“คลิปเด็กชายขายตัว” สะท้อนปัญหาสังคม แต่เปิดหน้า-ละเมิดสิทธิเด็ก
คลิปยูทูปสะท้อนปัญหาเด็กชายขายตัว ครูข้างถนนเผยแม้เนื้อหาดีแต่ “ไม่ปิดหน้า ผิด พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก” แนะให้ลบออก เผยสถานการณ์ถูกลักพาตัวเป็นขอทานยังน่าห่วง 30%เข้าสู่วงจรขายบริการเพศ
จากกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปผ่านยูทูปเรื่อง “ฝันสลายของ "เด็กชาย..ขายตัว" 18+” เมื่อวันที่ 9 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นบทสัมภาษณ์ประกอบวีดีโอความยาว 7.05 นาที ถ่ายทอดเรื่องราวเด็กชายต่างจังหวัด 8 คนอายุ 11-17ปีที่เร่ร่อนขายบริการทางเพศในกรุงเทพฯ บอกเล่าที่มาที่ไป การใช้ชีวิตบางแง่มุม และความใฝ่ฝันตามประสาเด็กๆ
สำนักข่าวอิศรา ได้สัมภาษณ์ความคิดเห็นต่อคลิปนี้ โดย น.ส.ทองพูล บัวศรี ผู้จัดการโครงการครูข้างถนน มูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก กล่าวว่าการเผยแพร่ภาพเด็กและเยาวชนในสื่อหากเป็นเรื่องดี เช่น เด็กได้รับรางวัลเรียนดี สามารถเปิดเผยใบหน้าเด็กได้ เพราะถือเป็นการส่งเสริมการทำความดี ในทางกลับกันหากเนื้อหาสื่อสะท้อนแง่มุมลบของสังคมที่เกี่ยวข้องกับเด็ก เช่น เด็กขอทาน เด็กค้าประเวณี การเผยแพร่นั้นเป็นการละเมิดสิทธิเด็กและเยาวชน ทำให้เด็กได้รับความอับอายเมื่อโตขึ้น
ผู้จัดการโครงการครูข้างถนน กล่าวอีกว่ากรณีเผยแพร่คลิปวิดีโอดังกล่าวผ่านเว็บไซต์ยูทูบ แม้จะมีเจตนาดีเพื่อปลุกกระตุ้นสังคม แต่เมื่อผู้ผลิตสื่อบนความไม่ระมัดระวัง ก็เข้าข่ายละเมิดสิทธิเด็กตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กมาตรา 26(4) แม้ว่าเด็กจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม นอกจากนี้ยังมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งห้ามมิให้เผยแพร่ข้อมูลซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิผู้อื่น โดยมีความผิดทั้งผู้ผลิตและผู้เผยแพร่ด้วย”
“การเผยแพร่เรื่องของเด็กผ่านสื่อเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวัง คลิปวิดีโอดังกล่าวควรถูกลบออกไปเพราะจะเป็นปัญหาแก่เด็กทำให้ได้รับความอับอายในวันข้างหน้า จริงๆแล้วเว็บไซต์ยูทูบเองต้องรับผิดชอบเรื่องดังกล่าวเพราะควรจะมีระบบสกัดกั้นหรือเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมหรือขัดต่อกฎหมาย” น.ส.ทองพูล กล่าว
ด้าน นที สรวารี เลขาธิการมูลนิธิอิสรชน อดีตครูข้างถนน และปัจจุบันยังคงทำงานช่วยเหลือเด็กและคนเร่ร่อน กล่าวว่า “คลิปนี้เผยแพร่จริงๆนานแล้ว(มากกว่า 2 ปี) เด็กในคลิปคนที่ถอดเสื้อตอนนี้อายุ 14-15 ปีแล้ว ที่จริงควรโมเสสหน้าเด็ก(อำพรางไม่ให้เห็นหน้าชัด) เพราะเด็กเสียประโยชน์จากการเผยแพร่”
เลขาธิการมูลนิธิอิสระชน ยังกล่าวถึงสถานการณ์ปัญหาเด็กชายขายบริการทางเพศในสังคมไทยปัจจุบันว่าการค้าบริการทางเพศในเด็กผู้ชาย กระจายตัวไปในหลายพื้นที่มากขึ้น แอบแฝงในรูปแบบต่างๆ จากคำบอกเล่าของเด็กมีสถานบริการบางแห่งจ้างเด็กเป็นพนักงานเสริฟแขก VIP(บริการทางเพศ) ส่วนข้างถนนก็มีพื้นที่ท่าเตียน ท่าราชวรดิษฐ์ สราญรมย์ ตรอกข้าวสารก็มีมาให้เห็นบางครั้งคราวบางช่วงเวลาของวัน(ส่วนใหญ่ช่วงปิดเทอมและช่วงดึกๆ) อายุต่ำสุดที่เคยคุยมาคือ 9 ขวบ
