“จันทรเกษม” กลืนเลือด!! ไม่อุทธรณ์คดีสูท ควักเนื้อจ่ายเอกชน 1.7 ล้าน
มรภ. จันทรเกษม กลืนเลือด ไม่อุทธรณ์คดีสูทประวัติศาสตร์ ควักเนื้อ จ่ายเอกชน 1.7 ล้านบาท หลังศาลแพ่งมีคำพิพากษาชดใช้เงินค่าจ้าง สภามหาวิทยาลัย สั่งตั้งกรรมการสอบ ไล่บี้หาผู้รับผิดชอบแทน
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ประชุมสภามหาวิทยาลัยราชภัฎจันทรเกษม (มจษ.) ได้มีมติเห็นชอบให้ มจษ. ชำระหนี้ค่าเสียหาย จำนวน 1,770,487.86 บาท ให้กับ บริษัททรงสมัยเมืองทองธานี จำกัด ตามคำพิพากษาของศาลแพ่ง หลังถูกบริษัททรงสมัยฯ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องให้ชดใช้ค่าเสียหาย กรณีว่าจ้างให้ดำเนินการตัดเย็บสูทสากลให้กับบุคลากร จำนวน 671 ชุด เพื่อใช้ในงานฉลองสถาปนาครบรอบ 70 ปี ของ มจษ. ในวันที่ 12 กันยายน 2553 แต่ มจษ. ไม่ยอมรับมอบสินค้า และชำระเงินตามที่ตกลงไว้
แหล่งข่าวจาก มจษ. กล่าวยืนยัน สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า ที่ประชุมสภาฯ ในช่วงเดือนมกราคม 2556 ที่ผ่านมา มีมติให้ มจษ. จ่ายเงินชดใช้ค่าตัดเย็บสูท จำนวน 1,770,487.86 บาท ให้กับบริษัททรงสมัยฯ จริง เนื่องจากกรรมการเห็นว่าเป็นผลดีต่อ มจษ. มากกว่าการอุทธรณ์คดีต่อสู้ในชั้นศาลต่อไป
แหล่งข่าวกล่าวว่า หลังจากที่บริษัททรงสมัยฯ ยื่นเรื่องฟ้องร้องต่อศาล ให้ มจษ.ชดใช้ค่าเสียหายในการว่าจ้างตัดสูท ผู้บริหาร มจษ. ได้ทำหนังสือไปหารือกฤษฎีกา ได้รับความเห็นว่า มจษ. จะอุทธรณ์คดีต่อหรือไม่อุทธรณ์ก็ได้ และเมื่อมีการนำเรื่องเข้าไปพิจารณาในที่ประชุมสภาฯ กรรมการหลายคนเห็นตรงกันว่า หากอุทธรณ์คดีต่อไป และ มจษ. เกิดแพ้คดี จะต้องเสียค่าใช้จ่ายมากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะค่าดอกเบี้ย ที่จะเพิ่มขึ้นตามระยะเวลาในการสู้คดี
"การจ่ายเงินให้กับบริษัทเอกชน ตามคำพิพากษาของศาลที่ออกมาในขณะนี้ น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า”แหล่งข่าวจาก มจษ. ระบุ
แหล่งข่าวกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมจษ. ไม่สามารถจัดสรรเงินงบประมาณรายได้ ปี 2556 มาใช้ได้ เพราะได้จัดสรรเงินส่วนนี้ไปหมดแล้ว จึงจำเป็นที่ต้องใช้เงินคงคลังมาจ่ายแทน เบื้องต้น ที่ประชุมสภาฯ ได้มีมติเห็นชอบให้ มจษ. ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อหาบุคคลที่เกี่ยวข้อง มารับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นแทนมหาวิทยาลัยต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีฟ้องเรื่องการตัดสูทดังกล่าว ศาลแพ่ง มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2555 ในคดีแดง ที่ 2453/2555 ให้ มจษ. ชำระเงินจำนวน 1,476,200 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าว นับตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน 2553 เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จให้แก่ บริษัททรงสมัยฯ และรับมอบเสื้อสูท กางเกง กระโปรง จำนวน 671 ชุด และเสื้อเชิ้ต จำนวน 671 ตัว
โดยวงเงินจำนวน 1,770,487.86 บาท แบ่งเป็น ต้นเงิน 1,476,200 บาท ดอกเบี้ย 252,672.86 บาท และค่าฤชาธรรมเนียมใช้แทน จำนวน 41,615 บาท
ส่วนสาเหตุที่ทำให้ มจษ. ไม่ยอมรับเสื้อสูทจากบริษัททรงสมัยฯ หลังจากที่ตัดเย็บเสร็จแล้ว เป็นเพราะถูกร้องเรียนว่า ในขั้นตอนการดำเนินงาน อาจจะความไม่ชอบพากลเกิดขึ้น ส่อว่าจะมีการทุจริต จึงทำให้ผู้บริหารในขณะนั้น ระงับการสั่งจ่ายเงินค่าจ้าง และถูกบริษัททรงสมัยฯ ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายในเวลาต่อมา