สิ่งที่คน “เชียงของ” ผวา ! ใต้เงาเส้นทาง R3A ถนนเชื่อมการค้าไทย-จีน
เส้นทาง R3A ประตูเชื่อมไทย-จีน ใช่ว่าจะมีแต่ "โอกาสทอง" คอยอยู่เท่านั้น แต่ยังมีสิ่งที่คนในพื้นที่ โดยเฉพาะชาวบ้าน-พ่อค้า อ.เชียงของ หวาดวิตกอยู่ในใจ

(ทัศนียภาพลำน้ำโขง เมื่อมองไกลออกไปจะเห็นเมืองเชียงของฝั่งไทยซึ่งเป็นเมืองที่ทอดตัวยาวตามแนวแม่น้ำ)
ความเดิมจากตอนที่แล้วที่ได้พาสำรวจเส้นทางการค้าชายแดนไทย-จีนที่เรียกว่าถนนสาย R3A ที่เชื่อมจากไทยสู่จีน ระหว่าง อ.เชียงของ จ.เชียงราย ของประเทศไทย กับบ้านห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว ของ สปป.ลาว
(อ่าน ส่องเส้นทาง R3A หลอดเลือดการค้าไทย-จีน หรือระเบิดเวลา “เกษตรกรรมไทย” !?)
หลังจาก อ.เชียงแสน จ.เชียงราย กลายสภาพเป็นเมืองหน้าด่านการค้าไปก่อนแล้ว ทะลุไปยังสิบสองปันนา เชียงรุ่ง คุนหมิง ของประเทศจีน ซึ่งรัฐบาลไทยและรัฐบาลจีนออกเงินในการก่อสร้างคนละครึ่ง 812 ล้านบาท
ซึ่งการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 4 เชื่อมระหว่าง อ.เชียงของ จ.เชียงราย กับบ้านห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ที่จะแล้วเสร็จเร็วๆนี้ ทำให้หลอดเลือดการค้าไทย-จันรวมไปถึงตลาดภูมิภาคภายหลังเปิดเสรีอาเซียนคึกคักจนโลกต้องหันมอง
อย่างไรก็ตาม แม้รัฐบาลและทุนใหญ่ระดับประเทศอาจมองเป็น “โอกาสทอง” แต่สำหรับภาคประชาชน สิ่งแวดล้อม หรือแม้แต่พ่อค้านักลงทุนรายย่อยตัวเล็กกลับ “อกสั่นขวัญแขวน” ไปตามกัน
เพราะจีนถือเป็นมหาอำนาจในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะ "เกษตรกรรม"
การเปิดประตูบานใหญ่ระหว่างกัน ในอีกทางหากไทยไม่เข้มแข็งหรือเท่าทันพอ อาจต้องประสบกับความเสียเปรียบและถูกรุกคืบจนตั้งรับไม่ทัน

(ผู้เฒ่าผู้แก่ยังคงวิถีประเพณีความเชื่อแต่โบราณ เพื่อแสดงความกตัญญูต่อแม่น้ำโขงแหล่งพันธุ์ปลา ด้วยการเดินธรรมยาตรา ทำบุญสืบชะตาแม่น้ำโขง)
ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่เซฟเฮาส์หลังเล็กๆ ริมแม่น้ำโขงฝั่งไทย กลุ่มคนในพื้นที่ อ.เชียงแสนและ อ.เชียงของ จ.เชียงราย ทั้งชาวบ้าน เครือข่ายอนุรักษ์ นักธุรกิจชายแดนทั้งภาคส่งออกและท่องเที่ยว ตั้งโต๊ะกลมเปิดใจแลกเปลี่ยนเพื่อการตั้งตัวตั้งรับการรุกคืบของทุนจีนซึ่งปัจจุบันก้าวมาเกินครึ่งขาแล้ว
ทุกคนแสดงออกตรงกันถึงความเป็นห่วงผลกระทบในหลายมิติ เริ่มจากระดับน้ำโขงที่เปลี่ยนไปจนกระทบวิถีชีวิตและอาชีพของผู้คนสองฝั่งแม่น้ำทั้งภาคเกษตรและประมง เพราะมีนายทุนใหญ่ต่างชาติและคนไทยด้วยกันเองทุ่มเม็ดเงินเช่าที่ดินผืนใหญ่ในระยะยาว ทั้งฝั่งลาวและฝั่งพม่าตอนบนของรัฐฉาน ทำเกษตรเชิงเดี่ยวใช้สารเคมีสารพัด บ่อนคาสิโน โรงแรมที่พัก รวมไปถึงการก่อสร้างเขื่อนขนาดใหญ่
อย่างไรก็ดี ไม่มีใครบนโต๊ะกลมขวางการพัฒนาและการกินดีอยู่ดีอันมาพร้อมกับการเปิดประตูการค้านี้ แต่ในความเป็นห่วงผลกระทบ ความได้เปรียบเสียเปรียบที่จะตามมา ทำให้ทุกคนต้องจับเข่าคุยกันโดยเฉพาะพื้นที่ อ.เชียงของ
ต่อจากนี้คือบทสนทนาแบบเปิดเปลือกความเป็นจริงบนโต๊ะกลม (ผู้เขียนจำเป็นต้องปกปิดชื่อผู้พูดเพื่อความปลอดภัยในการประกอบอาชีพของแหล่งข่าว)

(สองผู้เฒ่านั่งเหงาๆ ที่ริมท่าเรือขนถ่ายสินค้าตามแนวชายแดนซึ่งมีตลอดแนว อ.เชียงของ จ.เชียงราย)
1.ตัวแทนสภาหอการค้าในพื้นที่
ภาพการค้าการขนส่งเติบโตมาเรื่อยๆ เพราะถือเป็นประตูใหญ่ของ จ.เชียงราย โดยหลังจากสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 4 สร้างเสร็จ สภาพเศรษฐกิจและการขนส่งจะเติบโตขึ้นแน่นอน แต่ที่น่าห่วงคือกลุ่มทุนรายย่อย ที่เป็นเพียงคนกลุ่มเล็กๆ ที่มีทุนไม่มาก ในพื้นที่ อ.เชียงของ จะใช้ชีวิตยากขึ้น เพราะทุนขนาดใหญ่มีการสร้างปฏิสัมพันธ์กันง่ายกว่า ทำให้ร้านค้าที่เป็นขนาดเล็กอย่างร้านโชว์ห่วยมีปริมาณการค้าที่ลดลง เนื่องจากช่องทางในการกระจายสินค้า ถูกแย่งจากธุรกิจข้ามชาติไปหมด”
“เมื่อก่อนรายได้ของคนระดับล่างมีมากพอสมควร การกระจายตัวใน อ.เชียงของเคยใหญ่ แต่ตอนนี้ออเดอร์ต่างๆ เข้าสู่ จ.เชียงรายหมด พอสะพานเสร็จ จะมีการลงทุนทางการค้าของรายใหญ่ ชาวบ้านคงต้องปรับตัวสู่ภาคบริการ อาคารโครงสร้างใดๆ ก็จะกลายเป็นทุนข้ามชาติที่เราไปต่อต้านไม่ได้ เรื่องการเข้ามาก็กลายเป็นการค้าปลีกที่กลายเป็นกลุ่มอุปโภคบริโภค มีการซื้อ แลก แจก แถม ในตลาดอุตสาหกรรม การค้าก็ได้กำไร แต่การค้าระดับครอบครัวคือการค้าที่เริ่มล่มสลาย”

(ถนนสายเชียงแสน-เชียงของฝั่งไทย เป็นถนนที่มีทัศนียภาพสวยงามที่สุดเส้นหนึ่ง เพราะทอดตัวขนาดไปตามลำน้ำโขงบน ดอยสูง เมื่อมองลงไปเบื้องล่างช่วยให้หายเหนื่อยจากการเดินทางเป็นปลิดทิ้ง)
2.พ่อค้าชายแดนมีประสบการณ์ยาวนานคนหนึ่ง
