เปิดโพลล์ ป.ป.ช. ยัน ”เด็กไทยรับโกงไม่ได้” แนะใช้ยาแรงประหาร 7 ชั่วโคตร !
เปิดผลการสำรวจ ป.ป.ช.สวนทาง “เอแบคโพลล์” เด็กไทยส่วนใหญ่รับการทุจริตไม่ได้ แนะใช้ยาแรง “ประหาร 7 ชั่วโคตร" !

สัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เปิดเผยผลการดำเนินการโครงการวิจัย “วัดคุณธรรมสังคมไทย ประจำปี พ.ศ.2556 : วัดทัศนคตินักเรียน นิสิต นักศึกษา ในโครงการต่อต้านคอร์รัปชั่น”
หรือที่สื่อมวลชนเรียกกันว่า “โพลล์ ป.ป.ช.” เนื่องจากใช้วิธีเก็บข้อมูลในเขตพื้นที่ทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค ใน 5 จังหวัด ประกอบด้วย จ.นครราชสีมา เชียงใหม่ นครปฐม สงขลา และ กทม. จากนักเรียน นิสิต นักศึกษา ที่มีอายุ 14-25 ปี รวม 549 ตัวอย่าง
เมื่อจำแนกตามเพศพบว่า เป็นเพศชาย 45.5% เพศหญิง 55.5% เมื่อจำแนกตามระดับชั้นการศึกษา พบว่าเป็นนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย 36.7% เป็นนิสิต นักศึกษา ระดับชั้นอุดมศึกษา 63.3%
พบปรากฏว่า
- เมื่อถามว่าการคอร์รัปชั่นโกงกินแผ่นดินเป็นเรื่องที่ไม่ดีทำให้ประเทศชาติเสียหาย ใช่หรือไม่?
กลุ่มตัวอย่าง 81.7% ตอบว่าเห็นด้วยอย่างยิ่ง 12.3% ตอบว่าเห็นด้วย มีเพียง 6.0% ที่ตอบว่าไม่เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง
- เมื่อถามว่าคนที่คอร์รัปชั่น โกงกินเงินแผ่นดิน เป็นคนไร้ศีลธรรม ใช่หรือไม่
กลุ่มตัวอย่าง 75.6% ตอบว่าเห็นด้วยอย่างยิ่ง 16.9% ตอบว่าเห็นด้วย มีเพียง 7.5% ที่ตอบว่าไม่เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง
- เมื่อถามว่าคนที่คอร์รัปชั่น โกงกินเงินแผ่นดิน เป็นคนเลว น่ารังเกียจ คบไม่ได้ ใช่หรือไม่
กลุ่มตัวอย่าง 53.6% ตอบว่าเห็นด้วยอย่างยิ่ง 33.6% ตอบว่าเห็นด้วย มีเพียง 12.8% ที่ตอบว่าไม่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง
- เมื่อถามว่า การกระทำผิด ทุจริตคอร์รัปชั่น เป็นเรื่องที่น่าอับอาย เสียชื่อเสียงวงศ์ตระกูล ใช่หรือไม่
กลุ่มตัวอย่าง 66.4% ตอบว่าเห็นด้วยอย่างยิ่ง 26.9% ตอบว่าเห็นด้วย มีเพียง 6.7% ที่ตอบว่าไม่เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง
- เมื่อถามว่า ทุกคนในจังหวัด ควรเลิกคบ เลิกช่วยเหลือ คนที่คอร์รัปชั่น แม้ว่าคนพวกนี้จะเป็นข้าราชการ นักกรเมือง นักธุรกิจ สื่อมวลชน ผู้มีชื่อเสียงในจังหวัดก็ตาม ใช่หรือไม่
กลุ่มตัวอย่าง 50.3% ตอบว่าเห็นด้วยอย่างยิ่ง 34.2% ตอบว่าเห็นด้วย มีเพียง 15.5% ที่ตอบว่าไม่เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง
