จ่าย 3 พัน เข้า "ขอทาน” ในไทย - โพลวันเด็ก จี้ “ยิ่งลักษณ์” แก้ปัญหาเยาวชน
มูลนิธิกระจกเงา เปิดโปงขบวนการ “ลักเด็กเขมร” ขอทานเกลื่อนไทย!! พบรูปแบบหลากหลาย “ขายดอกไม้- ถือกล่องรับบริจาค –ล้วงกระเป๋า” ลอบเข้าตามชายแดน “เดินเท้า” เสียค่าใช้จ่าย 1,500 – 3,000 บาท –โพลยกคำขวัญวันเด็กแห่งชาติ จอมพล ถนอม อันดับหนึ่ง จี้ “ยิ่งลักษณ์” แก้ปัญหาเยาวชนจริงจัง

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า ในช่วงต้นเดือนมกราคม 2556 ที่ผ่านมา ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการค้ามนุษย์ มูลนิธิกระจกเงา ได้สรุปสถานการณ์ปัญหาเด็กขอทาน ในรอบ ปี 2555 โดยระบุว่า ยังมีการพบเห็นเด็กขอทานจำนวนมากแทบทุกพื้นที่ในประเทศไทย เด็กส่วนใหญ่มาจากกัมพูชา เข้ามาขอทาน ขายดอกไม้ ถือกล่องรับบริจาค เป็นต้น โดยเด็กถือกล่องจะมีรายได้เฉลี่ยวันละ 1,000 – 1,500 บาท
“บริเวณด่านชายแดนดังกล่าวสามารถลักลอบเข้าสู่ประเทศไทยได้ง่าย โดยใช้การเดินเท้าและขึ้นพาหนะประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟ , รถประจำทางหรือแม้กระทั่งรถตู้ เพื่อเข้าสู่เมืองเศรษฐกิจของประเทศไทย ซึ่งโดยมากชาวกัมพูชาที่จะเข้ามาทำการขอทานนั้น มักจะเสียค่าใช้จ่ายให้กับนายหน้าประมาณ 1,500 – 3,000 บาท แทนการทำพาสปอร์ตที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมากกว่า” มูลนิธิกระจกเงาระบุ
มูลนิธิกระเจาเงา ยังระบุด้วยว่า ยังพบกรณีการบังคับเด็กให้ทำการลักทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติด้วย อีกทั้งยังพบการนำเด็กจากประเทศเพื่อนบ้านมาแสวงหาผลประโยชน์ในลักษณะเด็กเป่าแคน ซึ่งรูปพรรณ สัณฐาน รวมถึงพฤติกรรมของเด็กที่มักแต่งกายด้วยชุดนักเรียนนั้น ทำให้ละม้ายคล้ายเด็กเป่าแคนจากประเทศไทยจนแยกแยะไม่ได้
“ไม่ใช่เรื่องที่น่าประหลาดใจแต่อย่างใดที่ประเทศสหรัฐอเมริกาจะยังคงจัดให้ประเทศไทยอยู่ในระดับ 2.5 (Tier 2 watch list) เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์เช่นเดิม ซึ่งถือเป็นปีที่ 3 ติดต่อกันแล้ว เนื่องจากขาดการดูแลเอาใจใส่จากภาครัฐในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์อย่างจริงจังนั่นเอง” มูลนิธิกระจกเงาระบุ
(อ่านรายงานสถานการณ์ปัญหาเด็กขอทาน ในรอบ ปี 2555 ได้ใน เรื่องเด่น ตีแผ่!! ขบวนการ ลักลอบส่งเด็กเขมร “ขอทาน—ขายดอกไม้ – ถือกล่องบริจาค” เกลื่อน เมืองไทย!!
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงปี 2555 ที่ผ่านมา มีข่าวการตรวจจับขบวนการลักลอบนำเด็กเขมรเข้ามาขอทานในไทยอยู่เป็นระยะ เด็กบางราย ถูกทำทารุณกรรม ด้วยการตัดลิ้น แขน ขา ทำให้พิการ เพื่อให้ง่ายต่อการควบคุมและเรียกความสงสารจากคนใจบุญทั่วไปในการขอเงิน
เมื่อวันที่ 10 ม.ค. 2556 ที่ผ่านมา ศูนย์เครือข่ายวิชาการเพื่อสังเกตการณ์และวิจัยความสุขชุมชน (ศูนย์วิจัยความสุขชุมชน) มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ได้เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่อง เด็กๆ ชื่นชอบคำขวัญวันเด็กของนายกรัฐมนตรีคนใดมากที่สุด พบว่า คำขวัญวันเด็กในปี 2516 ของ จอมพล ถนอม กิตติขจร ที่ระบุว่า “เด็กดีเป็นศรีแก่ชาติ เด็กฉลาดชาติเจริญ” ได้รับความชื่นชอบมากที่สุดคือ ร้อยละ 89.6 รองลงมาคือคำขวัญวันเด็กของ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรในปี 2556 ที่ระบุว่า รักษาวินัย ใฝ่เรียนรู้ เพิ่มพูนปัญญา นำพาไทยสู่อาเซียน ได้ร้อยละ 88.9
อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจความเห็น พบว่า เสียงส่วนใหญ่หรือร้อยละ 56.0 ระบุว่ารัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยังไม่ได้แก้ปัญหาเด็กและเยาวชนอย่างจริงจัง และไม่ต่อเนื่อง ส่วสิ่งที่อยากขอจากผู้ใหญ่ในประเทศในโอกาสวันเด็กนี้ คือ อันดับหนึ่ง คือ ทำดีให้เด็กดูก่อน อย่าโทษแต่เด็ก รองลงมาคือ ขอให้ผู้ใหญ่มีความซื่อสัตย์ เลิกคดโกง ตามมาด้วยช่วยกันพัฒนาประเทศ ไม่แบ่งฝ่าย ไม่แตกแยก