ประเทศที่มีอำนาจมากที่สุดในการถือครองอุตสาหกรรมการส่งออกที่ใหญ่ที่สุดคือจีน ที่ผ่านมาจีนมักอาศัยไทยและลาวเป็นทางผ่าน แล้วต่อไปจะเปลี่ยนเป็นการติดต่อซื้อตรง จากเมืองคุนหมิง (จีน) สู่กรุงเทพ (ไทย) นายหน้าหรือพ่อค้าชายแดนตายหมด ขณะที่หากไทยจะส่งสินค้าไปสู่จีน กลับต้องทำตามข้อตกลงของการกระจายสินค้าตามที่จีนกำหนดไว้ ซึ่งต่างกันในแต่ละมณฑล ขณะที่การติดต่อค้าขายกับลาวนั้น จีนกลับมีการอะลุ่มอล่วย โดยขณะนี้จีนได้ข้ามแผ่นดินมาลงทุนในลาวด้วยการเช่าพื้นที่เปิดทั้งบ่อนการพนัน เปิดพื้นที่ที่ทำเกษตรขนาดใหญ่ แล้วจ้างแรงงานลาว เพื่อปลูกพืชที่ตัวเองลงทุน พร้อมทั้งแบ่งปันรายได้จากผลผลิต และ การขายให้ลาวอีกด้วย”
“การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ทำให้กระแสมนุษย์เงินเดือนชั้นแรงงานในลาวจะมีจำนวนเพิ่มขึ้น แต่ผลเสียคือพืชบางชนิดของจีนที่นำมาปลูกในลาวเป็นพืชเชิงเดี่ยว เมื่อเกษตรกรให้จีนเช่าพื้นที่ สายพันธุ์ที่จีนพัฒนาจะเป็นสายพันธ์ใหม่ที่เน้นปริมาณ เช่น กล้วย ก็เป็นสายพันธุ์ใหม่ที่อาจไม่ดีเท่าพันธุ์ไทย แต่มีขนาดและปริมาณผลผลิตสูง แต่เมื่อมีการรื้อถอนไร่ กับต้องลำบากถึงขั้นนำรถมาขุด ไถ เพื่อแปรสภาพดินให้กลับมาเป็นดังเดิม เพราะหน่อกล้วยกลับไม่ยอมตายเกษตรกรต้องแลกกับค่าใช้จ่ายที่มากขึ้น ขณะที่ผลกระทบจากการใช้สารเคมีก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ แม่น้ำในบริเวณรอบๆ จึงปนเปื้อนด้วยสารพิษ”

(ปัจจุบันแม้ในฝั่งไทยก็มีการลงทุนปลูกพืชเชิงเดี่ยวจำนวนมาก)
“ย้อนกลับมามองสถานการณ์ในไทยคนพื้นที่ต่อไปก็หนีไม่พ้นเป็นลูกจ้างของห้าง ร้าน ขนาดใหญ่ ที่เป็นแค่คนรุ่นใหม่ๆก็จะกลายเป็นมนุษย์เงินเดือน เป็นที่ดำรงตำแหน่งมนุษย์เงินเดือน ประกอบกับปัญหาเรื่องค่าแรงแรงงานในประเทศจะหายากขึ้น จะส่งผลต่อปัญหาประชากรแฝงเพราะสามารถหลั่งไหลได้ง่ายเพียงข้ามแม่น้ำโง ประชากรจะเพิ่มขึ้นตามมาด้วยปัญหาขยะ”
“การลงทุนในพื้นที่เชียงของในวันนี้นั้นมีการเข้ามาของโครงการสร้างห้างขนาดใหญ่ เป็นการแข่งขันบริษัทสองยักษ์ใหญ่ของไทยมีการการแก้เทศบัญญัติรองรับการเปิดห้างค้าส่งขนาดใหญ่ เหมือนเป็นความพยายามรีบจับจองไว้ก่อน แต่ละห้างนั้นต้องการพื้นที่ขนาดใหญ่ ประมาณ 20 ไร่ การก่อสร้างต้องติดถนนใหญ่เพื่อโชว์หน้าร้าน สำหรับสะพานแห่งใหม่เมื่อเปิดใช้จะสะเทือนถึงเชียงของ เวียงแก่น ขุนตาล ตลาดแรงงานก็ต้องเพิ่ม การท่องเที่ยวเข้ามา วันนี้โรงบำบัดน้ำเสียในพื้นที่ก็ยังไม่มี ขณะที่นิคมอุตสาหกรรมที่กำลังจะตามมา”

(ยามเช้าของแม่น้ำโขงเมื่อมองจากฝั่งไทยไปยังลาว)
3.นักธุรกิจเก่าแก่ในพื้นที่อีกคน
