“ปฏิญญาปัตตานี” นำอิสลามศึกษาสู่สันติสุขโลก
หลังเสร็จสิ้นการประชุมวิชาการนานาชาติว่าด้วยบทบาทของอิสลามศึกษาในยุคสังคมหลังโลกาภิวัตน์ หรือ International Conference “Roles of Islamic Studies in Post Globalized Societies” เมื่อบ่ายวันพฤหัสบดีที่ 23 ธ.ค.ที่ผ่านมา ที่วิทยาลัยอิสลามศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ได้มีการหารือกันของตัวแทนจาก 16 ประเทศที่เข้าร่วมประชุม เพื่อประกาศ “ปฎิญญาปัตตานี” หรือ Pattani Declaration
"คำประกาศปัตตานี" จะเป็นดั่งบทสรุปของการประชุมครั้งนี้ และ "เข็มทิศ" ที่ทุกองคาพยพจะก้าวเดินต่อไป
ทั้งนี้ ตัวแทนจากประเทศจอร์แดนรับหน้าที่กล่าวเป็นภาษาอาหรับ ขณะที่ รศ.ดร.บุญสม ศิริบำรุงสุข อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นตัวแทนประเทศไทยกล่าวเป็นภาษาอังกฤษ โดยมี นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี และ ศ.ดร.กนก วงศ์ตระหง่าน ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เป็นสักขีพยานในพิธีประกาศปฏิญญาเพื่อนำอิสลามศึกษาสู่สันติสุขของโลก
สาระของคำประกาศปฏิญญาปัตตานี ได้แก่
1.นำอิสลามศึกษาไปสู่สันติสุขแก่มนุษยชาติทุกคน
2.บูรณาการศาสตร์อิสลามศึกษาให้เกิดการพัฒนาต่อสังคม
3.ให้การศึกษาอิสลามเป็นศาสตร์ที่มีชีวิตชีวา บูรณาการให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีในการนำความเจริญไปสู่สังคมที่มีความสงบสุข
4.ควรเน้นเรื่องอิสลามศึกษาในแนวทางที่จะนำไปสู่ความร่วมมือในระดับโลก
5.จัดให้ทุกประเทศได้มีโอกาสในการพูดคุยระหว่างสมาชิกด้วยกัน และเน้นนำเสนอให้ประชาคมมุสลิมได้ประพฤติปฎิบัติเรื่องสิทธิ เสรีภาพ เพื่อให้มีการปกป้องและป้องกันความคิดสุดโต่ง และป้องกันมรดกทางสังคม
ในคำประกาศปฏิญญาปัตตานียังเน้นสิ่งที่ต้องพัฒนาร่วมกันใน 7 ประเด็นหลัก ได้แก่
1.เน้นเรื่องการสร้างความสมดุลสำหรับผู้ที่จะเรียนในประเทศต่างๆ และการให้ความสำคัญต่อศาสนาอิสลาม โดยกำหนดให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการการศึกษาอิสลาม หรือ เอสซีซีโอ ทำงานในเรื่องนี้ให้สำเร็จภายในปี 2555
2.พยายามจัดตั้งศูนย์วิจัยวิชาการอิสลาม หรือ อาร์โอเอ็ม พร้อมจัดตั้งเครือข่ายการทำวิจัยร่วมกันเพื่อให้ง่ายและสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาอิสลามศึกษา
3.สร้างความร่วมมืออย่างแน่นแฟ้นระหว่างนักคิดในด้านวิชาการและวิจัยหลากหลายสาขาที่เน้นไปสู่การศึกษาอิสลาม
4.สร้างความพยายามในการแลกเปลี่ยนบุคลากรทางด้านการศึกษา อาจารย์ นักศึกษา ให้มีความรู้ความเข้าใจและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกัน
5.ให้มีการจัดหลักสูตรทางการศึกษาประเด็นที่เกี่ยวข้องกับโลกาภิวัตน์ เพื่อให้มีประสบการณ์และพัฒนามากยิ่งขึ้น
6.ให้วิทยาลัยอิสลามศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานีเป็นศูนย์กลางการศึกษาภาษาอาหรับในประเทศไทย
7.กำหนดให้มีการประชุมนานาชาติทุกๆ 2 ปีที่ จ.ปัตตานี เพื่อพบปะ แลกเปลี่ยนความเห็นและรายงานความคืบหน้าการดำเนินงานด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
“ในปฏิญญาปัตตานีซึ่ง ม.อ. (มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์) รับผิดชอบดูแล จะมีบริบทส่งเสริมสร้างสันติสุข เสรีภาพ และพัฒนาเยาวชนอิสลามรุ่นใหม่ให้มีโอกาสและชีวิตที่ดีในสังคมหลังยุคโลกาภิวัฒน์ เน้นความร่วมมือในการพัฒนาและกำหนดทิศทางการพัฒนาการศึกษาด้านวิชาการอิสลามศึกษาร่วมกัน เพื่อเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ในระดับนานาชาติ เปิดโอกาสให้นักศึกษาต่างประเทศมีโอกาสเข้ามาเรียนรู้และแลกเปลี่ยนทางอิสลามศึกษา คาดว่าหลังการสัมมนาครั้งนี้จะได้แนวคิดโครงการและแนวคิดการจัดกิจกรรมที่เป็นระดับนานาชาติอีกมากกว่า 10 โครงการ” รศ.ดร.บุญสม กล่าว
ขณะที่ นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เป็นปรากฏการณ์สำคัญเชิงจิตวิทยาของประเทศไทย และต้องจัดครั้งต่อไปอีกในอนาคต
“ขอแสดงความชื่นชมต่อรัฐบาล นายกรัฐมนตรี ม.อ.ปัตตานี และทุกฝ่ายที่ทำให้การประชุมครั้งนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกของปัตตานีและประเทศไทย ถือเป็นปรากฏการณ์สำคัญเชิงจิตวิทยาและความมั่นคง มีอุลามะฮ์มาร่วมนำเสนอผลงานทางวิชาการและเติมเต็มการแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ ความผูกพันให้เป็นส่วนเดียวกัน เป็นความพยายามสนับสนุนศาสนาอิสลามในพื้นที่ ให้เห็นถึงภาพลักษณ์อันดีงามของไทยที่ได้ส่งเสริมกิจการศาสนาอิสลาม ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพในการดำเนินชีวิตตามกรอบวิถีวัฒนธรรมของตน” นายอาศิส กล่าว
--------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 บรรยากาศในนาทีประกาศปฏิญญาปัตตานี
2 นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี
