ห้ามขาย “อุปกรณ์ไฟฟ้าช็อตแกล้งคน” ฝ่าฝืนเจอคุกครึ่งปี
คกก.คุ้มครองผู้ บริโภค มีมติ ห้ามขาย “อุปกรณ์ไฟฟ้าช็อตแกล้งคน” หลังทดสอบแล้วพบอาจเป็นอันตรายกับเด็กเล็ก-ผู้ป่วยโรคหัวใจ ฝ่าฝืนมีโทษจำคุก 6 ด. ปรับ 5 หมื่นบาท 
นายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้ลงนามในคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ 1/2556 เรื่อง ห้ามขายสินค้า “อุปกรณ์ไฟฟ้าช็อตสำหรับแกล้งคน” เป็นการชั่วคราว ซึ่งเผยแพร่ในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 18 ก.พ.เป็นต้นมา โดยให้เหตุผลว่า เนื่องจากปัจจุบันมีการขายอุปกรณ์ไฟฟ้าช็อตสำหรับแกล้งคน ที่ผลิตออกมาในรูปแบบต่างๆ เช่น หมากฝรั่ง รีโมทรถยนต์ สวิตซ์เปิด-ปิดไฟฟ้า ฯลฯ โดยใช้หลักการช็อตด้วยไฟฟ้า สคบ.จึงได้สินค้าให้ห้องปฏิบัติการของภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดำเนินการทดสอบ พบว่าอุปกรณ์ดังกล่าวมีค่าแรงดันไฟฟ้าสูงสุดประมาณ 500-1,000 โวลต์ สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าไหลผ่านอวัยวะของร่างกายได้อย่างต่อเนื่องและคงที่ตลอดระยะเวลาที่กดหรือดึงอุปกรณ์นั้น
“ซึ่งอาจทำให้เกิดกระแสไฟฟ้ารั่วตามผิวหนังสูงกินเกว่า 0.02 แอมแปร์ มีผลให้บุคคลอาจหมดสติ หรือถ้าหากกระแสไฟฟ้าสูงกว่า 0.2 แอมแปร์ จะทำให้ผิวหนังบริเวณที่เป็นเส้นทางการเดินของกระแสเกิดเป็นรอยแผลไหม้ได้ สินค้าดังกล่าวอาจเป็นอันตรายต่อเด็กเล็กหรือผู้ป่วยโรคหัวใจ” ข้อความในคำสั่งดังกล่าวระบุ
คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค จึงมีมติในการประชุมครั้งที่ 1/2556 เมื่อวันที่ 31 ม.ค.2556 ให้มีคำสั่งห้ามขายสินค้าที่เรียกกันว่า “อุปกรณ์ไฟฟ้าช็อตสำหรับแกล้งคน” เป็นการชั่วคราว โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 36 วรรคสาม ของ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 โดยรายละเอียดของคำสั่งมี 2 ข้อ
1.ห้ามขายอุปกรณ์ประเภทดังกล่าวชั่วคราวจนกว่าจะมีการยกเลิกคำสั่ง ทั้งนี้ ให้รวมถึงการให้เช่า ให้เช่าซื้อ หรือจัดหาให้ไม่ว่าด้วยประการใดๆ โดยเรียกค่าตอบแทนเป็นเงินหรือผลประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่น
2.ให้ผู้ประกอบการที่ประสงค์จะขาย ผลิต สั่ง หรือนำเข้าอุปกรณ์ประเภทดังกล่าว ทำการติดต่อกับ สคล.เพื่อทดสอบว่าสินค้าดังกล่าวไม่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค โดยจะต้องทำภายใน 30 วันนับจากวันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
สำหรับบทลงโทษของการไม่ปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าวอยู่ในมาตรา 56 ของ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 มีระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