“เส้นทางเส้นนี้ (R3A) เป็นเส้นทางของจีน ที่พยายามยามสร้างยุทธศาสตร์สู่ทางใต้ดันเข้าสู่เสรีอาเซียน จีนมองลาวว่ามีทรัพยากร แต่มองไทยว่ามีกำลังซื้อ จึงมีความพยายามสร้างออกสู่อันดามัน หรือถ้าเชื่อมกับทวายได้ก็ส่งลงไปยังตะวันออกกลางได้ รัฐบาลก็พยายามทำเส้นทางรถไฟความเร็วสูง มองถึงการเชื่อมมาเลเซีย สิงคโปร์อีก”
“คนที่ทำงานหรือค้าขายตามแนวชายแดนไปเห็นมาแล้ว วันนี้รัฐบาลจีนลงทุนเรื่องการผลิตพืช ที่เป็นเชิงอุตสาหกรรม แล้ววันนี้คนไทยแทบจะไม่ได้กินผักของไทยกันแล้ว เป็นผักจีนเกือบหมด ห้องเย็นแถวๆ ตลาดไทเป็นของจีนแล้วทั้งสิ้น จะขึ้นจะลงราคาก็ของจีนทั้งนั้น หลังจากสะพานเปิดไม่นานก็จะเปิดตลาดที่ใหญ่ที่สุด เรื่องการทำเกษตรในการวิ่งเก็บออเดอร์ให้ การเซ็นสัญญาเรื่องการทำค้าหากไม่เซ็นทั้งหมด จีนก็ไม่ยอมให้ผ่าน เชื่อว่าภาคเกษตรไทยจะตาย และลดลงแน่ๆ การทำการค้าแบบผูกขาดของจีนนั้นอันตราย คุณหมิงถูกจีนกำหนดให้เป็นประตูระบายสินค้าเกษตรจากจีนขนาดใหญ่”
“ตัวอย่างของการรุกคืบทุนของจีนที่เกิดขึ้นแล้ว คือการเริ่มมากว้านเช่าที่ดินในประเทศเพื่อนบ้าน ตัวอย่างเช่นเช่าที่ 2.5 ไร่ ประมาณ ปีละ 5,000 บาท แล้วจ้างแรงงานดูแล จ่ายเงินเป็นสัปดาห์ แล้วยังให้ส่วนต่างค่าชั่งกิโลขายอีก เลยกลายเป็นการปลูกเพื่อให้ค่าจ้างเรื่อยๆ หน่อไม่ตาย ต้องใช้รถแบ็คโฮขุดถึงจะเปลี่ยนชนิดพืชที่ปลูกได้ ตอนนี้ลาวก็ปวดหัวหากอาเซียนเปิด จีนสามารถใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านของการกระจายสินค้าแน่นอน”

(ตึกรามอาคารพาณิชย์ ฝั่งเมืองห้วยทราย สปป.ลาว ตรงข้ามกับเมืองเชียงของของไทย)
4.นักธุรกิจท่องเที่ยวชายแดน
“สำหรับสถานการณ์การท่องเที่ยวชายแดนอยู่ในวิกฤติ เนื่องจาก อ.เชียงของเป็นชายแดน ขณะนี้จีนประสานงานท่องเที่ยวโดยตรงผ่านกรุงเทพเลย โดยไม่ผ่านรายย่อยที่ อ.เชียงของ แล้วคนจีนเข้ามาก็มีการหลบหลีกไปเลย มีไกด์ผีเข้ามา เรื่องการออกกฎการท่องเที่ยวนั้นจำเป็นต้องมี เพราะขณะนี้ จีนมีการทำสัญญากับบริการการท่องเที่ยวที่มีระบบ เช่น ไกด์ก็ต้องใช้ไกด์ในพื้นที่ คนขับรถในพื้นที่ เจ้าของโรงแรมที่รับทัวร์ก็ได้ส่วนแบ่ง ขณะที่การจองภายนอกจะแพงกว่าเท่าตัวของราคาทัวร์สายตรง ซึ่งล้วนแล้วแต่อยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการเป็นทาสธุรกิจใหญ่ทั้งสิ้น”
เหล่านี้เป็นข้อสนทนาและความห่วงใย ที่อาจแผ่วเบาไม่มีกำลังพอจะไปงัดกับทุนใหญ่ ที่กำลังเคลื่อนเข้ามาอย่างเงียบกริบ แต่ทรงอานุภาพอย่างใหญ่โตมโหฬาร..

