“รมว.วัฒนธรรม” ไม่หวั่น กระแส “บ่องตง” – “ถวัลย์ ดัชนี” พูด “น่ารักจุงเบย”
“สนธยา คุณปลื้ม” รมว. วัฒนธรรม “บ่องตง” คำศัพท์ใหม่ วัยรุ่น ไม่ทำให้ภาษาไทยวิบัติ ชี้แค่ฮิตตามกระแส - เผย “ถวัลย์ ดัชนี” ศิลปินแห่งชาติ พูด “น่ารักจุงเบย”

กรณีคำว่า “บ่องตง” ซึ่งมีที่มาจากคำว่า “บอกตรงๆ” กำลังกลายเป็นคำศัพท์ยอดฮิต ในโลกออนไลน์ และกลุ่มวัยรุ่นอยู่ในขณะนี้ ทำให้มีการตั้งข้อสังเกตว่าการเปลี่ยนแปลงรูปแบบคำศัพท์ดังกล่าว จะส่งผลกระทบต่อภาษาไทยในระยะยาวนั้น
นายสนธยา คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศรา www.isranews .org ถึงเรื่องนี้ ว่า เชื่อว่าคำศัพท์ใหม่เหล่านี้จะไม่ทำให้ภาษาไทยเกิดปัญหาแน่นอน เพราะคำศัพท์เหล่านี้ เป็นเพียงแค่กระแสนิยมในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น เมื่อเวลาผ่านไป คนก็จะเลิกให้ความสนใจไปเอง
“คำว่า บ่องตง มันก็เหมือนกับคำว่า จุงเบย (จังเลย) ที่เคยฮิตพูดกันพักหนึ่ง เดียวก็หายไปเอง ไม่มีอะไรต้องน่าวิตกกังวล ภาษาไทยคงไม่ถึงขึ้นวิบัติเพราะคำพูดเหล่านี้แน่นอน”
นายสนธยา กล่าวย้ำว่า คำฮิตของวัยรุ่นลักษณะนี้ มักจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาหนึ่งแล้วก็หายไป สมัยตอนที่ตนเป็นวัยรุ่น ก็มีคำฮิตเหมือนกันเช่น คำว่า “จ๊าบ” ที่ตอนนี้ไม่ค่อยมีใครใช้แล้ว ขณะที่การสื่อสารผ่านเครื่องมือสื่อสารในปัจจุบัน อาทิ line ตนก็ยังนำคำฮิตเหล่านี้ มาใช้สื่อสารกับกลุ่มเพื่อน หรือคนใกล้ชิด เพื่อทำให้การสื่อสารมีอรรถรสมากขึ้น
“เราต้องทำความเข้าใจว่า คำศัพท์ใหม่เหล่านี้ มันไม่ใช่คำศัพท์ทางการที่คนทั่วไปนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน แต่มันเป็นคำพูดที่แสดงออกเพื่อความสนุกสนานหรือแซวกัน การใช้งานมันมีขอบเขตของมันเอง และคนที่มีอายุมากก็ไม่ได้รู้สึกต่อต้านอะไรมากนัก อย่างเช่นผมเคยไปพบกับอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติ ท่านก็ยังเคยพูดแซวกับผมว่า “นักรักจุงเบยย” เหมือนกัน"
นายสนธยา กล่าวต่อไปว่า การจะไปห้ามปราบไม่ให้เยาวชนหยุดหรือห้ามพูด คำศัพท์สมัยใหม่เหล่านี้ คงเป็นไปไม่ได้ และไม่เหมาะสม เพราะจะส่งผลทำให้เกิดการต่อต้านมากกว่าการทำตาม
“สิ่งสำคัญที่ช่วยทำให้กลุ่มวัยรุ่นเข้าใจความสำคัญของการใช้ภาษา คือ การรณรงค์ ชักชวนเขาให้เข้ามามีส่วนร่วม ในกิจกรรมที่แสดงให้เขาเห็นคุณค่าและความสำคัญของรากแห่งภาษาไทยทีืแท้จริงจริง เพื่อช่วย สร้างให้เขามีภูมิคุ้มกันในเรื่องของภาษามากขึ้น ดีกว่าการที่จะไปสั่งห้ามแล้วเกิดกระแสต่อต้านตามมา ”
ก่อนหน้านี้ น.ส.สุปัญญา ชมจินดา ผู้อำนวยการกรมวิทยาศาสตร์ ราชบัณฑิตยสถาน เคยกล่าวถึงเรื่องนี้ ว่า ภาษามีการเปลี่ยนแปลงและสามารถเกิดคำศัพท์ใหม่ ๆ ได้ตลอดเวลา ถือเป็นปกติอย่างยิ่ง หากแต่ปัจจุบันมีเทคโนโลยีด้านการสื่อสารคอยช่วยให้คำเหล่านั้นเผยแพร่เร็วขึ้น จึงก่อให้เกิดการใช้วงกว้าง และส่งผลให้รู้สึกว่ามีคำศัพท์เกิดขึ้นใหม่จำนวนมาก แต่การใช้คำก็ยังคงจำกัดอยู่ในการสื่อสารเฉพาะกลุ่มอยู่ดี เช่น เพื่อนกับเพื่อน
ขณะที่ ดร.มานะ ตรีรยาภิวัฒน์ รองคณบดีคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เคยระบุถึงประเด็นการใช้คำศัพท์ยอดฮิตของวัยรุ่นไว้ว่า ที่จริงแล้วภาษาไทยมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และไม่ถือว่าเป็นภาษาวิบัติ แต่ควรมีการใช้อย่างถูกกาลเทศะ และต้องไม่ลืมว่า คำศัพท์เหล่านั้นมาจากที่ใด เขียนอย่างไร
อนึ่ง นอกเหนือจากคำว่า "บ่องตง" แล้ว ยังมีคำอื่นๆ ที่นิยมใช้กันในโลกออนไลน์ และกลุ่มวัยรุ่นหลายคำ อาทิ “ช่ะ” จาก ใช่ป้ะ ที่มาจาก ใช่หรือปล่าว , อัลไล มาจาก อะไร, น่าร็อค มาจาก น่ารัก , ชิมะ มาจาก ใช่มะ ที่มาจาก ใช่มั้ย อีกทอดหนึ่ง เป็นต้น
