เรื่องของ"ไวน์"จากรองนายกฯ ถึง รมต.ศึกษาฯ “ขวดละล้านผมก็ไม่ดื่ม”
"ไวน์ขวดเป็นแสนใครเค้าซื้อไปกินกัน เค้าซื้อเก็บเป็นการลงทุน เหมือนซื้อทอง แต่ฝรั่งเศสเขาเก็บเป็นไวน์เพราะไวน์ราคามันขึ้น มีคนไทยนี่แหละอุตริซื้อไวน์ขวดละเป็นแสนไปกินกัน"

หนึ่งในเครื่องดื่มมึนเมายอดนิยมสำหรับบุคคลชั้นสูง โดยเฉพาะบรรดา ส.ส.-รัฐมนตรี ของเมืองไทย ก็คือ "ไวน์"
โดยเพิ่งเป็นข่าวเป็นคราวไปบ้างสำหรับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผลิตจากน้ำองุ่นชนิดนี้ จากกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ได้ยอมรับถึงภาพหลุดระหว่างการเดินทางไปมาเลเซียเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า ได้ไปพบเพื่อนรัก 5 คน ได้รับประทานอาหารร่วมกัน และได้ดื่มไวน์ไป 8 ขวด
แต่ "ไม่มีข้าราชการทั้งฝ่ายไทยและมาเลเซียอยู่ด้วย ไม่ได้เมามาย และไม่ได้กินไวน์บนเครื่องบินแต่อย่างใด" รองนายกฯเฉลิมกล่าว
ขณะที่วันก่อน (11 ม.ค.) นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เดินทางไปเป็นประธานในพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ “ครูดีไม่มีอบายมุข” ปี 2 เพื่อสร้างค่านิยมที่ดีในการลดละเลิกอบายมุขให้กับบุคลากรทางการศึกษา เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาอบายมุขในโรงเรียน เนื่องในโอกาสวันครูประจำปี 2556
อบายมุขที่ว่าก็คือเหล้า บุหรี่ ที่เรารู้จักกันดีนี่แหละ ก่อนมอบโล่ท่านเลยถือโอกาสเดี่ยวไมโครโฟนถ่ายทอดประสบการณ์เรื่องเหล้าและบุหรี่สักเล็กน้อย ก็ปรากฏว่าเป็นที่ครื้นเครงและได้สาระข้อคิดอย่างคาดไม่ถึงไปตาม ๆ กัน
ท่านเล่าว่าตัวท่านเองนั้นไม่เคยดื่ม ไม่เคยสูบ ก็แข็งแรงดีไม่เห็นเป็นอะไร ว่าแล้วก็ย้อนไปสมัยที่ตัวเองยังเป็นวัยละอ่อนอยู่ในวงการยุติธรรม ผู้พิพากษาถือว่าเป็นข้าราชการที่มีเงินเดือนสูงมาก และผู้พิพากษาต่างจังหวัดสมัยนั้น นิยมดื่ม “แม่โขงยอดสุราไทย”
“ตอนหลังพอผมรับราชการ ก็ไม่เห็นผู้พิพากษาดื่มแม่โขงยอดสุราไทยอีก คงเป็นเพราะมีรสนิยมสูงขึ้น ด้วยช่วงนั้นเริ่มมีไวน์เข้ามา บางขวดแพงมาก...”
“มีครั้งหนึ่งท่านประธานศาลฎีกาจัดเลี้ยงแล้วเชิญผมไปด้วย ผมก็เป็นพวกผู้พิพากษาอาวุโสน้อย ตำแหน่งไม่สูง แต่เขาก็จัดให้นั่งโต๊ะใหญ่ พอนั่งเสร็จปุ๊บ ท่านประธานศาลฎีกาก็ถือขวดอะไรมาขวดหนึ่ง เปิดแล้วเริ่มรินแจกโต๊ะใหญ่ ท่านรินให้ทุกคน พอมาถึงผม ผมก็บอก “ไม่รับล่ะครับท่าน”
ท่านก็บอกว่า “เฮ้ย ขวดละห้าหมื่นนะ”
ตอนนั้นปีสองพันห้าร้อยสามสิบเศษ ๆ ไวน์ขวดละห้าหมื่นกว่าบาท ผมคิดในใจ “ขวดละล้านก็ไม่ดื่ม เพราะดื่มไม่เป็น ก็เหมือนไก่ได้พลอยน่ะ”
นอกจากคิดในใจแล้วยังหันไปกระแทกผู้พิพากษาอาวุโสที่อยู่ข้าง ๆ ผมอีก บอกว่า “อาจารย์ ดื่มแล้วเดี๋ยวมันติดนะ ไม่มีดื่มจะทำยังไง” (ฮา)
เพราะห้าหมื่นบาทสมัยนั้นเท่ากับเงินเดือนปลัดกระทรวง
ท่านเล่าต่อ “ผมเคยคุยกับคนฝรั่งเศส เขาบอกว่าที่ฝรั่งเศสเวลาที่เค้าฟ้องคดีกันแล้วมีการยึดทรัพย์ ทรัพย์ที่ยึดมาขายทอดตลาดมากที่สุดคือ “ไวน์” ครับ แล้วผมก็ถามว่าไอ้ไวน์ที่แพงที่สุดมันขวดละประมาณเท่าไหร่ เขาบอกมียี่ห้อหนึ่งขวดละเป็นแสน!”
“ผมก็ถามเขาอีกว่า อ้าว แล้วถ้าเกิดซื้อมาแล้วมันเสีย กินไม่ได้ ก็เสียเปล่าน่ะสิ"
"เขาบอกว่า ใครเค้าซื้อไปกินกัน เค้าซื้อเก็บเป็นการลงทุน เหมือนซื้อทอง แต่ฝรั่งเศสเขาเก็บเป็นไวน์เพราะไวน์ราคามันขึ้น มีคนไทยนี่แหละอุตริซื้อไวน์ขวดละเป็นแสนไปกินกัน”
ว่าแล้วครูทั้ง 121 ท่านในห้องประชุมที่ได้รับคัดเลือกเป็นต้นแบบครูดีไม่มีอบายมุข ปี 2 ก็อยู่ในสภาพหัวเราะมิได้ร่ำไห้มิออกไปตามกัน อย่างไรก็ตามดูจะมีเสียงหัวเราะอยู่บ้างอย่างหร็อมแหร็ม
ก่อนที่ท่านรัฐมนตรีพงศ์เทพจะทิ้งท้ายอย่านิ่มนวลว่า “ถ้าท่านทั้งหลายตัดสิ่งพวกนี้ไปได้ ก็ถือเป็นเรื่องที่น่าชื่นชม”
ว่าแต่ว่าเพื่อนรักกัน 5 คน กินไวน์ไป 8 ขวด ก็คงชี้ให้เห็นแล้วว่า ที่จะตัดให้ขาด มันยากเพียงไร.