- เมื่อถามว่าควรห้ามข้าราชการ นักการเมือง เจ้าหน้าที่รัฐ รับเงิน ทอง ของกำนัล หรือสิ่งอื่นใด จากประชาชนหรือนักธุรกิจที่มาติดตามงาน ใช่หรือไม่
กลุ่มตัวอย่าง 58.6% ตอบว่าเห็นด้วยอย่างยิ่ง 34.1% ตอบว่าเห็นด้วย มีเพียง 7.3% ที่ตอบว่าไม่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง
- เมื่อถามว่าหากทราบว่าคนในครอบครัวตนเองมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องการคอร์รัปชั่น ควารจะบอกให้คนผู้นั้นเลิกทำและปรับปรุงตัวใหม่ ใช่หรือไม่
กลุ่มตัวอย่าง 63.9% ตอบว่าเห็นด้วยอย่างยิ่ง 29.4% ตอบว่าเห็นด้วย มีเพียง 6.7% ตอบว่าไม่เห็นด้วย
- เมื่อตั้งคำถามปลายเปิดว่า “วิธีจำกัดคอร์รัปชั่นให้หมดไปจากแผ่นดินไทยที่นักเรียน นิสิต นักศึกษา ต้องการเห็นมากที่สุด คือวิธีใด”
คำตอบที่ได้รับมากที่สุดคือ “มีการลงโทษหนักเช่นการประหารชีวิต, ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ 7 ชั่วโคตร เพราะจะได้เป็นแบบอย่างไม่ให้ใครคิดที่จะทำอีก”
รองลงมาได้แก่ “ปลุกจิตสำนักตั้งแต่เด็ก ต้องแก้ที่ต้นเหตุโดยการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมให้กับเด็กๆ ของประเทศ”
“จัดการปราบปรามอย่างจริงจัง, ไล่ออก”
“มีการปราบปรามและดำเนินคดีอย่างยุติธรรม”
“เพิ่มบทลงโทษแก่ผู้กระทำคอร์รัปชั่น”
“เพิ่มการตรวจสอบการใช้งบประมาณ ตรวจสอบที่มาของรายได้ของข้าราชการ นักการเมือง”
ฯลฯ
นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ ป.ป.ช.เปิดเผยว่า สาเหตุที่ต้องมีการทำ “โพลล์ ป.ป.ช.” นี้ขึ้นมา ก็สืบเนื่องจากที่เอแบคโพลล์เคยทำการสำรวจว่า รับได้หรือไม่หากรัฐบาลทุจริตแต่ทำให้ประเทศชาติรุ่งเรือง และตนเองได้รับประโยชน์ ซึ่งผลการสำรวจนี้ทำให้เกิดความสับสน โดยเอแบคโพลล์ ทำการสำรวจด้วยคำถามลักษณะนี้กับกลุ่มตัวอย่างที่เป็นนักเรียน นิสิต นักศึกษา ถึง 4 ครั้ง ได้แก่ ในเดือน ก.ค.2554 ในเดือน ม.ค.2555 ในเดือน มิ.ย.2555 และในเดือน ส.ค.2555 และผลออกมาว่า ทุกคนรับได้ถ้าทุจริตแล้วตัวเองได้ประโยชน์
“ผมพยายามพูดมาตลอดว่าผลการสำรวจของเอแบคโพลล์นั้นไม่จึง จึงให้สำนักประชาสัมพันธ์ของ ป.ป.ช.ลองทำการสำรวจ ซึ่งก็พบว่าข้อมูลที่ตรงกันข้าม คือคนส่วนใหญ่รับไม่ได้กับการทุจริตคอร์รัปชั่น เพราะมองว่าเรื่องที่ไม่ดี ทำให้ชาติบ้านเมืองเสียหาย” นายกล้านรงค์กล่าว
นายกล้านรงค์ ยังกล่าวว่า ในอนาคต ป.ป.ช.จะพยายามเข้าสำรวจความคิดเห็นจากนักเรียน นิสิต นักศึกษา ให้ครบทุกจังหวัด.
