เปิดผลสอบสตง. ฟันบิ๊กขรก.-เอกชน ปั้น“ภัยพิบัติ” ขายยากำจัดศัตรูพืช 48 ล้าน?
“การประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ในวันที่ 30 กันยายน 2554 ไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นและไม่ได้เกิดความเสียหายจนเกษตรกรต้องการความช่วยเหลือแต่อย่างใด”

@@ ปูมหลัง
สำนักตรวจสอบพิเศษภาค 6 ได้รับเรื่องร้องเรียน กล่าวหาว่ามีการทุจริตในการดำเนินโครงการช่วยเหลือผู้ผลิตยางพาราและข้าว ปีงบประมาณ 2554 ของจังหวัดบึงกาฬ
ผลการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น สรุปได้ว่าเป็นการใช้งบประมาณเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน อำนาจอนุมัติเป็นของบิ๊กข้าราชการ จัดทำโครงการจัดซื้อผลิตภัณฑ์กำจัดศัตรูพืช ประจำปี 2554 ของจังหวัดบึงกาฬ 2 โครงการ คือ โครงการจัดซื้อสารเคมี “ คาร์เบนดาซิม ” ตามโครงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยกรณีฉุกเฉิน กรณีโรคระบาด (ข้าว) ขนาดบรรจุขวดละ 1,000 cc จำนวน 28,211.5 ขวด งบประมาณ 48,927,963 บาท และโครงการจัดซื้อสารเคมี “ เบโนมิล 50% wp ” ตามโครงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยกรณีฉุกเฉิน กรณีโรคระบาด (ยางพารา) ขนาดบรรจุกล่องละ 500 กรัม จำนวน 25,371 กล่อง งบประมาณ 48,700,800 บาท
จากการตรวจสอบพบพฤติการณ์น่าเชื่อว่าเป็นการทุจริตหรือมีการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบก่อให้เกิดความเสียหายแก่เงินหรือทรัพย์สินของทางราชการ มีรายละเอียดดังนี้
1. กระบวนการดำเนินการก่อนการจัดซื้อ
1.1 การรายงานเหตุด่วนสาธารณภัยและการประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินโรคระบาดด้านพืช (ยางพารา)
ในห้วงเดือนก่อนเดือนมิถุนายน 2554 อำเภอต่าง ๆ ได้รับนโยบายจากบิ๊กข้าราชการ จังหวัดบึงกาฬ ให้สำรวจพื้นที่ประสบภัยโรคระบาดยางพาราแต่ละอำเภอ และหากพบว่ามีโรคระบาดถึงขั้นรุนแรงให้แต่ละอำเภอรายงานเหตุด่วนสาธารณภัย เพื่อจะได้ออกประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินในแต่ละอำเภอและดำเนินการช่วยเหลือต่อไป
ต่อมาระหว่างวันที่ 21 กันยายน 2554 ถึงวันที่ 3 ตุลาคม 2554 นายอำเภอทั้ง 8 อำเภอของจังหวัดบึงกาฬ ได้รายงานพื้นที่ประสบภัยด้านโรคเชื้อราในยางพารา และระบุความเสียหายเบื้องต้นเป็นจำนวนไร่ และจำนวนเงินงบประมาณ ตามแบบรายงานเหตุด่วนสาธารณภัย ถึงบิ๊กข้าราชการในจังหวัดบึงกาฬ
วันที่ 30 กันยายน 2554 จังหวัดบึงกาฬ ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินโรคระบาดด้านพืช (ยางพารา) ในพื้นที่แต่ละอำเภอ (ประกาศแยกเป็นรายอำเภอ) เพื่อจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือเป็นกรณีเร่งด่วน
1.2 การประชุมคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติระดับอำเภอ
