"สมคิด" แฉอัยการ-ดีเอสไอ พาพยานคดีอัลรูไวลีออกนอกประเทศ เตรียมยื่น ป.ป.ช.สอบ
“สมคิด บุญถนอม” ค้านสืบพยานปากเอกคดีอัลรูไวลี เชื่อมีขบวนการพาตัวออกนอกประเทศ อ้างมีเอกสารโยงอัยการ-ดีเอสไอบางคน เตรียมร้อง ป.ป.ช.เอาผิดผู้เกี่ยวข้อง สุดท้าย ศาลสั่งส่งประเด็นไปสืบที่ยูเออี นัดถามความคืบหน้า 20 พ.ค.นี้

เมื่อวันที่ 4 ก.พ. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลอาญานัดฟังคำสั่งในคดี ที่อัยการ เป็นโจทก์ ฟ้อง พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม อดีตจเรตำรวจ พ.ต.อ.สรรักษ์ หรือสมชาย จูสนิท ผกก.สภ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน พ.ต.อ. ประภาส ปิยะมงคล ผกก.สภ.น้ำขุ่น จ.อุบลราชธานี พ.ต.ท.สุรเดช อุดมดี และ จ.ส.ต. ประสงค์ ทอรั้ง เป็นจำเลยที่ 1-5 ในความผิดฐานร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย และร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาฯ และเพื่อปกปิดการกระทำความผิดอื่นของตน และเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญา
จากกรณีที่จำเลยทั้ง 5 ร่วมกันลักพาตัวนายโมฮัมหมัด อัลรูไวลี นักธุรกิจชาวซาอุดิอาระเบีย ประกอบธุรกิจจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย เนื่องจากจำเลยทั้ง 5 เข้าใจว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของนักการทูตซาอุดิอาระเบีย เหตุเกิดเดือน ก.พ.2533
โดยในนัดนี้อัยการร้องขอให้ศาลมีคำสั่งส่งประเด็นไปสืบ พ.ต.ท.สุวิชชัย แก้วผลึก (นายเกียรติกรณ์ แก้งเพชรศรี) พยานปากสำคัญ ที่หลบหนีคดีไปอยู่ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) และทนายความจำเลยได้ร้องคัดค้าน
พล.ต.ท.สมคิด เบิกความว่า สาเหตุที่คัดค้านการส่งประเด็นไปสืบ พ.ต.ท.สุวิชชัย หรือนายเกียรติกรณ์ ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เนื่องจากเชื่อว่ามีการช่วยเหลือพยานปากนี้ ให้พ้นไปจากอำนาจของขอบเขตอำนาจศาลไทย ทำให้จำเลยเสียเปรียบ และมีโอกาสที่พยานปากนี้จะมิได้เบิกความโดยอิสระ เพราะมีหมายจับคดีฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ที่ศาลมีนบุรีตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิต จึงเชื่อว่ามีโอกาสที่จะใช้หมายจับบีบบังคับให้การอย่างไรก็ได้ นอกจากนี้ ตนยังมีหลักฐานว่า พยานปากนี้อยู่ในประเทศไทยตลอดเวลา ไม่ได้อยู่ที่ประเทศซาอุดิอาระเบียหรือประเทศกัมพูชาอย่างที่อัยการโจทก์กล่าวอ้าง แต่ถูกนำตัวออกไปจากประเทศไทยไปยังประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.2555 ในเวลา 02.00 น. ด้วยสายการบิน EY407 โดยมีใบเสร็จโอนเงินค่าตั๋วเครื่องบินจากคนใกล้ชิดอัยการโจทก์รายหนึ่ง และจากการตรวจสอบรายชื่อผู้โดยสารพบว่า มีพนักงานสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จำนวน 2 คน นั่งประกบไปด้วย ซึ่งตนเห็นว่าเป็นการนำพยานเข้าสู่ศาลด้วยการกระทำอันมิชอบ ซึ่งตามกฎหมายแล้วไม่ควรรับฟัง
อย่างไรก็ตาม ศาลปรึกษานายทวี ประจวบลาภ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา แล้วก่อนมีคำสั่งว่า อนุญาตให้ส่งประเด็นไปสืบ พ.ต.ท.สุวิชชัย หรือหรือนายเกียรติกรณ์ พยานอัยการโจทก์ คดีอุ้มนายอัลรูไวลี นักธุรกิจชาวซาอุฯ ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้ โดยศาลนัดพร้อมเพื่อดูความคืบหน้าการสืบพยานปากดังกล่าวในวันที่ 20 พ.ค.นี้ เวลา 09.00 น.ต่อไป
ด้าน พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม กล่าวภายหลังศาลมีคำสั่ง ว่า ยอมรับว่ารู้สึกหนักใจกับการที่ต้องไปสืบพยานในต่างประเทศ เพราะต้องมีค่าใช้จ่ายการเดินทาง การติดต่อผ่านล่ามที่เกี่ยวข้องกับคดี ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่ยืนยันว่าไม่กลัวการเผชิญหน้า ส่วนจะเดินทางไปเมื่อใดนั้น ต้องรอความคืบหน้าการดำเนินการของอัยการ ส่วนเรื่องของการฟ้องร้องบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการนำพยานออกนอกประเทศ ตนจะเดินทางไปยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายใน 1-2 วันนี้ พร้อมหลักฐานที่แสดงถึงความเชื่อมโยงการกระทำผิด โดยจะมีบุคคลที่ตนจะยื่นฟ้องในครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 5 คน
