิจฉัยคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร สาขาสังคม การบริหารราชการแผ่นดินและการบังคับใช้กฎหมาย ที่ สค 70/2555
เรื่อง อุทธรณ์คำสั่งไม่เปิดเผยข้อมูลข่าวสารของกรมสอบสวนคดีพิเศษเกี่ยวกับการคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้ง ให้ดำรงตำแหน่งสูงขึ้น
-----------------
ผู้อุทธรณ์ : นาย ก. และคณะ
หน่วยงานของรัฐที่รับผิดชอบ : กรมสอบสวนคดีพิเศษ
อุทธรณ์เรื่องนี้ได้ความว่า ผู้อุทธรณ์ซึ่งได้แก่นาย ก. และคณะ ผู้อุทธรณ์เป็นข้าราชการสังกัด กรมสอบสวนคดีพิเศษ มีหนังสือ ด่วนที่สุด ลงวันที่ 17 สิงหาคม 2554 ถึงอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ผ่านผู้อำนวยการกลุ่มบริหารทรัพยากรบุคคล) และหนังสือลงวันที่ 5 มกราคม 2555 ถึงผู้อำนวยการกลุ่มบริหาร ทรัพยากรบุคคล ขอเอกสารที่เกี่ยวกับกระบวนการคัดเลือกข้าราชการเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งพนักงานสอบสวนคดีพิเศษชำนาญการพิเศษ และเจ้าหน้าที่คดีพิเศษชำนาญการพิเศษ ดังนี้
1. มติ อ.ก.พ. กรมสอบสวนคดีพิเศษที่เกี่ยวข้องกับการคัดเลือกในครั้งนี้
2. บันทึกข้อความแจ้งการประกาศเกณฑ์การคัดเลือก และเกณฑ์การคัดเลือกตามมติ อ.ก.พ. กรมสอบสวนคดีพิเศษ
3. บันทึกข้อความที่เสนออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษลงนามในประกาศรับสมัครคัดเลือก
4. ประกาศรับสมัครคัดเลือกข้าราชการ
5. บันทึกข้อความที่เสนออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษลงนามในประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเข้ารับการคัดเลือก
6. ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเข้ารับการคัดเลือก
7. บันทึกข้อความที่เสนออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษลงนามในประกาศรายชื่อผู้ผ่านการ สอบข้อเขียนเพื่อเข้ารับการสัมภาษณ์
8. ประกาศรายชื่อผู้ผ่านการสอบข้อเขียนเพื่อเข้ารับการสัมภาษณ์
9. บันทึกข้อความที่เสนออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษลงนามในประกาศรายชื่อผู้ผ่านการ คัดเลือกเข้ารับการประเมินผล
10. ประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกเข้ารับการประเมินผล
11. คำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือกและกรรมการประเมินผลงานทุกคำสั่ง
12. หนังสือเชิญประชุมคณะกรรมการคัดเลือกเพื่อมีมติกรณีเกี่ยวกับผลการสอบข้อเขียน
13. รายงานการประชุมคณะกรรมการคัดเลือกเพื่อมีมติกรณีผู้ผ่านการสอบข้อเขียนเพื่อเข้ารับการสัมภาษณ์
14. หนังสือเชิญประชุมคณะกรรมการคัดเลือกเพื่อมีมติกรณีเกี่ยวกับการดำเนินการกับผู้ผ่าน การสอบข้อเขียนเพื่อเข้ารับการสัมภาษณ์
15. รายงานการประชุมคณะกรรมการคัดเลือกเพื่อมีมติกรณีผู้ผ่านการคัดเลือก (สัมภาษณ์) เพื่อเข้ารับการประเมินผลงาน
16. เอกสารแสดงผลคะแนนสอบข้อเขียนของผู้เข้ารับการสอบข้อเขียนทั้งหมดเรียง ตามลำดับเลขที่สมัครเข้าสอบคัดเลือกในแต่ละประเภทพร้อมสมุดคำตอบทุกคน
