เมื่อบท 4 เกลอ หนุน ‘พี่มาก...พระโขนง' ฟีเวอร์

หากจะกล่าวถึงหนังทำเงินระดับโลกช่วงนี้ คงหนีไม่พ้น ‘จี.ไอ.โจ.:รีเทเลียชั่น’ ของค่าย พาราเมาต์ พิคเจอร์ส ที่ทำรายได้จากการเข้าฉายในสัปดาห์แรกสูงถึง 41.2 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ (ราว 1,277 ล้านบาท) แต่สำหรับแฟนหนังชาวไทย ‘จี.ไอ.โจ.’ กลับโดนกระแสฟีเวอร์ของ ‘พี่มาก...พระโขนง’ แห่งค่ายจีทีเอชแย่งตลาดกวาดรายได้เข้าฉายวันแรก 28 มี.ค. 56 สูงถึง 21 ล้านบาท ทุบสถิติการเปิดตัวหนังไทยสูงสุด รวมถึง ‘นางนาก’ ฉบับนนทรีย์ นิมิตบุตร ที่เคยเปิดตัวสูงสุดที่ 11 ล้านบาท ยังคงสร้างรายได้อย่างต่อเนื่องจนล่าสุด ทะลุ 100 ล้านบาท ภายใน 4 วัน

อะไรที่ทำให้ ‘พี่มาก...พระโขนง’ ฟีเวอร์ จนเป็นปรากฎการณ์ใหม่ของวงการหนังไทย ‘สำนักข่าวอิศรา’ (www.isranews.org) ได้พูดคุยกับนักวิจารณ์หนังชื่อดัง ‘ประวิทย์ แต่งอักษร’ กล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้หนังเรื่องนี้ได้รับความนิยมสูงสุด จนกวาดรายได้เป็นประวัติการณ์ 4 วัน ทะลุ 100 ล้านบาทนั้น เกิดจากเรื่องราวภายในหนังที่สามารถสร้างอารมณ์ขันแก่ผู้ชมได้ เรียกว่ามีมุขตลกที่แตกต่างคละเคล้ากันไป ทำให้ผู้ชมติดใจเพราะตอบโจทย์ความต้องการพักผ่อนหย่อนใจได้

นอกจากนี้การประชาสัมพันธ์เป็นอีกส่วนหนึ่งที่จีทีเอชมีความช่ำชองในการใช้เครื่องมือต่าง ๆ สร้างกระแสของหนัง “ทำให้พอมันจุดติดปุ๊บก็เหมือนไฟลามทุ่ง”

ส่วนนักแสดงนั้นต้องยกเครดิตให้กับ 4 เกลอที่มาจากตอน คนกลาง ในหนัง “สี่แพร่ง” และ ตอน คนกอง ใน “5 แพร่ง” ได้แก่ “ฟรอย-ณัฏฐพงษ์ ชาติพงศ์, เผือก-พงศธร จงวิลาส, เชน-วิวัฒน์ คงราศรี และ บอมบ์-กันตพัฒน์” ถือได้ว่าเป็นตัวชูโรงที่ดึงดูดความสนใจของผู้ชมได้ ซึ่งทั้ง 4 คนมีปฏิกิริยาทางเคมีต่อการแสดงหนังที่ลงตัว ขณะที่ “โอ้-มาริโอ้ เมาเร่อ และ ใหม่-ดาวิกา โฮร์เน่ เป็นเพียงภาคบังคับของการสร้างหนังที่ต้องมีพระเอกและนางเอกเท่านั้น มิใช่นักแสดงหลักที่นำมาเดินเรื่อง

ที่สำคัญ การเปลี่ยนมุมมองเล่าเรื่องจากแม่นากมาเป็นพี่มาก ถือเป็นความฉลาดในการสร้างสิ่งใหม่ ๆ ในขณะที่การอนุรักษ์แก่นเรื่องยังคงอยู่

อย่างไรก็ดี มีกลุ่มผู้ชมบางกลุ่มคาดหวังจะได้เรียนรู้ประวัติของพี่มากนั้น ส่วนตัวมองว่าคงไม่มีใครที่ดูหนังเรื่องนี้แล้วถือสากับความรู้เชิงประวัติศาสตร์ เพราะจะเห็นว่าประโยคการสนทนาหรือฉากต่าง ๆ ล้วนไม่ใช่เหตุการณ์ในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ซึ่งเป็นช่วงเหตุการณ์จริง

“ใครที่จะถือสาเรื่องประวัติศาสตร์ ไม่ต้องถือสา เพราะมันผิดทุกขั้นตอน  สมัยรัชกาลที่ 1 มีชิงช้าสวรรค์งั้นเหรอ ซึ่งคนทำก็รู้ว่ามันเหลวไหล ดังนั้นแสดงให้เห็นว่าคนทำตั้งใจให้หนังเรื่องนี้เหลวไหล”

