ดร.อาจอง ห่วงก๊าซมีเทน ผุดขั้วโลกเหนือ ตัวเร่งภาวะโลกร้อน
มูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติฯ เปิดเวทีระดมนักวิชาการระดับประเทศ ถอดรหัสภัยพิบัติ พลิกวิกฤตให้เป็นคำเตือน ด้านนักวิทยาศาสตร์นาซ่า ตั้งข้อสังเกตน้ำแข็งขั้วโลกละลาย น้ำทะเลสูงขึ้นเรื่อยๆ อาจทำให้โลกเสียสมดุล แกนโลกเปลี่ยน

วันที่ 16 ธันวาคม มูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ จัดเวทีเสวนา ถอดรหัสภัยพิบัติ พลิกวิกฤตให้เป็นคำเตือน ณ มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา โดยมีดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา เป็นประธานเปิดการเสวนา พร้อมแสดงปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว องค์อัจฉริยะต้นแบบการแก้ไขภัยพิบัติ”
ดร.สุเมธ กล่าวตอนหนึ่งถึงหลักการทรงงานว่า พระองค์ท่านมีกรอบคิดการทำงาน เน้นการพึ่งพาตนเองให้มากที่สุด, คิดให้ครบถ้วนเชื่อมโยงกันเป็นองค์รวม,ใช้ธรรมชาติแก้ธรรมชาติ, ทุกอย่างมีค่า ไม่มีของเสีย และทำแล้วต้องไม่มีคนเสียประโยชน์ ขณะที่กรอบการทำงาน จะตั้งอยู่บนข้อมูล ที่ถูกต้องชัดเจน มีการทำประชาพิจารณ์ทุกโครงการ ไปพร้อมๆ กับการอาศัยเทคโนโลยีที่เหมาะสม
“ภัยพิบัติทุกวันนี้ ทั่วโลกนับวันจะทวีความรุนแรงขึ้น เราต้องพร้อมอยู่กับภัยธรรมชาติ อยู่กับวิกฤตให้ได้ ซึ่งเรามีในหลวงทรงเป็นต้นแบบตั้งรับการบริหารจัดการภัยพิบัติ ดังเช่นเมื่อปี 2538 ดังนั้น จึงอยู่ที่ว่า นักวิชาการ ภาคส่วนต่างๆ และประชาชนจะเดินตามรอยพระบาทกันอย่างไร”
ด้านรศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผู้อำนวยการศูนย์พลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อม อุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร กล่าวว่า หากโลกกำลังเสียสมดุล ภัยพิบัติ (น้ำท่วม พายุ แผ่นดินไหว) จะเกิดอย่างมีนัยยะสำคัญ ซึ่งจากสถิติทำให้มีข้อสังเกตแผ่นดินไหว หรือสึนามิขนาดใหญ่ มักจะเกิดตอนช่วงเกิดพายุสุริยะรุนแรง โดยในอนาคต ค.ศ.2010-2020 อาจมีแผ่นดินไหวระดับ 10 ริกเตอร์ แต่จะเกิดเมื่อไหร่ไม่สามารถคาดการณ์ได้
“สำหรับประเทศไทย กำลังป่วย เพราะหลายๆ กิจกรรมเรามีปัญหาทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นด้านการเกษตร ความบอบบางด้านสุขภาพ น้ำแล้ง พายุ คำถามเราจะทำอย่างไร เมื่อโลกเสียสมดุล มนุษย์บริโภคทรัพยากรเกินขีดจำกัด”
ขณะที่ ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา อดีตนักวิทยาศาสตร์องค์การนาซ่า กล่าวถึงภาวะโลกร้อน ซึ่งมีผลทำให้น้ำแข็งทั่วโลกละลาย จนระดับน้ำทะเลสูงขึ้นเรื่อยๆ ประเทศไทยจะทำอย่างไร หรือจะสร้างเขื่อนบริเวณรอบอ่าวไทย ซึ่งวันนี้ก็ไม่รู้ว่าสายเกินไปหรือไม่หากคิดจะทำในวันนี้
“อีกปัญหาใหญ่ที่นักวิทยาศาสตร์ไม่ค่อยพูดถึงกัน คือ กรณีมีก๊าซมีเทน ผุดจากขั้วโลกเหนือ แถวไซบีเรีย อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะเร่งโลกร้อนให้เร็วขึ้น” ดร.อาจอง กล่าว และว่า การที่โลกเสียสมดุล เช่น การเกิดแผ่นดินไหว เกิดสึนามิที่ญี่ปุ่นนั้น ทำให้ขั้วโลกเหนือเปลี่ยนอย่างเฉียบพลันไป 25 เซนติเมตร หรือแผ่นดินไหวที่ชิลี ทำให้ขั้วโลกเหนือเปลี่ยนไป 8 เซนติเมตร แม้เราอาจไม่รู้สึก แต่ตัวเลขดังกล่าวน่าวิตกกังวลว่า โลกของเรากำลังขาดสมดุล จนแกนโลกเปลี่ยน เหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีต
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ภายในงานมีการมอบรางวัลเกียรติยศเชิดชูเกียรติบุคคลด้านการจัดการภัยพิบัติดีเด่น ได้แก่ รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์, ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา, ดร.กัมปนาท ภักดีกุล คณบดีคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล, รศ.ดร.ปัญญา จารุศิริ ผู้เชี่ยวชาญด้านธรณีวิทยาและแผ่นดินไหว จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ดร.ก้องภพ อยู่เย็น วิศวกร องค์การบริหารการบินอวกาศสหรัฐฯ (นาซา) และดร.สมชาย ใบม่วง รองอธิบดีกรมอุตนิยมวิทยา
ส่วนหน่วยงานดีเด่นด้านการจัดการภัยพิบัติ ได้แก่ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และกรมอุตุนิยมวิทยา