ระหว่างวันที่ 4-7 ตุลาคม 2554 ทั้ง 8 อำเภอ ได้มีการประชุมคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติอำเภอ (ก.ช.ภ.อ.) เพื่อตรวจสอบพื้นที่สวนยางพาราที่เกิดโรคระบาดและพิจารณาให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กระทรวงการคลังได้กำหนดไว้ โดยแต่ละอำเภอได้มีการจัดทำรายงานการประชุม มีการระบุในรายงานการประชุมว่าได้รับแจ้งจากผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่ว่ามีพื้นที่เกิดโรคระบาดยางพารา โดยให้เกษตรอำเภอดำเนินการตรวจสอบและยืนยันความเสียหายและกำหนดพื้นที่ที่ต้องได้รับการช่วยเหลือ
นอกจากนั้นในรายงานการประชุมได้มีการบันทึกคำชี้แจงของเกษตรอำเภอ หรือเลขานุการคณะกรรมการ หรือประธานฯ ถึงการใช้สารเคมี “เบโนมิล 50% wp” และมีการระบุปริมาณการใช้และราคา 1,920 บาท/500 กรัม (ขณะนั้นยังไม่มีการกำหนดราคากลาง)
1.3 การประชุมคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจังหวัด
วันที่ 7 ตุลาคม 2554 คณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจังหวัด (ก.ช.ภ.จ.) มีการประชุมครั้งที่ 5/2554 ลงวันที่ 7 ตุลาคม 2554 สาระสำคัญของการประชุมสรุปได้ว่ากรณีการเกิดโรคระบาด ในสวนยางพาราตามที่จังหวัดบึงกาฬประกาศให้พื้นที่ทั้ง 8 อำเภอเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน จึงมีมติที่ประชุมอนุมัติในหลักการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรตามระเบียบและหลักเกณฑ์โดยใช้จ่ายจากเงินทดรองราชการ เป็นค่าใช้จ่ายในการจัดหาสารประเภท เบโนมิล 50% WP หรือเมธาแลคซิล 25% WP หรือ ฟอสอีทิลอลูมิเนียม 80% WP โดยมอบหมายฝ่ายเลขานุการแต่งตั้งคณะกรรมการกำหนดราคากลาง อนึ่งเกษตรจังหวัดบึงกาฬแนะนำวิธีการใช้สารเคมีประเภท เบโนมิล 50% WP อัตราการใช้ 500 กรัม ต่อ 2 ไร่
1.4 การจัดทำราคาที่จัดซื้อ
วันที่ 11 ตุลาคม 2554 สำนักงานป้องกันและบรรเทาและสาธารณภัยจังหวัดบึงกาฬ มีบันทึกข้อความ ด่วนที่สุด ที่ ปค 0034/1626 เสนอการแต่งตั้งคณะกรรมการกำหนดราคากลางสารป้องกันเชื้อรา เบโนมิล 50 % wp ขนาดบรรจุ 500 กรัม ประกอบด้วยปลัดจังหวัดบึงกาฬ เป็นประธาน นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ สำนักงานเกษตรจังหวัดบึงกาฬ เป็นกรรมการ และรักษาการป้องกันจังหวัดบึงกาฬ เป็นกรรมการ/เลขานุการ
วันที่ 13 ตุลาคม 2554 คณะกรรมการกำหนดราคาที่จัดซื้อ ได้กำหนดราคากลางโดยอ้างว่าได้พิจารณาราคาตามท้องตลาดที่ผู้ประกอบการในพื้นที่เสนอราคา สารเบโนมิล 50 % wp ขนาดบรรจุ 500 กรัม ราคาไม่เกินขวดละ 1,920 บาท คณะกรรมการฯ จึงกำหนดราคากลางที่ควรจะซื้อผลิตภัณฑ์กำจัดศัตรูพืช เบโนมิล 50 % wp ราคาไม่เกิน 384/100 กรัม (1,920 บาท / 500 กรัม)
1.5 การอนุมัติวงเงินทดรองราชการ
วันที่ 14 ตุลาคม 2554 มีการจัดทำบันทึกด่วนที่สุดที่ บก 0034/1159 ลงวันที่ 14 ตุลาคม 2554 ถึงคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจังหวัดบึงกาฬ อ้างถึงมติ ที่ประชุม ก.ช.ภ.