“พิสิฐพงศ์ ชูพินิจ” เด็กบดินทร “ตอกลิ่ม”การศึกษาไทย ล้มเหลว จนทนไม่ไหว?
เสียงจากใจ “พิสิฐพงศ์ ชูพินิจ” เด็กบดินทร “ตอกลิ่ม”การศึกษาไทย ล้มเหลวจนทนไม่ไหว - วิชา “IS” ไม่ใช่แค่น่าเบื่อ แต่มัน...?

การปรากฏตัวของ แฟนเพจ ใน FACEBOOK ที่ใช้ชื่อว่า “กลุ่มต่อต้านวิชา is แห่งประเทศไทย” ซึ่งใช้สโลแกนว่า หยุดทำร้ายนักเรียนไทย หยุดทำร้ายการศึกษาไทย ถึงเวลาแก้ไข “การศึกษาไทยไร้คุณภาพ”
พร้อมระบุภารกิจสำคัญ คือ เปลี่ยนแปลงระบบการศึกษาไทยให้ก้าวต่อไปในวันข้างหน้า
(อ่านประกอบใน เปิดตัวเพจ “กลุ่มต่อต้านวิชา IS แห่งประเทศไทย” 5 เดือน ยอดไลค์ทะลุสองหมื่น)
อาจทำให้หลายคนสงสัยถึงที่มาที่ไปเกี่ยวกับ แฟนเพจ นี้ ว่า แท้จริงแล้ววัตถุประสงค์ ในการจัดตั้งคืออะไรกันแน่ ? วิชา “IS” มันคืออะไร? ทำร้ายระบบการศึกษาไทย ถึงขนาดต้องมีการต่อต้านกันเลยหรือ?
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org มีโอกาสพูดคุยกับ “ทอย” หรือ “พิสิฐพงศ์ ชูพินิจ” นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ในฐานะแอดมิน และผู้ก่อตั้งแฟนเพจดังกล่าว ถึงที่มาที่ไปของเรื่องราวทั้งหมด รวมถึงความเห็นเกี่ยวกับระบบการศึกษาไทย ที่เขามองว่า มันล้มเหลว จนทนไม่ไหว ต้องลุกขึ้นทวงถามหารากเหง้าของแก่นสาร และความหมายของการศึกษาที่แท้จริง
Q : อะไรคือจุดเริ่มต้นของการก่อตั้งแฟนเพจนี้ ?
A : จุดเริ่มต้นจริงๆ เกิดจากความปวดหัวและเบื่อครับ เบื่อกับการทำ IS ซึ่งเป็นวิชาที่เปิดเทอมมา เราก็งงมาก เห็นในตารางสอน "IS" มันคืออะไร? คาบแรกที่ได้เรียนวิชานี้ก็มองเห็นปัญหาทันที ตั้งแต่เรื่องขอเอกสารประกอบการสอนที่ไม่มีความพร้อม จริงๆ ก็ไม่มีเอกสารประกอบการเรียนมาให้เลยด้วยซ้ำ รู้เพียงว่าวิชา "ทำวิจัย" ซึ่งตอนนั้นเพื่อนๆ ก็ยังมึนๆ กับวิชานี้เช่นกันครับ ทุกคนก็ต่างไม่เข้าใจไม่รู้เรื่อง และก็บ่นไปตามๆกัน
หลังจากที่เริ่มเรียนไปได้ซัก 2 สัปดาห์ เริ่มมีการทำรายงาน ต้องบอกเลยว่าเป็นการเรียนการจัดแบบฟอร์มเสียมากกว่า เพราะว่าแบบฟอร์มผิดเพียงนิดเดียวต้องทำใหม่ ส่งแล้วส่งอีก ส่งแล้วส่งอีก อยู่อย่างนั้น ขนาดตัวอักษรต้องเป๊ะ การเว้น การเคาะบรรทัดต้องถูกต้องเป๊ะ เกินไปรึเปล่า? ตกลงว่าแก่นแท้ของวิชานี้คืออะไรกันแน่ แม้กระทั่งการตั้งหัวข้อในการทำการ "ศึกษาอิสระ" ยังบังคับให้ทำได้เฉพาะในกรอบที่ครูวางไว้ ผมไม่ทราบว่าโรงเรียนอื่นเป็นไหม แต่โรงเรียนผมเป็น
บางเรื่องที่มีผลกระทบในด้านลบต่อโรงเรียน ทั้งที่เป็นข้อเท็จจริงแต่กลับถูกห้ามไม่ให้ทำการศึกษา แล้วแบบนี้จะศึกษาอิสระได้อย่างไรกัน? สรุปแล้วนะครับ มันเกิดจากความไม่มีความพร้อมทั้งด้านครูผู้ที่จะมาสอน ไม่มีความพร้อมทั้งหลักสูตร ยังให้นิยามคำว่า "IS" กับนักเรียนอย่างเราๆ ไม่ได้เลย
Q : มองว่าวิชา IS มีปัญหาอย่างไร ?
