'ปู'ชี้ม.68ไม่ลิดรอนสิทธิ์ปชช.
'นายกฯ'วอนฝ่ายค้านร่วมมือพิจารณาแก้'รธน.'เพื่อให้ประเทศเดินหน้า ชี้ม.68 ไม่ลิดรอนสิทธิ์ปชช. รอฟังปปช.ชี้มูลเงินกู้ 30 ล้าน ย้ำไม่ก้าวล่วง
เมื่อเวลา 09.30น. ที่รัฐสภา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ ถึงความวุ่นวายในการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งอาจจะเป็นอุปสรรคต่อการพิจารณาในช่วงเวลาที่เหลือ ว่า ต้องขอความร่วมมือจากฝ่ายค้าน เพราะเชื่อว่าฝ่ายนิติบัญญัติก็ไม่มีทางออกทางอื่นสำหรับให้ประเทศเดินหน้า เพราะความจริงเดิมทีการร่าง สสร.ก็ไม่สามารถดำเนินการได้ยังค้างการพิจารณาในวาระ 3 ทางฝ่ายนิติบัญญัติก็ได้ยื่นการแก้ไขในรายมาตรา ซึ่งก็เป็นแนวทางที่ศาลรัฐธรรมนูญให้คำแนะนำมาอยู่แล้ว
“ก็ไม่มีทางอื่น ถ้าเป็นไปได้ก็อยากเห็นความร่วมมือที่จะไปถกเถียงในเวทีสภา ซึ่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) และสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ก็ได้มีการถกแถลงก็น่าจะใช้เวทีของสภาเป็นเวทีในการหาทางออก เพราะไม่เช่นนั้นเราก็ไม่รู้จะเดินไปทางไหน” นายกรัฐมนตรี กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตการทำหน้าที่ของนายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา และอาจนำเรื่องยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ จะส่งผลให้กระบวนการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญชะงักหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็ต้องเป็นขั้นตอนและกระบวนการตามข้อกฎหมาย ในส่วนไหนที่ดำเนินการไปได้ก็ขอให้ดำเนินการไป ที่สำคัญประชาชนจะได้รับฟังข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะ สิ่งไหนที่เป็นประโยชน์ รัฐบาลก็มองว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้เป็นประโยชน์กับประเทศโดยรวม ซึ่งหลายข้อมีข้อจำกัดจริง ๆ ทาง สส.และสว จะได้ใช้เวลาตลอด 3 วันเต็มในการพิจารณาอย่างรอบคอบ
เมื่อถามว่า รัฐบาลมองทางออกจะแก้ปัญหาอย่างไร หากฝ่ายค้านไม่ยอมรับการทำหน้าที่ของนายนิคม น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ก็เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการประสานงาน (วิป) ที่จะต้องหารือกัน รัฐบาลเองมีหน้าที่ในการบริหารราชการของประเทศก็ต้องการให้บรรยากาศเป็นไปอย่างสงบเรียบร้อย เพราะในข้อเท็จจริงแล้วประชาชนก็คงอยากเห็นบรรยากาศที่มีความเรียบร้อย และขณะนี้ก็ใกล้จะถึงเทศกาลสงกรานต์แล้วประชาชนก็จะได้มีความสุข
ต่อข้อถามถึงข้อห่วงใยมาตรา 68 ที่มีการแก้ไขนั้นเป็นการลิดรอนสิทธิ์ประชาชน นายกรัฐมนตรี กล่าวย้อนถามว่า “ลิดรอนประเด็นไหนหรือคะ” เมื่อผู้สื่อข่าวระบุว่า การแก้ไขโดยให้อัยการสูงสุดพิจารณาฝ่ายเดียวโดยไม่ต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาด้วย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ ไม่ทราบว่าสิทธิประชาชนตรงไหน ประชาชนยังมีสิทธิอย่างเสมอภาค ดิฉันยังไม่เคลียร์ในประเด็นที่มีบางส่วนไม่เห็นด้วย เพราะเชื่อว่ารัฐธรรมนูญทุกฉบับและเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญนั้นต้องการให้สิทธิกับประชาชนอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริงก็ต้องให้ประชาชนสามารถที่จะยื่นเรื่องราวต่างๆ และกระบวนการพิจารณาก็ควรจะเป็นกระบวนการที่เป็นไปตามหลักนิติธรรม
รอฟังปปช.ชี้มูลเงินกู้ 30 ล้าน ย้ำไม่ก้าวล่วง
น.ส.ยิ่งลักษณ์ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) เตรียมชี้มูลกรณีปล่อยเงินกู้ 30 ล้านบาท ให้บริษัท แอ็ด อินเด็กซ์ จำกัด ของนายอนุสรณ์ อมรฉัตร สามี ว่า ก็คงต้องรอฟังเพราะไม่อาจจะไปก้าวล่วงในเรื่องดังกล่าวได้ อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวตนก็ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงไปแล้วก็หวังว่าจะได้รับการพิจารณาอย่างเต็มที่ตามข้อเท็จจริงและเป็นไปอย่างยุติธรรม
สั่งสธ.ติดตามสถานการณ์หวัดนกตัวใหม่
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้สัมภาษณ์ถึงการรับมือไวรัส “ไข้หวัดนกชนิดเอช 7 เอ็น 9” (H7N9) หลังพบชาวจีนป่วยติดเชื้อไข้หวัดนกชนิดเอช 7 เอ็น 9 จำนวน 3 ราย เสียชีวิต 2 ราย ว่า วันนี้ทางกระทรวงสาธารณสุขติดตามอยู่อย่างใกล้ชิด ซึ่งจะมีมาตรการออกมาให้ทราบ ส่วนการเลี้ยงไก่และสัตว์ต่างๆในลักษณะของฟาร์มระบบปิดนั้นก็น่าจะทำให้เกิดความปลอดภัย แต่อย่างไรก็ตามก็ไม่ใช่ว่าการเลี้ยงระบบปิดแล้วทุกอย่างจะปลอดภัยทั้งหมด จะต้องดูเรื่องของสภาพแวดล้อมโดยรวม สภาพลมและอากาศด้วย ต้องดูว่าเชื้อโรคในบริเวณนั้นเกิดขึ้นอีกหรือเปล่า ที่สำคัญต้องตรวจและดำเนินการตามสุขอนามัยให้ถูกต้อง เมื่อทุกอย่างปลอดภัยแล้วการเลี้ยงแบบฟาร์มปิดก็จะเป็นการปลอดภัย
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการออกมาตรการเข้มออกมาดูแลเพื่อป้องกันไว้ก่อนหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในอดีตประเทศไทยก็มีประสบการณ์มาแล้วก็คงต้องนำประสบการณ์ที่ผ่านมามาใช้และกระทรวงสาธารณสุขก็จะมีการติดตามอย่างใกล้ชิดและดูในเรื่องของมาตรการอีกครั้งหนึ่ง