จ. ครั้งที่ 5/54 เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2554 มีมติเห็นชอบในหลักการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้านพืช (ยางพารา) โดยให้อำเภอที่เกิดสถานการณ์ในพื้นที่ดำเนินการช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด และเป็นหน่วยงานที่ดำเนินการให้ความช่วยเหลือตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งมีการระบุรายละเอียดการจัดสรรเงินทดรองราชการให้แต่ละอำเภอ โดยคำนวณจากปริมาณการใช้สายเคมี เบโนมิล 50% wp อัตราการใช้ 500 กรัม/2 ไร่ ราคา 1,920 บาท รวมงบประมาณตามพื้นที่ความเสียหายทุกอำเภอ 48,700,800 บาท โดยผ่านความ เห็นชอบและอนุมัติจ่ายเงินทดรองราชการ และแจ้งอำเภอเพื่อดำเนินการ เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2554
2. กระบวนการจัดซื้อ
2.1 การขออนุมัติซื้อและการยืมเงินทดรองราชการ
วันที่ 17-20 ตุลาคม 2554 เสมียนตราอำเภอแต่ละอำเภอในฐานะเจ้าหน้าที่พัสดุ จัดทำบันทึกเสนอนายอำเภอ ขออนุมัติซื้อสารป้องกันเชื้อรา เบโนมิล 50% wp เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (โรคยางพารา) ตามวงเงินที่ได้รับการจัดสรรจากจังหวัดบึงกาฬ ดำเนินการจัดซื้อโดยวิธีการต่อรองราคาและตกลงราคากับผู้มีอาชีพขายโดยตรง พร้อมเสนอแต่งตั้งคณะกรรมการต่อรองราคาและตกลงราคา และคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ อาศัยระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.2546 และที่แก้ไขเพิ่มเติม หมวด 5 ข้อ 40-42 ว่าด้วยการจัดหาและควบคุมพัสดุ และจัดทำบันทึกการยืมเงินทดรองราชการในเวลาเดียวกัน โดยได้รับเงินทดรองราชการในวันที่ 10 สิงหาคม 2554 พร้อมกันทั้ง 8 อำเภอ
2.2 การเสนอราคาและการต่อรองราคา
มีผู้ยื่นเสนอราคา 8 อำเภอ ทั้งหมด 4 ราย และทั้ง 4 ราย ได้แยกเป็นผู้เสนอราคาอำเภอละ 3 ราย และเสนอราคาต่ำสุดเท่ากับราคาที่จัดซื้อ ได้รับคัดเลือกเป็นคู่สัญญา เพียง 2 ราย รายละเอียด ดังนี้
รายที่ 1 หจก.นำทรัพย์เจริญ ถิ่นที่อยู่ ตำบลเสือเฒ่า อำเภอเชียงยืน จังหวัดมหาสารคาม จดทะเบียนนิติบุคคลวันที่ 28 เมษายน 2553 โดยนาย วินัย ยิ้มฟุ้งเฟื่อง เสนอราคา 1,920 บาท/500 กรัม เท่ากับราคาที่จัดซื้อ ได้เป็นผู้ขาย 4 อำเภอ คือ อำเภอศรีวิไล อำเภอบึงโขงหลง อำเภอบุ่งคล้า และอำเภอเมืองบึงกาฬ
รายที่ 2 หจก.รับทรัพย์รุ่งเรือง ถิ่นที่อยู่ ตำบลธัญญา อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ จดทะเบียนนิติบุคคลวันที่ 28 เมษายน 2553 โดย นางสาวศิริพร อุดมทรัพย์ เสนอราคา 1,920 บาท/500 กรัม เท่ากับราคาที่จัดซื้อ ได้เป็นผู้ขาย 4 อำเภอ คืออำเภอปากคาด อำเภอเซกา อำเภอพรเจริญ และอำเภอโซ่พิสัย
รายที่ 3 หจก.เมืองเลยเพิ่มทรัพย์รุ่งเรือง ถิ่นที่อยู่ อำเภอเมืองเลย จังหวัดเลย จดทะเบียน
นิติบุคคลวันที่ 22 มิถุนายน 2553 โดยนางสาวเพ็ญวิไล ด้านคำมี เสนอราคา 1,940บาท/500 กรัม
รายที่ 4 หจก.ธิติวัน ถิ่นที่อยู่ ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี จดทะเบียนนิติบุคคลวันที่ 28 พฤศจิกายน 2551 โดยนายวันชัย ผลผดุง เสนอราคา 1,930 บาท/500 กรัม