(เมืองห้วยทรายฝั่งลาวในยามราตรีที่มีแสงสีทั้งจากคาสิโน โรงแรม และธูรกิจท่องเที่ยว)
|
"1 เมือง 2 ระบบ" ทางรอดของ “เชียงของ” ด้วยลักษณะเฉพาะของ อ.เชียงของ จ.เชียงราย ซึ่งมีภูมินิเวศวัฒนธรรมที่ตั้งอยู่ในชัยภูมิที่ดี ของปากแม่น้ำอิงและริมฝั่งโขง รวมทั้งมีภูดอยยาวและดอยหลวงขนาบ ทำให้เป็นแอ่งวัฒนธรรมมาแต่โบราณ ในช่วงกว่าทศวรรษที่ผ่านมา อ.เชียงของ มีการพัฒนาที่เร่งสร้างสาธารณูปโภค อาคารพาณิชย์ โรงแรม เพิ่มอย่างรวดเร็วและไร้ทิศทาง การขยายการค้าชายแดนอย่างเสรีโดยนายทุนต่างประเทศแพร่กระจายเข้ามาอย่างรวดเร็ว ดังนั้น การกำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาต้องประกอบด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ ภาคธุรกิจท้องถิ่น และภาครัฐ ในการจัดการเชิงพื้นที่ให้เหมาะสมสอดคล้องกับบริบทและอัตลักษณ์ของพื้นที่ เช่น การมีระบบเหมืองฝายแบบเก่าในลำห้วยหรือลำน้ำอยู่แล้ว ไม่ควรก่อสร้างด้วยระบบชลประทานสมัยใหม่เพียงอย่างเดียว เพราะแบบเดิมใช้ได้ทั้งเรื่องชลประทานและวัฒนธรรม เน้นการไม่ก่อสร้างสิ่งใหม่มาทับสิ่งเก่าที่มีคุณค่า ด้วยมุมมองดังกล่าว แนวทางการพัฒนา ควรมีการกำหนดผังเมืองและสัดส่วนระหว่าง “เมืองเก่า” กับ “เมืองใหม่” ให้เป็นรูปธรรม คือ 1.เขตเวียงเชียงของหรือเขตเมืองเก่า ถือเป็นเมืองประวัติศาสตร์ให้เน้นการท่องเที่ยวเพื่อศึกษาหาความรู้ ไม่ใช่การท่องเที่ยวเชิงอุตสาหกรรม โดยใช้การท่องเที่ยวชุมชน (CBT) และคงวิถีวัฒนธรรมประเพณีไว้ โดยสามารถส่งเสริมการท่องเที่ยวท่าเรือประวัติศาสตร์ผาถ่านให้เป็นท่าเรือท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมได้ด้วย สร้างจุดแลนด์มาร์ค เช่น สร้างศูนย์วัฒนธรรมนิทัศน์บนพื้นที่ที่ว่าการอำเภอเก่าซึ่งมีทั้งพิพิธภัณฑ์เมืองจำลองเชิงประวัติศาสตร์เชียงของ แกลอรี่ พื้นที่จัดแสดงศิลปวัฒนธรรม ศูนย์ข้อมูลข่าวสาร ห้องประชุม 2.เขตเมืองใหม่ เป็นเขตเศรษฐกิจการค้าใหม่ซึ่งเคารพต่อประวัติศาสตร์วัฒนธรรม เพื่อรองรับการเชื่อมต่อการค้าผ่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 4 อย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม กำหนดศูนย์กลางกาขนส่งสินค้า จัดผังเมืองเป็นระบบที่ชัดเจนโดยกระบวนการการมีส่วนร่วมของคนในพื้นที่ ส่งเสริมการผลิตเพื่อการค้าจากท้องถิ่น |
