เอกชนแจก “ไอโฟน-ไอแพด” สื่อร่วมงานเลี้ยง นสพ.ASTV แจงสละสิทธิ์แล้ว
เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา นายบรรยงค์ สุวรรณผ่อง ในฐานะกรรมการควบคุมจริยธรรม สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และกรรมการจริยธรรม สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ได้โพสต์ข้อความบทเฟซบุ๊คส่วนตัว Banyong Suwanpong เรื่อง “การแจกโทรศัพท์เคลื่อนที่ iPhone” มีข้อความว่า จากกรณีที่ จากกรณีบริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด โดยสถานีโทรทัศน์ ช่อง 3 แจกโทรศัพท์เคลื่อนที่ ยี่ห้อ iPhone แก่สื่อมวลชน โดยมีข้อเท็จจริงเบื้องต้นจากบุคคลที่อยู่ในงานเมื่อคืนวันที่ 17 ธ.ค.2555 ดังนี้
1.เป็นงานที่บริษัทฯ จัดเลี้ยงตัวแทนและผู้เกี่ยวข้องในวงการโฆษณา ซึ่งงานดังกล่าว มีสื่อมวลชนไปร่วมด้วย
2.มีผู้ได้รับแจกโทรศัพท์เคลื่อนที่ iPhone จากการจับฉลาก ซึ่งอ้างว่ามาจากองค์กรสื่อ ได้แก่ หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ หนังสือพิมพ์แนวหน้า และหนังสือพิมพ์สยามกีฬา
3.ผู้ที่ระบุว่ามาจากหนังสือพิมพ์แนวหน้า เมื่อขึ้นไปรับรางวัล ได้กล่าวว่า ดูและเขียนเชียร์ “แรงเงา” ทุกวัน
“ในฐานะที่เป็นหนึ่งในคณะกรรมการควบคุมจริยธรรม สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และคณะกรรมการจริยธรรม สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย จะนำเรื่องนี้เข้าปรึกษาหารือกับกรรมการทั้งสองคณะ และจะแจ้งความคืบหน้าให้สาธารณะได้ทราบตามความเหมาะสม” ข้อความบนเฟซบุ๊คของนายบรรยงค์ระบุ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเย็นวันเดียวกัน นายบรรยงค์ได้โพสต์จดหมายชี้แจงจากนายสุวิชชา เพียงราษฎร์ บรรณาธิการบริหารหนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการ มีใจความสำคัญคือนักข่าวของ ASTV ผู้จัดการ ถูกจับสลากให้ได้รับ iPad พร้อมกับเพื่อสื่ออีก 2 สำนักจริง แต่ไมได้มีการส่งมอบเครื่องในงาน และต่อมา กอง บก.ได้แจ้งให้นักข่าวสละสิทธิ์ที่จะได้รับไปแล้ว เนื่องจากนโยบายของกอง บก.หนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการ ห้ามไม่ให้นักข่าวในสังกัดรับสิ่งของหรืออะไรก็ตาม ที่มีมูลค่าสูงจากแหล่งข่าว ดังข้อความต่อไปนี้
“18 ธันวาคม 2555
เรื่อง ชี้แจงกรณี ช่อง 3 แจกของรางวัลนักข่าวพาดพิงถึงหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ
เรียน นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย
ตามที่ปรากฏข้อความในเฟซบุ๊คของคุณบรรยงค์ สุวรรณผ่อง หนึ่งในคณะกรรมการควบคุมจริยธรรม สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และคณะกรรมการจริยธรรม สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย เรื่อง การแจกโทรศัพท์เคลื่อนที่ iPhone โดยอ้างถึงกรณีบริษัทบางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด โดยสถานีโทรทัศน์ ช่อง 3 แจกโทรศัพท์เคลื่อนที่ iPhone แก่สื่อมวลชน ซึ่งระบุว่าได้รับข้อเท็จจริงเบื้องต้นจากบุคคลที่อยู่ในงานเมื่อค่ำวันจันทร์ที่ 17 ธันวาคม 2555 มี ดังนี้
1.เป็นงานที่บริษัทฯ จัดเลี้ยงตัวแทนและผู้เกี่ยวข้องในวงการโฆษณา ซึ่งงานดังกล่าว มีสื่อมวลชนไปร่วมด้วย
2.มีผู้ได้รับแจกโทรศัพท์เคลื่อนที่ iPhone จากการจับฉลาก ซึ่งอ้างว่ามาจากองค์กรสื่อ ได้แก่ หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ หนังสือพิมพ์แนวหน้า และหนังสือพิมพ์สยามกีฬา
3.ผู้ที่ระบุว่ามาจากหนังสือพิมพ์แนวหน้า เมื่อขึ้นไปรับรางวัล ได้กล่าวว่าดูและเขียน ‘แรงเงา’ ทุกวัน
ในฐานะที่เป็นหนึ่งในคณะกรรมการควบคุมจริยธรรม สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และคณะกรรมการจริยธรรม สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย จะนำเรื่องนี้เข้าปรึกษาหารือกับกรรมการทั้งสองคณะ และจะแจ้งความคืบหน้าให้สาธารณะได้ทราบตามความเหมาะสม ลงชื่อ บรรยงค์ สุวรรณผ่อง/ 18 ธันวาคม 2555 นั้น
ผมในฐานะผู้บริหารของกองบรรณาธิการ ASTV ผู้จัดการรายวันและออนไลน์ รู้สึกไม่สบายใจ เพราะนโยบายของกอง บก. ห้ามไม่ให้นักข่าวในสังกัดรับสิ่งของหรืออะไรก็ตามที่มีมูลค่าสูงจากแหล่งข่าวอยู่แล้ว จึงได้สอบสวนนักข่าวของเราที่เข้าร่วมงานทันที ปรากฏว่า มีข้อมูลที่คุณบรรยงค์ ไม่ได้พูดถึง ไม่ครบถ้วน คลาดเคลื่อนตามสมควร ผมจึงใคร่ข้อให้ข้อมูลชี้แจง ดังนี้ครับ
งานนี้เป็นงานของช่อง 3 จัดงานชื่อ “วันแรงเงาแห่งชาติ” เพื่อขอบคุณสื่อและผู้สนับสนุนละครเรื่องนี้จนประสบความสำเร็จ จากนั้น ได้มีการมอบรางวัลแก่ผู้เข้าร่วมงานที่มาร่วมทั้งสื่อ ดารา และเอเยนซี่ ของผู้บริหารช่อง 3 ซึ่งแยกเป็นไอแพด 5 เครื่อง และไอโฟน 5 ประมาณ 20 เครื่อง รวมจำนวนกว่า 25 รางวัล ปรากฏว่านักข่าวของ ASTV ผู้จัดการ มีชื่อถูกจับสลากให้ได้รับไอแพดพร้อมกับเพื่อนสื่ออีก 2 ฉบับ แต่รางวัลนี้ยังไม่มีการส่งมอบเครื่องในงาน สถานะจึงเป็นเพียงผู้ได้รับสิทธิ์ ต่อมา กอง บก. ได้แจ้งนักข่าวให้สละสิทธิ์ที่จะได้รับไปแล้ว ส่วนไอโฟน 20 กว่ารางวัล ทราบว่ามีสื่ออีกหลายสำนักได้รับเครื่องไปแล้ว จึงเรียนมาเพื่อให้ท่านได้ทราบเป็นข้อมูลเบื้องต้น เพื่อความเป็นธรรมแก่ทางเราที่ยึดถือเรื่องจริยธรรมและจรรยาบรรณสื่อที่ดีมาโดยตลอด และพร้อมยินดีให้ความร่วมมือกับท่าน หากมีข้อสงสัยหรือต้องการตรวจสอบเพิ่มเติมเสมอ
ด้วยความนับถือ สุวิชชา เพียรราษฎรณ์ บรรณาธิการบริหาร”
(หนังสือชี้แจงจากหนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการ - คลิกเพื่อขยาย)