A : ส่วนตัวมองว่า IS มีปัญหาด้านของบุคลากรครับ เนื่องจากบุคลากรครู และนักเรียนยังไม่มีความพร้อม ยังไม่เข้าใจถึงคำว่า "IS" ว่ามันคืออะไร ทำไมอยู่ดีๆ ก็บรรจุมาในตารางสอน แล้วยังมีการให้หน่วยกิตอีก นั้นหมายความว่าส่งผลต่อเกรดของนักเรียนแน่นอน ด้านของหลักสูตรก็ยังไม่มีความแน่ชัด แผนการสอนเป็นอย่างไรก็ยังไม่แน่ชัด แต่ละโรงเรียนก็ดำเนินการต่างกัน มาตรฐานหรือหลักแกนกลางอยู่ตรงไหน เอาง่ายๆ
Q : คาดหวังอะไรจากการเรียกร้องของกลุ่มนี้ ?
A : เราจัดตั้งเพจขึ้นมาเพื่อจะร้องเรียนให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาสนใจปัญหาด้านการศึกษาอย่างเอาจริงเอาจังเสียที ไม่ได้หวังว่าจะต้องเปลี่ยนแปลงในรุ่นปัจจุบัน แต่ผมสงสารเด็กรุ่นใหม่ๆ ที่กำลังจะเกิดมากับการศึกษาที่แย่และห่วยแตกของประเทศนี้ ที่เป็นกันหนักขนาดนี้
แรกๆ เราคาดหวังจะให้ยกเลิกวิชา IS แต่ ณ ตอนนี้แนวทางของแฟนเพจเหมารวมปัญหาด้านการศึกษาอย่างเอาจริงเอาจัง ในอนาคตเราจะทำให้ผู้คนหันมาสนใจในด้านการศึกษา อาจจะได้เห็นโฆษณาตามป้ายรถเมล์ บนรถเมล์ หรือ สื่อโฆษณาทั่วไป เพื่อขยายวงให้กว้างขึ้น เมื่อคนเห็นมากขึ้นผมคิดว่าเสียงของผู้ที่กำลังประสบปัญหาด้านการศึกษาไม่ว่าจะเป็นผู้ปกครอง นักเรียน หรือครู อาจาร์ยต่างๆ น่าจะมีพลังมากยิ่งขึ้น รัฐบาลจะได้หันกลับมาสนใจอนาคตของชาติอย่างนักเรียนบ้าง ถึงเราจะไม่ได้ทำถึงขั้นส่งหนังสือไปถึงกระทรวงศึกษาธิการ เพราะเรารู้ว่าส่งไปก็เท่านั้น ผมไม่เชื่อว่าเขาจะสนใจอ่านจริงๆ หมดหวังกับรัฐจริงๆครับ ทำอะไรให้เราไม่ได้เลยจริงๆ

Q : สมาชิกในเพจส่วนใหญ่เป็นใครบ้าง และส่วนใหญ่ความคิดเห็นของแต่ละคนเป็นไปในทิศทางใด ?
A : นักเรียนมัธยมเป็นส่วนใหญ่ครับ แล้วก็จะมีอาจาร์ยจากหลายๆ ที่เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นด้วย มีทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยครับ เท่าที่สังเกตมาตั้งแต่ต้น ผู้ที่ร่วมสนับสนุนกับเพจค่อนข้างมากกว่าผู้ไม่เห็นด้วยหลายเท่าตัวครับ ส่วนมากก็อยากจะปรับเปลี่ยนระบบการศึกษาไทยเช่นกัน แต่ก็ดีใจที่ได้ร่วมกันเสนอความคิดเห็นออกมา
Q : นอกจากเราสร้างแฟนเพจขึ้นมา เราได้ขับเคลื่อนการไม่เห็นด้วยกับวิชา IS ผ่านวิธีอื่นด้วยมั้ย ?
A : ได้ร่วมพูดคุยกับอาจาร์ยหลายๆ ท่านแล้วครับ ส่วนมากก็เห็นปัญหาของการเรียนวิชานี้เช่นกัน ในอนาคตเรามีแนวทางการโฆษณาบนสื่อต่างๆ ครับ แต่จะส่งหนังสือถึงผู้ใหญ่ไหม ไม่แน่นอนครับ เพราะผมไม่เชื่อว่าจะมีคนลงมาสนใจกับสิ่งนี้จริงๆ ผมรอให้เสียงของเราดังมากพอที่เขาจะลงมาสนใจ แล้วเราก็จะไม่ยอมให้มันเงียบลงไปแน่นอน
Q : อาจารย์ เพื่อนๆ หรือผู้ใหญ่ มีท่าทีอย่างไรกับเราบ้าง ?
A : ส่วนมากก็เห็นด้วยครับ ก็หวังดีกับเรา แต่ก็อยากให้ระมัดระวังตัวด้วย ก็ต้องขอบคุณสำหรับความเป็นห่วง ผมก็จะพยายามระมัดระวังให้มากที่สุดครับ
Q : เราเปิดเผยตัวแบบนี้ ไม่กลัวผลกระทบเหรอ ?