17. คำถามและธงคำตอบในการสอบข้อเขียน รวมถึงเกณฑ์การให้คะแนนในแต่ละส่วน หลักเกณฑ์ วิธีการ เหตุผล ในการประเมินผลงาน (การสอบทั้งสามประเภทใช้ข้อสอบฉบับเดียวกัน)
กลุ่มบริหารทรัพยากรบุคคล กรมสอบสวนคดีพิเศษ มีหนังสือ ที่ ยธ (กบค.) 0801.2/1634 ลงวันที่ 23 ธันวาคม 2554 และหนังสือ ที่ ยธ (กบค.) 0801.2/ ว. 97 ลงวันที่ 16 มกราคม 2555 ถึง ผู้อุทธรณ์สรุปได้ความว่า คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารกรมสอบสวนคดีพิเศษมีมติให้เปิดเผยข้อมูลข่าวสาร รายการที่ 1 ถึงรายการที่ 15 ยกเว้นข้อมูลข่าวสารรายการที่ 12 รายการที่ 13 และรายการที่ 14 ซึ่งไม่มีการดำเนินการ เนื่องจากคณะกรรมการคัดเลือกได้ประชุมเพื่อรับรองผลการคัดเลือกทั้งหมดตามข้อมูลข่าวสารรายการที่ 15 สำหรับข้อมูลข่าวสารรายการที่ 16 ซึ่งผู้อุทธรณ์ขอตรวจดูขอสำเนากระดาษคำตอบ คะแนนของตนเองและผู้อื่นนั้น ให้สำเนากระดาษคำตอบที่มีคะแนนของผู้อุทธรณ์ ให้ดูกระดาษคำตอบของผู้อื่นโดยไม่ให้สำเนาและให้ปกปิดชื่อและคะแนนเพื่อไม่ให้ทราบว่าเป็นของผู้ใด และให้ดูคะแนนของผู้อื่นได้โดยให้ปกปิดชื่อเพื่อไม่ให้ทราบว่าเป็นของผู้ใด ทั้งนี้ กลุ่มบริหารทรัพยากรบุคคลได้จัดลำดับการดูกระดาษคำตอบของผู้อุทธรณ์แล้ว จึงขอให้มาดูเอกสารตามวันเวลาที่กลุ่มบริหารทรัพยากรบุคคลกำหนด
ผู้อุทธรณ์มีหนังสือลงวันที่ 6 มกราคม 2555 และหนังสือลงวันที่ 19 มกราคม 2555 ถึง ประธานกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ อุทธรณ์คำสั่งของกรมสอบสวนคดีพิเศษที่มิให้เปิดเผยข้อมูล ข่าวสารดังกล่าว
คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารสาขาสังคม การบริหารราชการแผ่นดินและการบังคับใช้กฎหมายพิจารณาคำอุทธรณ์ คำชี้แจงของผู้อุทธรณ์ หนังสือกรมสอบสวนคดีพิเศษ ด่วนที่สุด ที่ ยธ 0801.2/339 ลงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2555 ถึงประธานกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารสาขาสังคมฯ และเอกสารที่เกี่ยวข้องแล้วปรากฏข้อเท็จจริงสรุปได้ความว่า ผู้อุทธรณ์มีหนังสือ ด่วนที่สุด ลงวันที่ 17 สิงหาคม 2554 ถึงอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ผ่านผู้อำนวยการกลุ่มบริหารทรัพยากรบุคคล) และหนังสือ ลงวันที่ 5 มกราคม 2555 ถึงผู้อำนวยการกลุ่มบริหารทรัพยากรบุคคล ขอเอกสารที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการ คัดเลือกข้าราชการเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งพนักงานสอบสวนคดีพิเศษชำนาญการพิเศษ และเจ้าหน้าที่คดีพิเศษชำนาญการพิเศษ จำนวน 17 รายการ แต่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้เปิดเผยข้อมูลข่าวสารเพียงบางส่วน ผู้อุทธรณ์จึงอุทธรณ์คำสั่งของกรมสอบสวนคดีพิเศษที่ไม่เปิดเผยข้อมูลข่าวสารดังกล่าว
