จุฬาฯ เปิดแผนจัดการทรัพย์สิน 11 มี.ค.นี้ หลัง "อุเทนถวาย" นัดประท้วงถูกขอคืนพื้นที่
ผู้บริหาร จุฬาฯ เตรียมเปิดแผนจัดการทรัพย์สิน 11 มี.ค.นี้ หลังศิษย์อุเทนถวายนัดประท้วงถูกขอคืนพื้นที่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้บริหารของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นำโดย ศ.นพ.ภิรมย์ กมลรัตนกุล อธิการบดี รศ.น.อ.นพ.เพิ่มยศ โกศลพันธุ์ รองอธิการบดีจุฬาฯ กำกับดูแลสำนักจัดกาทรัพย์สิน และผศ.ดร.พงศ์ศักดิ์ วัฒนสินธุ์ คณบดีคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ เตรียมแถลงข่าวเรื่อง “ทิศทางนโยบายการจัดการทรัพย์สินจุฬาฯ” ในวันที่ 11 มี.ค.2556 ระหว่างเวลา 13.30-15.00 น. ที่สำนักงานอธิการบดี จุฬาฯ ถือเป็นครั้งแรกๆ ที่จุฬาฯ แถลงนโยบายเรื่องทิศทางการจัดการทรัพย์สินที่มีมูลค่านับหมื่นล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมามักจะถูกเก็บไว้เป็นความลับ
ข้อมูลจากเว็บไซต์สำนักงานจัดการทรัพย์สินของจุฬาฯ (www.property.chula.ac.th) พบว่า ทรัพย์สินหลักของจุฬาฯ ได้แก่ที่ดินในเขตปทุมวัน 1,153 ไร่ ซึ่งในปัจจุบัน จำแนกการใช้ประโยชน์หลักออกเป็น 3 ส่วน 1.พื้นที่เขตการศึกษา 637 ไร่ 2.พื้นที่สำนักงาน ดูแลและบริหารจัดการผลประโยชน์ ได้แก่บริเวณพื้นที่ส่วนราชการเช่าใช้ 131 ไร่ และ 3.พื้นที่เขตพาณิชย์ 385 ไร่
เมื่อแยกตามประเภทหน่วยธุรกิจ พบว่ามีทั้งตลาดสยามย่าน จัตุรัสจามจุรี อาคารสยามกิตติ์ ศูนย์การค้าสยามสแควร์ เขตพาณิชย์สวนหลวง-สามย่าน และอาคารพิเศษ (โครงการที่พักอาศัย หมอน 41)
นอกจากนี้ เว็บไซต์ดังกล่าวยังให้ข้อมูลเรื่องโครงการพัฒนาที่ดินทั้งในเขตปทุมวัน กทม. และนอกเขตปทุมวัน ประกอบด้วยบริเวณเขาตะเกียบ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ บริเวณ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ บริเวณถนนอ่อนนุช (สุขุมวิท 77) และบริเวณถนนพระราม 9
(แผนผังเขตจัดการผลประโยชน์บริเวณเขตปทุมวันของสำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาฯ - คลิกเพื่อขยาย)
เมื่อผู้สื่อข่าวตรวจสอบข้อมูลเรื่องทรัพย์สินของจุฬาฯ ในรายงานประจำปี พบว่า ไม่ได้มีการให้ข้อมูลเรื่องรายรับ-รายจ่ายเป็นตัวเลขว่าปีละกี่ล้านบาท แต่มีการทำเป็นแผนภูมิวงกลมแล้วแบ่งสัดส่วนเป็นเปอร์เซ็นต์แทน อาทิ ในปี 2554 มีรายได้ 30.54% จากที่ดิน-อาคารพาณิชย์สยามสแควร์ 26.85% จากการบริหารจัตุรัสจามจุรี 24.27% จากที่ดิน-อาคารพาณิชย์ สวนหลวง-สามย่าน 5.81% จากโครงการพัฒนาที่ดินเดิม (เอกชนลงทุน) 4.79% จากการบริหารอาคารสยามกิตติ์ ที่เหลือมาจากแหล่งอื่นๆ อาทิ จากการบริหารงานอาคารวิทย์กิตต์ จากโครงการพัฒนาที่ดินใหม่ (เอกชนลงทุน) จากโครงการพัฒนาที่ดิน Novotel ต่อสัญญาล่วงหน้า ฯลฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การแถลงข่าวของผู้บริหารจุฬาฯ ดังกล่าว เกิดขึ้นภายหลังสำนักงานจัดทรัพย์สินของจุฬาฯ ตกเป็นข่าวในหลายกรณีก่อนหน้านี้ ทั้งการขอขึ้นค่าเช่าที่ดิน 11 ไร่ ในสนามกีฬาแห่งชาติ จากกรมพลศึกษา จากเดิมปีละ 3.3 ล้านบาท เป็น 153 ล้านบาท ก่อนจะตกลงกันได้ที่ 4 ล้านบาท และล่าสุด กรณีขอคืนพื้นที่ 20 ไร่ จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ซึ่งหมดสัญญาเช่าไปตั้งแต่ปี 2546 แต่บานปลายกระทั่งศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันอุเทนถวายนัดรวมตัวกันประท้วงจุฬาฯ ในวันที่ 15 มี.ค.2556
