กทม.รุก ชวนคนกรุงเทพฯกาบัตรดี 100%
กทม.รุก ช่วงโค้งสุดท้าย ชวนคนกรุงเทพฯ กาบัตรดี 100% เน้นทำตาม 5 ขั้นตอน ขณะที่ 2 มี.ค. หลัง 18.00 น. ห้ามขายเหล้าโดยเด็ดขาด ฝ่าฝืนมีโทษจำคุก 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 หรือทั้งจำทั้งปรับ
วันที่ 28 ก.พ. นางนินนาท ชลิตานนท์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานกิจกรรมรณรงค์คนกรุงเทพฯ ออกไปเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ช่วงโค้งสุดท้าย “คนกรุงเทพฯ ใช้สิทธิ กาบัตรดี 100%” และให้ความรู้ในการลงคะแนนบัตรดี และตัวอย่างบัตรเสีย รวมถึงข้อห้ามต่างๆ ในการจัดการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมโชว์การแสดงละครใบ้ชวนคนรุ่นเก่า รุ่นใหม่ ออกไปใช้สิทธิ ณ ลานหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
บัตรดี และบัตรเสีย
ในการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 11 ม.ค. 52 มีประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้ง 2,120,721 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 51.10 โดยในจำนวนนี้เป็นบัตรเสีย ร้อยละ 0.76 หรือคิดเป็นจำนวน 16,107 บัตร ซึ่งเกิดจากความผิดพลาดในการทำเครื่องหมาย ทำให้เสียคะแนนบริสุทธิ์จำนวนมาก ดังนั้นกทม. จึงได้รณรงค์และแนะนำการทำเครื่องหมายกากบาท (X) ให้ถูกต้องในวันเลือกตั้ง 3 มี.ค. 56 โดย บัตรดี จะต้องทำเครื่องหมายกากบาท (X) ใน “ช่องทำเครื่องหมาย” หน้าหมายเลขผู้สมัครรับเลือกตั้งเท่านั้น ห้ามมีเครื่องหมายอื่นๆ เพิ่มเติม หรือทำสัญลักษณ์ ในบัตรลงคะแนน โดยเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นจะเป็นบัตรเสีย
ส่วน บัตรเสีย ได้แก่ บัตรปลอม บัตรที่ไม่ได้ทำเครื่องหมายใดๆ บัตรที่ไม่อาจทราบว่าลงคะแนนเลือกตั้งให้กับผู้สมัครใด บัตรที่ทำเครื่องหมายเป็นที่สังเกต หรือทำเครื่องหมายอื่นนอกจากเครื่องหมายกากบาท (X) บัตร ที่ทำเครื่องหมายลงคะแนนให้กับผู้สมัครเกินกว่า 1 เครื่องหมาย บัตรที่ทำเครื่องหมายลงคะแนนนอกกรอบที่กำหนด เช่น นอก “ช่องทำเครื่องหมาย” หรือ นอก “ช่องไม่ประสงค์ลงคะแนน” บัตรที่ทำเครื่องหมายลงคะแนนทั้งใน “ช่องทำเครื่องหมาย” และ “ช่องไม่ประสงค์ลงคะแนน” พร้อมกัน
5 ขั้นตอนการเลือกตั้ง
สำหรับขั้นตอนการใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้ง มีดังนี้ “มีชื่อ” : ตรวจสอบรายชื่อที่ป้ายหน้าหน่วยเลือกตั้ง และจำลำดับชื่อในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง พร้อมทั้งตรวจสอบรูปถ่าย ชื่อ และหมายเลขผู้สมัครที่จะเลือกเพื่อความแน่ใจ “ถือบัตร” : ถือบัตรเพื่อแสดงตน ได้แก่ บัตรประชาชน หรือบัตรข้าราชการ หรือใบขับขี่ หรือ passport ต่อคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง และลงชื่อขอใช้สิทธิ “รับบัตร-เข้าคูหา” : รับลงชื่อรับบัตรเลือกตั้งบนต้นขั้วบัตรเลือกตั้ง และเข้าคูหาเพื่อใช้สิทธิ “กากบาท” ใช้ปากกาทำเครื่องหมายกากบาท (x) ในช่องทำเครื่องหมายได้เพียง 1 หมายเลข เท่านั้น โดยทำเครื่องหมายกากบาท (x) ลงในช่องทำเครื่องหมายของผู้สมัครที่ต้องการเลือก “หย่อนลงหีบบัตร” : นำบัตรเลือกตั้งที่กากบาทและพับเรียบร้อยแล้ว ไปหย่อนลงในหีบบัตรเลือกตั้งด้วยตนเอง