ในชั้นพิจารณาของคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารสาขาสังคมฯ ผู้แทนกรมสอบสวนคดีพิเศษชี้แจงเพิ่มเติมว่า อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษให้นำเรื่องที่ผู้อุทธรณ์ร้องขอข้อมูลข่าวสารให้คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารกรมสอบสวนคดีพิเศษพิจารณา และผู้อุทธรณ์ได้ฟ้องคดีต่อศาลปกครองกลางซึ่งมีการไต่สวนและได้มีการชี้แจงต่อศาลปกครองกลางแล้ว การคัดเลือกข้าราชการครั้งนี้ อ.ก.พ.กรมสอบสวนคดีพิเศษ มีมติให้อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นผู้ออกข้อสอบและตรวจกระดาษคำตอบการสอบข้อเขียนเป็น เพียงส่วนหนึ่งในกระบวนการคัดเลือก ซึ่งการสอบข้อเขียนจะมีคำถาม 4 ข้อๆ ละ 10 คะแนน ผู้สอบผ่าน จะต้องได้คะแนน 60 % คือ 24 คะแนน อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษใช้เวลาในการตรวจกระดาษคำตอบ 2 วัน และเมื่อสอบผ่านข้อเขียนแล้วจะต้องสอบสัมภาษณ์ต่อไป
สำหรับข้อมูลข่าวสารที่ผู้อุทธรณ์ร้องขอนั้น ได้ให้ข้อมูลข่าวสารรายการที่ 1 ถึงรายการที่ 15 แก่ผู้อุทธรณ์แล้ว ยกเว้นข้อมูลข่าวสารรายการที่ 12 ถึงรายการที่ 14 ซึ่งไม่มีการดำเนินการเนื่องจากคณะกรรมการคัดเลือกได้ประชุมเพื่อรับรองผลการคัดเลือกทั้งหมดตามข้อมูลข่าวสารรายการที่ 15 สำหรับข้อมูลข่าวสารรายการที่ 16 ได้แจ้งให้ผู้อุทธรณ์มาดูกระดาษคำตอบและคะแนนแล้ว ตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม 2555 เป็นต้นไป และข้อมูลข่าวสารรายการที่ 17 ที่ไม่ได้แจ้งให้ผู้อุทธรณ์ทราบนั้น เนื่องจากมีการชี้แจงในชั้นไต่สวนของศาลปกครองกลางแล้ว โดยกระดาษคำถามสามารถให้สำเนาแก่ผู้อุทธรณ์ได้ ส่วนธงคำตอบและเกณฑ์การให้คะแนนไม่มีการจัดทำไว้ สำหรับมติ อ.ก.พ.กรมสอบสวนคดีพิเศษ ครั้งที่ 2 และ 3 และรายงานการประชุมคณะกรรมการคัดเลือก ครั้งที่ 1 สามารถให้สำเนาแก่ผู้อุทธรณ์ได้
ผู้อุทธรณ์ชี้แจงเพิ่มเติมว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษยังไม่เปิดเผยกระดาษคำตอบของผู้สอบได้ คำถาม ธงคำตอบ หลักเกณฑ์การให้คะแนน มติ อ.ก.พ.กรมสอบสวนคดีพิเศษ ครั้งที่ 2 และ 3 และรายงาน การประชุมคณะกรรมการคัดเลือก ครั้งที่ 1 ซึ่งข้อมูลข่าวสารดังกล่าวต้องใช้ประกอบการดำเนินคดีปกครอง เพื่อแสดงให้ศาลเห็นว่าไม่มีการตรวจกระดาษคำตอบจริง เนื่องจากเป็นการสอบข้อเขียน จำนวน 4 ข้อ และมีผู้เข้าสอบจำนวน 245 คน ซึ่งเท่ากับมีจำนวนคำตอบ จำนวน 980 ข้อ การที่อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษใช้เวลาในการตรวจกระดาษคำตอบเพียง 1 วัน แล้วมีการประกาศผลสอบข้อเขียน จึงทำให้เชื่อว่าไม่มีการตรวจกระดาษคำตอบจริง ประกอบกับใบผลคะแนนสอบข้อเขียนที่อยู่หน้ากระดาษคำตอบลายมือผู้เขียนคะแนน ก็ไม่ใช่ลายมือของอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และในประเด็นนี้ศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวมิให้มีการแต่งตั้งผู้ได้รับการคัดเลือกแล้ว
คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารสาขาสังคม การบริหารราชการแผ่นดินและการบังคับใช้กฎหมายพิจารณาแล้วเห็นว่า เมื่อกรมสอบสวนคดีพิเศษแจ้งผู้อุทธรณ์ว่า ได้เปิดเผยข้อมูลข่าวสาร รายการที่ 1 ถึงรายการที่ 15 ให้ผู้อุทธรณ์แล้ว ยกเว้นข้อมูลข่าวสารรายการที่ 12 ถึงรายการที่ 14 ซึ่งไม่มีการดำเนินการ เนื่องจากคณะกรรมการคัดเลือกได้ประชุมเพื่อรับรองผลการคัดเลือกทั้งหมดตามข้อมูลรายการที่ 15 กรณีจึงไม่มีประเด็นที่ต้องพิจารณา ส่วนข้อมูลข่าวสารรายการที่ 16 การที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ให้สำเนากระดาษคำตอบที่มีคะแนนของผู้อุทธรณ์และให้ดูกระดาษคำตอบของผู้อื่นโดยปกปิดชื่อและคะแนนและไม่ให้สำเนา และให้ดูคะแนนของผู้อื่นโดยให้ปกปิดชื่อเพื่อไม่ให้ทราบว่าเป็นของผู้ใดนั้น เห็นว่าลักษณะการให้คะแนนที่ปรากฏอยู่ในแบบฟอร์มการให้คะแนนและไม่ปรากฏอยู่ในกระดาษคำตอบจึงเป็นเหตุให้เกิดความสงสัยว่ามีการตรวจกระดาษคำตอบจริงหรือไม่ หรือตรวจได้มาตรฐานหรือไม่ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้อุทธรณ์แสวงหาความยุติธรรมในชั้นศาลต่อไป จึงให้เปิดเผยชื่อ คะแนนและกระดาษคำตอบของผู้สอบได้ทั้งหมด พร้อมทั้งให้สำเนาที่มีคำรับรองถูกต้องแก่ผู้อุทธรณ์ โดยมีเงื่อนไขให้ผู้อุทธรณ์ใช้ข้อมูลดังกล่าวในการดำเนินคดีในชั้นศาลเท่านั้น สำหรับข้อมูลข่าวสารรายการที่ 17 เฉพาะธงคำตอบและเกณฑ์การให้คะแนน เมื่อกรมสอบสวนคดีพิเศษแจ้งว่าไม่มี จึงไม่มีประเด็นต้องวินิจฉัยว่าเป็นข้อมูลข่าวสารที่เปิดเผยให้ผู้อุทธรณ์ทราบได้หรือไม่
ทั้งนี้ หากผู้อุทธรณ์ไม่เชื่อตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษชี้แจง ผู้อุทธรณ์สามารถใช้สิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการ ข้อมูลข่าวสารของราชการตามมาตรา 33 แห่งพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 เพื่อให้ตรวจสอบต่อไปได้ สำหรับกระดาษคำถาม และมติ อ.ก.พ.กรมสอบสวนคดีพิเศษ ครั้งที่ 2 และ 3 และรายงาน การประชุมคณะกรรมการคัดเลือกเพื่อมีมติกรณีผู้ผ่านการสอบข้อเขียนเพื่อเข้ารับการสัมภาษณ์ ครั้งที่ 1 เมื่อ กรมสอบสวนคดีพิเศษแจ้งว่าสามารถเปิดเผยและให้สำเนาแก่ผู้อุทธรณ์ได้ จึงให้กรมสอบสวนคดีพิเศษให้สำเนากระดาษคำถาม มติ อ.ก.พ.กรมสอบสวนคดีพิเศษ ครั้งที่ 2 และ 3 และรายงานการประชุมคณะกรรมการ คัดเลือกเพื่อมีมติกรณีผู้ผ่านการสอบข้อเขียนเพื่อเข้ารับการสัมภาษณ์ ครั้งที่ 1 แก่ผู้อุทธรณ์
ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารสาขาสังคม การบริหารราชการแผ่นดินและการบังคับใช้กฎหมาย จึงวินิจฉัยให้กรมสอบสวนคดีพิเศษเปิดเผยชื่อ คะแนนและกระดาษคำตอบของผู้สอบได้ทั้งหมด พร้อมทั้งให้สำเนาที่มีคำรับรองถูกต้องแก่ผู้อุทธรณ์ โดยมีเงื่อนไขให้ผู้อุทธรณ์ใช้ยื่นต่อศาลเท่านั้น และให้สำเนากระดาษคำถาม มติ อ.ก.พ.กรมสอบสวนคดีพิเศษ ครั้งที่ 2 และ 3 และรายงานการประชุมคณะกรรมการ คัดเลือกเพื่อมีมติกรณีผู้ผ่านการสอบข้อเขียนเพื่อเข้ารับการสัมภาษณ์ ครั้งที่ 1 ที่มีคำรับรองถูกต้องแก่ผู้อุทธรณ์
นายสมยศ เชื้อไทย หัวหน้าคณะที่ 3
นายธรรมรักษ์ การพิศิษฎ์ กรรมการ
นายสุพจน์ ไพบูลย์ กรรมการ
นายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ กรรมการ
ศาสตราจารย์ ปรีดี เกษมทรัพย์ กรรมการผู้รับผิดชอบสำนวนอุทธรณ์
สำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ วันที่ 29 พฤษภาคม 2555