คณะกรรมการต่อรองราคาอำเภอละ 3 คน ประกอบด้วย ปลัดอำเภอ และเกษตรอำเภอหรือข้าราชการในสำนักงานเกษตรอำเภอ ได้จัดทำบันทึกการต่อรองราคาหรือบันทึกการเปรียบเทียบราคาสรุปว่า ได้เรียกหุ้นส่วนผู้จัดการผู้เสนอราคารายต่ำสุดมาทำการต่อรองราคา แต่ผู้เสนอราคาไม่ยอมลดราคา จึงเห็นว่าเป็นราคาที่ไม่สูงกว่าราคากลางและไม่เกินวงเงินที่ได้รับการจัดสรร เห็นสมควรซื้อจากผู้เสนอราคารายต่ำสุด โดยนายอำเภอในฐานะผู้ซื้อได้อนุมัติให้ดำเนินการตามที่เสนอ
2.3 การทำสัญญา การส่งมอบและการตรวจรับ
วันที่ 17-21 ตุลาคม 2554 แต่ละอำเภอทั้ง 8 อำเภอ จัดทำใบสั่งซื้อหรือสัญญาซื้อสารเคมี เบโนมิล 50% wp ราคา 1,920 บาท/500 กรัม (กล่อง) มูลค่าสัญญาตามวงเงินที่ได้รับการจัดสรร กำหนดส่งมอบสารเคมีภายในวันที่ 20-26 ตุลาคม 2554 โดยผู้ขายส่งมอบสารเคมีและคณะกรรมการตรวจรับในวันที่ 20-26 ตุลาคม 2554
3. การเบิกจ่ายเงิน
แต่ละอำเภอได้รับเงินทดรองราชการในวันที่ 26 ตุลาคม 2554 และมีการประสานให้เสมียนตราทุกอำเภอนำเอกสารการดำเนินการจัดซื้อ และเช็คสั่งจ่ายเงินตามสัญญาซื้อขายไปพบผู้ขายที่ห้องประชุมเล็ก ศาลากลางจังหวัดบึงกาฬ (ห้องประชุมอรุญโรจน์ปัญญา) และมีการตรวจสอบความถูกต้องของเอกสาร ความครบถ้วนของเอกสาร และให้ผู้เกี่ยวข้องฝ่ายผู้ขายหรือผู้เสนอราคาลงลายมือชื่อในเอกสารที่เกี่ยวข้องในวันเดียวกันนั้น โดยมีการเขียนเช็คให้ผู้ขาย ลงวันที่ 26 และ 27 ตุลาคม 2554 และระบุวันที่ในใบเสร็จรับเงินเป็นวันเดียวกับที่เขียนเช็คสั่งจ่าย
4 การแจกสารเคมีให้เกษตรกร
ผู้นำชุมชน กำนันผู้ใหญ่บ้านมารับสารเคมีที่ที่ว่าการอำเภอไปแจกจ่ายให้เกษตรกรตามรายชื่อที่ได้มีการลงชื่อไว้ โดยมีหลักฐานลายมือชื่อของเกษตรกรลงชื่อรับสารเคมีเป็นจำนวนกล่อง ปัจจุบันเกษตรกรส่วนมากยังไม่ได้ใช้สารเคมี และโรคที่เกิดขึ้นตามฤดูกาลแต่มิได้ระบาดรุนแรงได้มีการกำจัดไปก่อนแล้ว
@@ สรุปผลการตรวจสอบน่าเชื่อว่า
1. การประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ในวันที่ 30 กันยายน 2554 ไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นและไม่ได้เกิดความเสียหายจนเกษตรกรต้องการความช่วยเหลือแต่อย่างใด ในปี พ.ศ.2554 ศูนย์วิจัยยางหนองคายไม่ได้รับรายงานจากหน่วยงานใดว่าเกิดโรคระบาดในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ และในห้วงปี 2550 ถึงปัจจุบัน ประเทศไทยเคยเกิดโรคระบาดยางพารา เพียงโรคเดียวคือ โรคใบจุดก้างปลาในต้นกล้ายางที่เกิดจากการเพาะเมล็ดในถุง อายุ 7 เดือน ที่เตรียมไว้เป็นต้นตอสำหรับติดตาที่จังหวัดระยอง เท่านั้น
2. คณะกรรมการกำหนดราคากลางมีเจตนาจัดทำราคากลางที่ได้มาจากผู้เสนอราคารายต่ำสุด และเท่ากับราคาที่แต่ละอำเภอกำหนดมาก่อนแล้วราคา 1,920 บาท/500 กรัม สูงกว่าความเป็นจริงที่มีขายทั่วไป เป็นเงิน 1,420 บาท/500 กรัม (1920-500) แต่ละอำเภอมีการจัดซื้อสารเคมีเท่ากับราคากลางที่จังหวัดกำหนดทุกอำเภอ จึงเป็นการจัดซื้อสารเคมีราคาแพงกว่าราคาที่มีขายในท้องตลาด