A : จริงๆ ผมไม่กลัวด้านผลกระทบหรอกครับ แต่เราก็ไม่ได้เปิดเผยตัวขนาดบอกบ้าน บอกที่อยู่ แต่ผมเชื่อว่าเราทำในสิ่งที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติครับ
Q : มีการพูดคุยกับกลุ่ม สมาพันธ์ไทยเพื่อการปฏิวัติระบอบการศึกษาไทย บ้างหรือไม่ในเรื่องนี้ ?
A : ไม่ได้มีการพูดคุยกันครับ แต่ทางแอดมินก็รู้จักกันอยู่พอสมควร ซึ่งทางเพจสมาพันธ์ฯ ดูเหมือนจะเป็นเพจที่ค่อนข้างลุยอย่างเป็นจริงเป็นจัง ส่วนทางเพจเรา ก็เพียงนำเสนอมุมทางการศึกษาให้ทางประชาชนทั่วไปได้เห็นครับ ผ่านรูปแบบของอินโฟกราฟฟิค
Q : ส่วนตัวมองว่าระบบการศึกษาไทยมีปัญหรือไม่ อย่างไร ตรงไหนบ้างที่เรามองว่าเป็นปัญหา
A : ปัญหามันมีแน่นอนครับ ตั้งแต่หลักสูตร ทั้งบุคลากรครูที่ไม่เพียงพอ ทั้งปัญหาการแข่งขันสูง ปัญหาด้านจริยธรรมของเยาวชน จริงๆ แล้วควรจะรื้อใหม่กันทั้งระบบเลยทีเดียว เพราะเรามัวแต่ยึดอยู่กับอดีต รู้ทั้งรู้ว่ามันล้มเหลวไม่เป็นท่าแต่ก็ยังย่ำอยู่กับที่
Q : ต่อกรณีที่มีข่าวความผิดพลาดของตัวข้อสอบในการสอบโอเน็ตครั้งล่าสุดที่ผ่านมา มีความคิดเห็นอย่างไรบ้างต่อเรื่องนี้ ?
A : มันแสดงให้เห็นถึงความไม่พร้อมของทาง สทศ. เอง ซึ่งมันก็แทบจะเป็นปัญหาแบบนี้ทุกปี ทั้งคำถามที่ถามแบบไม่คิด บางข้อไม่สมควรเอามาออกข้อสอบ บางข้อจะให้ตอบข้อไหน? ต้องเดาใจคนออกข้อสอบให้ถูก มาตราฐานการศึกษาอยู่ตรงไหน? แล้วมันจะมีคุณภาพได้อย่างไร?
Q : อะไรคือเหตุผลสำคัญที่ทำให้เรากล้าลุกขึ้นมามีปากมีเสียงกับปัญหาการศึกษา ?
A : เพราะเราอยู่ในปัญหา เบื่อที่จะทน เพราะทนมานานแล้วครับ ทนจะมันไม่ไหวแล้ว เราคิดว่าเราเชื่อว่าเราทำได้ เราจะเปลี่ยนแปลงให้มันดีขึ้นได้ เพื่ออนาคตของเยาวชน เพื่อตัวของเราเอง และเพื่อประเทศชาติ ส่วนตัวผมเป็นคนที่ไม่ค่อยยอมอะไรง่ายๆ กับเรื่องที่ไม่มีเหตุผล หรือว่าไม่เป็นธรรมกับเรา เมื่อเล็งเห็นปัญหาตรงนี้เลยใช้ฐานเสียงเดิม(เพื่อนๆ) ที่มีอยู่ช่วยๆ กันแชร์ช่วยกันบอกต่อ จนถึงทุกวันนี้ด้วยยอด Like กว่า 22000 คน
Q : อยากฝากอะไรถึงผู้ใหญ่ หรือบุคลากรที่เกี่ยวข้องในแวดวงการศึกษาไทยบ้าง
A : ไม่ได้ขออะไรมากมาย แต่ขอให้ฟังในสิ่งที่เราพูด แล้วการศึกษานักเรียนก็ควรมีส่วนร่วมในการควบคุมและกำหนดทิศทางของมันด้วย ไม่ใช่ให้นักวิชาการนั่งตากแอร์กินภาษีออกหลักสูตรที่ไม่เคยสอดคล้องกับวิถีชีวิตจริงของเรา เรียนไปแล้วได้อะไร?
ข้อเพิ่มเติมเล็กน้อยนะครับ แม้ทุกคนจะรู้จักในนาม กลุ่มต่อต้านวิชา IS แห่งประเทศไทย แต่ตอนนี้ผมได้เปลี่ยนชื่อเป็น กลุ่มต่อต้านระบบการศึกษาไทย แต่เนื่องด้วยคนกด like จำนวนมากทาง Facebook เลยไม่อนุญาตให้เปลี่ยนชื่อครับ ส่วนจะเรียกอะไรนั้นก็สุดแล้วแต่ทุกๆ ท่านนะครับ
