อดีตนายกฯ แนะงัด MOU 2543 สู้กัมพูชา-ชี้อ้างศาลโลกรับแผนที่แล้วไม่จริง
“อภิสิทธิ์” อดีตนายกฯ แนะตัวแทนไทย งัด MOU 2543 หักล้างเขมรอ้างศาลโลกรับแผนที่ 1 ต่อ 2 แสนเป็นเส้นเขตแดนแล้ว ชี้เปิดเบื้องหลังเหตุปะทะกัมพูชาเริ่มก่อน

เมื่อวันที่ 16 เม.ย.2556 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวผ่านรายการ “ฟ้าวันใหม่” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์บูลสกายแชนแนล ถึงถ้อยแถลงของกัมพูชาในการให้การด้วยวาจาต่อศาลโลก กรณีขอให้ตีความคำพิพากษาเรื่องเขาพระวิหาร เมื่อวันที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมา ว่า สิ่งที่กัมพูชาพยายามนำเสนอ สอดคล้องกับท่าทีที่เขาแสดงมาตลอด 1.อ้างว่าการไปศาลโลกครั้งนี้ เพราะไทยเป็นฝ่ายรุกรานก่อน และ 2.เรื่องเขตแดนจบไปแล้วคือศาลโลกให้ใช้แผนที่อัตราส่วน 1:200,000 แต่อยากให้ได้ความกระจ่างเรื่องแนวทางปฏิบัติ
“ฝ่ายเราก็ต้องลำดับเหตุการณ์ตามความเป็นจริงเพื่อหักล้าง โดยประเด็นแรกที่ต้องหักล้างฝ่ายเขา ก็คือไทยไม่เคยไปรุกรานกัมพูชาก่อน นี่คือสิ่งที่กองทัพยืนยันมาตลอด โดยสามารถหยิบถ้อยแถลงจากรัฐบาลชุดก่อนมายืนยันว่า ฝ่ายกัมพูชาเริ่มยิงอาวุธเข้ามาก่อน ฝ่ายไทยแค่เพียงป้องกันตัวเองยิงตอบโต้กลับไป ที่สำคัญต้องชี้ให้เห็นว่าคำพิพากษาของศาลโลกปี 2505 ไม่ได้เป็นปัญหา เพราะปฏิบัติมาได้กว่า 50 ปี โดยเมื่อวานคุณวีรชัย พลาศรัย หัวหน้าตัวแทนฝ่ายไทย ก็ให้สัมภาษณ์ว่าปัญหาเกิดจากกัมพูขาพยายามขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกเพียงฝ่ายเดียว ทำให้ในพื้นที่เกิดความตึงเครียดขึ้นมา” นายอภิสิทธิ์กล่าว
อดีตนายกฯ รายนี้ ยังกล่าวว่า แต่มีอยู่ 1 เรื่องที่กัมพูขาพยายามลักไก่ คืออ้างว่าเรื่องเส้นเขตแดนจบไปแล้วโดยให้ยึดแผนที่อัตราส่วน 1:200,000 ซึ่งไม่จริง เพราะคำวินิจฉัยของศาลโลก เมื่อปี 2505 ไม่รับวินิจฉัยว่าเส้นเขตแดนเป็นไปตามแผนที่อัตราส่วน 1:200,000 2.แผนที่ดังกล่าวไม่ใช่ผลงานของคณะกรรมการปักปันเขตแดน โดยจุดสำคัญที่ตนคิดว่าสามารถหักล้างกัมพูขาได้ คือเอ็มโอยู ปี 2543 ถ้ากัมพูชาอ้างว่าปฏิบัติไม่ได้ เข้าใจไม่ตรงกัน แล้วมาลงนามในเอ็มโอยู ปี 2543 ทำไม
“ที่กัมพูขาบอกว่าเรื่องเส้นเขตแดนจบไปแล้ว ผมคิดว่าเป็นการลักไก่ชัดเจน เพราะไม่มีตรงไหนที่ในคำวินิจฉัยของศาลโลกที่บอกว่า เคยรับพิจารณาแผนที่อัตรา 1:200,000 ว่าเป็นเส้นเขตแดน” นายอภิสิทธิ์กล่าว
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวแนะนำตัวแทนฝ่ายไทยที่จะให้การด้วยวาจาต่อศาลโลก ในวันที่ 17 เม.ย.นี้ ว่า คนอยากให้พูดข้อเท็จจริง ถึงสาเหตุการปะทะ แล้ววัตถุประสงค์แท้จริงของกัมพูชาคืออะไร โดยเฉพาะเรื่องการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก นอกจากนี้ ควรยืนยันหลักการของเอ็มโอยู ปี 2543 ว่ามีไว้เพื่ออะไร และนำหลักฐานทางประวัติศาสตร์มาหักล้างว่า คำวินิจฉัยของศาลโลก เมื่อปี 2505 ไม่ได้เป็นอย่างที่ฝ่ายกัมพูขาพูด โดยเฉพาะเรื่องแผนที่อัตราส่วน 1:200,000
ส่วนที่ฝ่ายกัมพูชาอ้างว่า มีข้อมูลใหม่เรื่อง เจ้านโรดม สีหนุ อดีตกษัตริย์กัมพูขา เคยยื่นหนังสือประท้วงไปยังองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เมื่อปี 2509 กรณีไทยนำรั้วมากั้นไว้บนเขาพระวิหาร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า แม้จะมีการทักท้วงจริง แต่มาตกลงบริหารจัดการพื้นที่ร่วมกัน โดยเฉพาะในเอ็มโอยู ปี 2543 ก็ไม่มีอะไรที่เป็นตัวบ่งชี้ได้ว่าจะสามารถอ้างแผนที่อัตราส่วน 1:200,000 ได้