นักวิจารณ์หนัง ยังมองว่า กรณีการนำหนัง ‘พี่มาก...พระโขนง’ ชนโรงกับ ‘จี.ไอ.โจ:รีเทเลียชั่น’  บอกไม่ได้ว่าเป็นความกล้าและตัดสินใจถูกต้องหรือไม่ แต่ตอนนี้ผลลัพธ์ได้ปรากฏชัดเจนแล้วว่า จากอดีตที่หนังไทยเคยหลบการฉายในโรงหนังให้หนังต่างประเทศ เพื่อผลทางรายได้ที่แน่นอนนั้น ค่ายหนังอารมณ์ดีอย่าง‘จีทีเอช’ แสดงให้เห็นว่า การสร้างกลุ่มผู้ชมหนังไทยขึ้นมาเป็นสิ่งสำคัญ และ ‘จีทีเอช’ ก็ทำได้ จึงเชื่อมั่นว่าหนังในสังกัดดีพอที่จะฉายชนโรงกับหนังดังต่างประเทศ

“จีทีเอชสร้างตลาดผู้ชมมายาวนาน ตั้งแต่หนังเรื่อง แฟนฉัน รถไฟฟ้ามาหานะเธอ กวนมึนโฮ เอทีเอ็ม..เออรักเออเร่อ ล้วนทำเงิน จึงสร้างความมั่นใจว่าหากนำหนังฉายในช่วงนี้สามารถรับมือได้ ซึ่งดีใจที่หนังไทยสามารถทำเงินในช่วงนี้ เพราะเป็นไพรม์ไทม์ของธุรกิจหนัง”

อย่างไรก็ตาม ‘พี่มาก...พระโขนง’ ยังมีจุดบกพร่อง คือ เป็นหนังที่ตั้งหน้าตั้งตาขายมุขตลกแบบไม่ลืมหูลืมตา จนเลอะเทอะเกินไป แต่ต้องยกความดีความชอบให้ผู้กำกับ (โต้ง บรรจง ปิสัญธนะกุล) ที่ยังมีทักษะทางการทำหนังที่จะดึงความเลอะเทอะดังกล่าวเข้าสู่การเดินเรื่องได้อย่างดี ทั้งนี้ความเลอะเทอะของมุขตลกทำให้ผู้ชมไม่ต้องถือสากับคุณค่าทางศิลปะทำหนังมากเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับหนังประกวดเรื่องอื่นที่มุ่งประเด็นสอดแทรกความคิดและทักษะการใช้ศิลปะทางการสร้างหนัง

ทั้งนี้ กล่าวอีกว่า คาดหวังให้ ‘พี่มาก...พระโขนง’ กวาดรายได้ทะลุ 200 ล้าน แต่สิ่งที่มีค่ามากกว่าตัวเงิน คือ สามารถเปลี่ยนทัศนคติผู้ชมหนังให้หันมาสนับสนุนหนังไทยได้ ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญ

“บ้านเมืองเรามีเรื่องเครียดมาตลอด หนังจึงเป็นช่องทางหนึ่งที่จะปลดปล่อยคนดูจากโลกความเป็นจริง ถามว่าหนังเรื่องนี้เกี่ยวโยงกับปัญหาบ้านเมืองหรือไม่ คิดว่าได้ทำหน้าที่รับใช้ให้คนดูลืมความเป็นจริงได้อย่างน้อย 2 ชั่วโมง ซึ่งถือว่าเป็นการทำหน้าที่ได้ดีในฐานะสื่อบันเทิงของไทยแล้ว” ประวิทย์ ทิ้งท้าย.

ล้อมกรอบ 

ข้อมูลจาก วิกิพีเดีย รวบรวมรายชื่อ 10 อันดับหนังไทยทำเงินในอดีต (คอยลุ้นว่า 'พี่มาก...พระโขนง' จะไต่อันดับได้หรือไม่. 

1. สุริโยไท : สหมงคลฟิล์ม-พร้อมมิตร/2544 : 550 ล้านบาท
2. ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 1 : สหมงคลฟิล์ม-พร้อมมิตร/2550 : 219.06 ล้านบาท
3. ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 2 : สหมงคลฟิล์ม-พร้อมมิตร/2550 : 216.87 ล้านบาท
4. ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๓ ยุทธนาวี : สหมงคลฟิล์ม-พร้อมมิตร/2554 : 203.7 ล้านบาท
5. ต้มยำกุ้ง : สหมงคลฟิล์ม/2548 : 183.35 ล้านบาท
6. ATM เออรัก เออเร่อ : GTH/2555 : 152.5 ล้านบาท
7. บางระจัน : Film Bangkok/2544 : 151 ล้านบาท
8. นางนาก : ไทฯ/2542 : 149.60 ล้านบาท
9. รถไฟฟ้า..มาหานะเธอ : GTH/2552 : 145.82 ล้านบาท
10. หลวงพี่เท่ง : พระนครฟิลม์/2548 : 141.86 ล้านบาท