“ในอดีตที่เคยมีเด็กไปสีแขก(ขายบริการทางเพศ)แถวๆสีลม ก็ยังมีอยู่ และชาวต่างชาติที่เข้ามาใช้บริการเด็กในไทยก็เริ่มมีวิธีการซับซ้อนมากขึ้น มาในรูปแบบของนักท่องเที่ยวหรือคนใจดีก็ยังมีอยู่ให้เห็น ส่วนสนามหลวง คลองหลอด ตรอกข้าวสาร ท่าเตียน ยังเป็นพื้นที่ที่เด็กใช้ทำงานอยู่ในบางช่วงเวลา แต่ระยะหลังใช้วิธีการโทรศัพท์นัดหมายกันโดยตรงแล้ว”
ผู้สื่อข่าวถามความคิดเห็นถึงกฎหมาย นโยบายและมาตรการของภาครัฐในการปกป้องดูแลเด็กกลุ่มเสี่ยงและแก้ปัญหา นายนทีกล่าวว่านโยบายภาคสังคมกับกลุ่มผู้ด้อยโอกาสในเมือง โดยเฉพาะเด็กเร่ร่อน ผู้ใช้ชีวิตในที่สาธารณะ ไม่ชัดเจน แต่ในส่วนของข้าราชการประจำมีการพัฒนารูปแบบและเชื่อมโยงการทำงานกับเอ็นจีโอมากขึ้น โดยใช้พระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) คุ้มครองเด็ก พ.ร.บ.ความรุนแรงในครอบครัว และ พ.ร.บ.ส่งเสริมการจัดสวัสดิการแห่งชาติ เช่น รัฐมีการเปิดบ้านพักเด็กและครอบครัว
“การบังคับใช้กฎหมายผ่านนโยบายรัฐบาลยังมองไม่เห็นเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน ยังมีเด็กถูกลักพาตัว มีเด็กโดนนำตัวเข้าสู่กระบวนการค้ามนุษย์ (ขอทาน) และเมื่อเติบโตขึ้นหลุดวงจรขอทานมากกว่า 30% จะเข้าสู่การค้าบริการทางเพศทันที ที่เหลือจะทะยอยเข้า มีเพียง10-20% เท่านั้นที่มีโอกาสเปลี่ยนชีวิตหรือได้กลับสู่ครอบครัว” เลขาธิการมูลนิธิอิสรชน กล่าว .
-----------------------------------------------------------------
(ล้อมกรอบ)
ตัวอย่างจากคลิป “ฝันสลายของ "เด็กชาย..ขายตัว" 18+” เช่น ฉากเด็กชายยืนริมถนนโบกเรียกแขกมาใช้บริการ(ขายตัว) เด็กชายคนนึงร้องเพลง อีกคนเต้นบีบอยตามความใฝ่ฝัน และมีตัวอย่างบทสนทนา เช่น….
“ในฝันของผมอยากมีแฟนครับ ก็อยากเริ่มต้นชีวิตอะไรอย่างนี้ อยากไปอยู่อเมริกาเหนือ อยากซื้อบ้าน อยากมีรถเก๋งขี่ อยากไปหลายๆประเทศที่อยู่สบาย อยากทำงานรวยๆ ในฝันผมอยากเป็นตำรวจ”
(คนสัมภาษณ์) : เริ่มขายตัวตั้งแต่อายุเท่าไร
(เด็กชาย) : อายุ 12 ครับ
(คนสัมภาษณ์) : ทำไมถึงเข้ามาขายตัวที่กรุงเทพฯ
(เด็กชาย) : ตอนแรกก็หิวข้าวครับ ไม่มีตังค์, (เด็กชายอีกคน) : พี่ผมติดคุกครับ
(คนสัมภาษณ์) : ปกติยืน(รอเรียกแขก)บ่อยมั้ย?
(เด็กชาย): บ่อยครับ อาทิตย์ละ 3-4 ครั้ง
(คนสัมภาษณ์) : ครั้งแรกเป็นอย่างไร
(เด็กชาย) : ส่วนมากไปครั้งแรกเลยกับฝรั่งครับ, (เด็กอีกคน) : ให้เกี่ยวเบ็ดให้เค้า คือว่าเอานิ้วไปจิ้มตูดเค้าครับ, (เด็กชายอีกคน) : เพื่อนพาไปครับ บอกว่าไปหาแขกมั้ย ได้เงินเยอะเป็นพันสองพัน
(คนสัมภาษณ์) : ตอนที่มีความสุขที่สุดคือตอนไหนครับ?
(เด็กชาย) : ได้เจอพ่อได้เจอแม่กลับมาคืนดีกันครับ, (เด็กชายอีกคน) : ตอนที่ไปดูเขาเต้นบีบอยครับ
(คนสัมภาษณ์) : แล้วกลัวอะไรมากที่สุดครับ?
(เด็กชาย) : ไม่กลัวอะไรแล้ว, (เด็กชายอีกคน) : กลัวตำรวจจับ
(คนสัมภาษณ์): ถ้าสามารถถามคำถามโลกใบนี้ได้ข้อหนึ่ง อยากถามว่าอะไรครับ?
(เด็กชาย) : ถามว่าทำไมถึงเกิดมาเป็นอย่างนี้ครับ เกิดมาเป็นคนจน, (เด็กชายอีกคน) : อยากถามว่าทำไมแม่ทิ้งผมครับ
(คนสัมภาษณ์) : ตอนเด็กๆฝันว่าอยากเป็นอะไรครับ?
(เด็กชาย) : อยากเป็นนักข่าวครับ, (เด็กชายอีกคน) : ตำรวจครับ, (เด็กอีกคน) : ผมอยากเป็นนักร้อง, (เด็กอีกคน) : ผมไม่เคยมีความฝันครับ .

