สุเทพ ยืนยัน โครงการสร้างโรงพักและแฟลตตำรวจ ทำตามขั้นตอนและข้อเสนอจาก สตช.
7 ก.พ. 56 - นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แจง โครงการสร้างโรงพักและแฟลตตำรวจทำตามขั้นตอนราชการและข้อเสนอของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชี้ อธิบดีดีเอสไอและคนในเพื่อไทย ให้ข้อมูลเพื่อหวังผลการเมือง ทำลายพรรค ปชป. ขณะยื่นฟ้องกลับฐานใส่ร้ายและหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาแล้ว
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะอดีตรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวถึงโครงการก่อสร้างโรงพักทดแทนทั่วประเทศ และที่พักอาศัยของข้าราชการตำรวจว่า กรณีดังกล่าวนายธาริต เพ็งดิษ อธิบดีดีเอสไอ และ คนในพรรคเพื่อไทย มีการแบ่งงานกันทำ ด้วยการแถลงข่าวอย่างต่อเนื่องและชี้นำให้ประชาชนเข้าใจผิดว่าตนทุจริตด้วยการออกคำสั่งประมูลจัดจ้างในลักษณะเอื้อประโยชน์เอกชนรายเดียว กีดกันรายอื่น และอาจเข้าข่ายฮั้วประมูล ตนจึงนำหลักฐานมาแสดงและขอชี้แจงยืนยันว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการทุจริต และได้ดำเนินการตามลำดับขั้นตอนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) เป็นผู้เสนอ โดยโครงการดังกล่าวริเริ่มและอนุมัติตั้งแต่สมัยรัฐบาลนายกฯ สมชาย วงสวัสดิ์ พรรคพลังประชาชน ซึ่ง ให้ สตช. และ บ.ธารักษ์สินทรัพย์จำกัด ดำเนินการก่อสร้าง แต่ภายหลังเห็นว่าค่าใช้จ่ายสูงกว่า 16,000 ล้านบาท จึงขอให้ตั้งงบประมาณแบบปกติผูกพัน 3 ปี (ปี 52-54) จำนวนกว่า 6,200 ล้านบาท ต่อมารัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เข้ารับตำแหน่ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) โดย พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ขณะนั้น เสนอเรื่องมายังตน เพื่อนำเข้าที่ประชุม ครม.และอนุมัติแนวทางการจัดจ้างสถานีตำรวจทดแทน ขออนุมัติหลักการโครงการจัดจ้างโครงการอาคารที่พักอาศัยข้าราชการตำรวจ ด้วยวิธีประกวดราคาโดยส่วนกลาง(สตช.)แบบสัญญาเดียว แยกเสนอราคาเป็นรายภาค(ภาค1-9) และให้กองพลาธิการและสรรพาวุธ เป็นผู้ดำเนินการ ดังนั้น การดำเนินการต่อจากนั้นถือเป็นหน้าที่ สตช.ดำเนินประกวดราคาต่อ แต่ภาคหลัง สตช.มีการเปลี่ยนแปลงส่วนราชการทำให้หน้าที่รับผิดชอบโครงการตกเป็นของ กองบังคับการโยธาธิการ(ยธ.) รวมถึง พล.ต.อ.ประทีป ตันประเสริฐ เข้ารักษาราชการแทน ผบ.ตร. เสนอแนวคิดเพื่อขอยกเลิกการจัดจ้างแบบเดิมพร้อมขออนุมัติหลักการโครงการทั้ง 2 ด้วยวิธีประกวดราคาแบบอิเลคทรอนิกส์(e-Auction)ในครั้งเดียว พร้อมแสดงเหตุผลความจำเป็น ความเป็นธรรมต่อผู้ที่จะเข้ารับงานก่อสร้างและประโยชน์ต่อราชการ ตนจึงเซ็นอนุมติพร้อมกำชับห้ามรื้อทุบทิ้งอาคารเดิมเพื่อเก็บไว้ใช้ประโยชน์ต่อ
นายสุเทพ กล่าวต่อไปว่า การประกวดราคาแบบอีออกชั่น เกิดขึ้นในสมัย พ,ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี เป็น ผบ.ตร. และตนมีเอกสารการประกวดราคาที่บริษัทต่าง ๆ แข่งขันกันแบบนาทีต่อนาทีมาแสดง พร้อมขอยืนยันว่า ส่วนตัวไม่เคยรู้จักบริษัท พีซีซี ที่ได้รับการประมูล มาก่อน ไม่ทราบใครเป็นเจ้าของ ไม่เคยมีการติดต่อกันทั้งทางตรงและทางอ้อม ดังนั้น การออกมาให้ข้อมูลของนายธาริต และพรรคเพื่อไทยตนจึงเชื่อว่าเป็นการหวังผลทางการเมืองในการทำลายพรรคประชาธิปัตย์ ขณะเดียวกันได้ยื่นฟ้องนายธาริต ต่อศาลอาญาแล้ว เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ในฐานใส่ร้าย และหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา พร้อมยืนยัน ไม่มีความคาดแค้นในเรื่องส่วนตัว แต่ทำเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของตนและเห็นว่าเจ้าหน้าที่รัฐจะต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ส่วนที่การที่ออกมาชี้แจงล่าช้า เนื่องจากอยู่ในช่วงการรวบรวมเอกสารหลักฐาน เพราะเป็นฝ่ายค้าน ทำให้ยากต่อการขอเพื่อรวบรวมเอกสาร