3. กระบวนการจัดซื้อไม่เป็นไปตามระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยผู้ขายและผู้เสนอราคาอำเภอละ 3 ราย หมุนเวียนกัน มิได้เดินทางไปเสนอราคาด้วยตนเองหรือเคยเดินทางไปที่อำเภอ แต่มีการจัดส่งเอกสารการเสนอราคาทั้ง 3 ราย พร้อมกัน โดยวิธีที่ไม่ปกติตามระเบียบแบบแผนของทางราชการ เช่น การส่งทางไปรษณีย์ การส่งทางโทรสาร หรือไม่ทราบผู้ใดนำไปวางที่โต๊ะ เป็นต้น
จึงมิได้มีการต่อรองราคาระหว่างคณะกรรมการต่อรองราคากับผู้เสนอราคาแต่อย่างใด นายอำเภอแต่ละอำเภอลงนามในสัญญาโดยมิได้พบกับผู้ขาย นอกจากนั้นยังพบว่ามีการส่งสารเคมีก่อนการจัดซื้อ และยังพบว่าเสมียนตราอำเภอเมืองประสานกับเสมียนตราอำเภออื่นนำเอกสารการจัดซื้อไปร่วมกันตรวจสอบความถูกต้องครบถ้วนกับผู้ขายและให้ผู้ขายลงนามในเอกสารที่เกี่ยวข้องและสัญญาที่ห้องประชุมอรุณโรจน์ปัญญา ที่ทำการศาลากลางจังหวัดบึงกาฬ และมอบเช็คสั่งจ่ายเงินให้ผู้ขายในวันเดียวกันนั้น ดังนั้นการจัดทำเอกสารตั้งแต่การขออนุมัติซื้อ การต่อรองราคา ตลอดจนถึงการลงนามในสัญญา จึงเป็นเอกสารที่มีข้อความไม่ตรงกับข้อเท็จจริง และพฤติกรรมในการเสนอราคาจึงอาจเป็นการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542
4. สารเคมีที่ตรวจสอบ เป็นสารเคมีที่ไม่มีส่วนผสมของสารเคมีเบโนมิล 50% แต่อย่างใด หมายถึง เป็นสารเคมีปลอม
@@ จุดอ่อนในการควบคุมภายใน
1. มีการประกาศภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินกรณีโรคระบาดเชื้อรายางพาราโดยไม่มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงหรือให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์วินิจฉัยโรคตรวจสอบก่อน มีผลให้มีการประกาศภัยพิบัติโดยมิได้มีโรคระบาดจริง และอนุมัติการยืมเงินทดรองราชการในการซื้อสารเคมีสูงกว่าความเป็นจริง
2. คณะกรรมการกำหนดราคากลางไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับแต่งตั้ง เช่น ไม่สอบถามราคา ที่มีขายในท้องถิ่น แต่กลับนำราคาของผู้เสนอราคารายต่ำสุดมาจัดทำเป็นราคากลาง
3. นายอำเภอแต่ละอำเภอในฐานะผู้จัดซื้อ ไม่ให้ความสนใจในการปฏิบัติตามระเบียบ แบบแผนของทางราชการ เช่น น่าเชื่อว่าทราบอยู่แล้วว่าผู้เสนอราคามิได้เดินทางมาเสนอราคาด้วยตนเอง คณะกรรมการต่อรองราคาไม่ได้พบกับผู้เสนอราคารายใดจึงมิได้มีการต่อรองราคาจริง และนายอำเภอลงนามสัญญาไม่เคยพบผู้ขายหรือผู้เสนอราคารายใด
4. เสมียนตราอำเภอในฐานะเจ้าหน้าที่พัสดุ และคณะกรรมการต่อรองราคาแต่ละอำเภอ ไม่ให้ความสนใจในการปฏิบัติตามระเบียบแบบแผนของทางราชการ เช่น สำนักงานเกษตรอำเภอเซกากรรมการตรวจรับพัสดุเสมียนตราอำเภอนำใบเสนอราคาของผู้เสนอราคาที่ตนเองได้รับมาโดยวิธีที่ไม่ปกติมาจัดทำบันทึกขออนุมัติซื้อและกรอกวันที่ หรือชื่ออำเภอ ให้สอดคล้องต้องกัน และจัดทำเอกสารที่เกี่ยวข้องเช่นบันทึกการต่อรองราคาให้คณะกรรมการต่อรองราคาลงลายมือชื่อทั้งที่มิได้มีการต่อรองราคาจริง ผู้ขายไม่เคยเดินทางมาที่อำเภอ แต่นำเอกสารการจัดซื้อและเช็คสั่งจ่ายเงินไปมอบให้ผู้ขายและให้ผู้ขายลงลายมือชื่อในวันเดียวกันทุกอำเภอ
-------------------
หมายเหตุ: เป็นเนื้อหาบางส่วนในผลสอบ สตง. ที่แจ้งต่อ กระทรวงมหาดไทย ,คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