ทำเครื่องหมายเลือกผู้สมัครได้เพียง 1 หมายเลข โดยลับ ห้ามถ่ายรูป
ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสามารถทำเครื่องหมายกากบาท (X) ลงในช่องทำเครื่องหมายของผู้สมัครที่ต้องการเลือกได้เพียง 1 หมายเลขเท่านั้น จากนั้นนำบัตรเลือกตั้งที่กากบาทและพับเรียบร้อยแล้ว ไปหย่อนลงในหีบบัตรเลือกตั้งด้วยตนเอง ทั้งนี้ การเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นการลงคะแนนโดยลับ ห้ามถ่ายภาพบัตรเลือกตั้งโดยเด็ดขาด และเมื่อเสร็จสิ้นการลงคะแนนในเวลา 15.00 น. จะนับคะแนน ณ ที่เลือกตั้ง โดยกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งจะจัดสถานที่เพื่อเตรียมนับคะแนน จากนั้นจะทำการขานคะแนนทีละบัตร พร้อมทั้งจะนำตัวอย่างบัตรดี – บัตรเสีย ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้งได้วินิจฉัยไว้ไปติดตั้งบริเวณที่นับคะแนน เพื่อให้ประชาชนและผู้สังเกตการณ์ได้เข้าใจตรงกัน
ห้ามขายเหล้าตั้งแต่ 2 มี.ค. 6 โมงเย็นเป็นต้นไป
กทม. ขอย้ำในช่วงโค้งสุดท้ายนี้ว่า ทั้งผู้สมัครรับเลือกตั้ง และผู้มีสิทธิเลือกตั้ง โปรดระมัดระวังการทำผิดกฎหมายการเลือกตั้ง อาทิ ห้ามฉีกบัตรเลือกตั้ง มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้ง 5 ปี ห้ามขาย ห้ามแจก ห้ามจัดเลี้ยงสุราทุกชนิด ในเขตกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ 18.00 น. ของวันที่ 2 มี.ค. 56 จนถึงเที่ยงคืนวันที่ 3 มี.ค. 56 ฝ่าฝืนมีโทษจำคุก 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ห้ามมิให้ผู้สมัครหรือผู้ใดกระทำการเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้ลง คะแนนให้แก่ตนเองหรือผู้สมัครอื่น หรือให้งดเว้นการลงคะแนนเลือกตั้งให้แก่ผู้สมัครใด เช่น ให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมที่จะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด หรือจัดเลี้ยง หรือหลอกลวง บังคับขู่เข็ญ ใช้อิทธิพล ใส่ร้าย เป็นต้น หากฝ่าฝืน มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-5 ปี และปรับตั้งแต่ 2 หมื่นบาท ถึง 2 แสนบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี
ห้ามมิให้มีการจ่ายแจกหรือให้เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เพื่อชักจูงมิให้ลงคะแนนหรือการกระทำใดๆ เพื่อมิให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่ลงคะแนนเลือกตั้ง ฝ่าฝืนจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000–200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี และห้ามมิให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งหรือผู้ใดเรียกรับหรือยอมรับเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเอง หรือผู้อื่นเพื่อลงคะแนนเลือกตั้ง หรืองดเว้นไม่ลงคะแนนเลือกตั้งให้แก่ผู้สมัครใด ฝ่าฝืนจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี เป็นต้น

