“วีรชัย” ย้ำเขมรดัดแปลงแผนที่ ชี้ผลตัดสินศาลโลกออกได้ 4 ทาง
“วีรชัย” นำทีมทนายต่างชาติแถลงขอบคุณ ย้ำเขมรดัดแปลงแผนที่ ชี้ผลตัดสินศาลโลกออกได้ 4 ทาง
(วีรชัย พลาศรัย (ที่ 5 จากซ้าย) และทีมทนายต่างชาติ - ขอขอบคุณภาพจากเว็บไซต์หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์)
เมื่อวันที่ 22 เม.ย.2556 เว็บไซต์หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ รายงานว่า นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ในฐานะผู้แทนคณะดำเนินการต่อสู้คดีกัมพูชายื่นร้องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ไอซีเจ)ให้ตีความคำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหารเมื่อปี 2505 พร้อมคณะที่ปรึกษากฎหมายระหว่างประเทศ ประกอบด้วย ศ.อแลง แปลเล่ต์ ทนายชาวฝรั่งเศส ศ.เจมส์ ครอว์ฟอร์ด ทนายชาวออสเตรเลีย ศ.โดนัลด์ เอ็ม แม็คเรย์ ทนายชาวแคนาดา-นิวซีแลนด์ น.ส.อลินา มิรอง ทนายชาวโรมาเนีย และนายโธมัส แกรนต์ ทนายชาวสหรัฐอเมริกา ร่วมกันแถลงสรุปการให้การทางวาจาคดีดังกล่าว
นายวีรชัย กล่าวว่า ขอขอบคุณนายกรัฐมนตรี รัฐบาล รมว.ต่างประเทศ และผู้บังคับบัญชาทุกท่าน หน่วยงานต่างๆ ที่สนับสนุนการทำงานของคณะต่อสู้คดี รวมถึงความคิดเห็นจากประชาชนและสื่อมวลชน ที่ให้กำลังใจและช่วยเหลือในการทำงานมาทั้งหมด โดยเฉพาะกำลังใจเป็นสิ่งที่ทำให้รับรู้ได้ว่าคนไทยเป็นหนึ่งเดียว
ทั้งนี้ มีบางแง่มุมที่ยังไม่ได้พูด คือกรณีของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ที่เห็นว่ายังไม่ยุติธรรมต่อท่าน โดยเฉพาะประเด็นที่เคยเสด็จฯไปยังปราสาทพระวิหารถูกนำมาเปรียบเทียบกับพระ บาทสมเด็จพระนโรดมสีหนุ อดีตกษัตริย์กัมพูชา ทั้งที่สมเด็จกรมพระยาดำรงฯ เสด็จไปที่ปราสาทพระวิหาร เพราะในขณะนั้นพระองค์ไม่ได้มีตำแหน่งใดแล้ว เป็นเพียงในฐานะนักประวัติศาสตร์ ทั้ง 2 กรณีนี้จึงไม่ควรถูกนำมาเปรียบเทียบกัน
สำหรับการทำงานของคณะต่อสู้คดีนั้น ไม่ใช่ผลงานของตนเพียงคนเดียว แต่ทนายความแต่ละคนจะเขียนร่างถ้อยแถลงของตัวเองแล้วนำมารวบรวมและปรับแต่ง ให้เป็นฉบับเดียว แล้วจึงให้ฝ่ายกฎหมายและกองทัพอ่าน
“ส่วนการตัดสินของศาลโลกนั้น คงมี 4 แนวทาง คือ 1.ไม่รับคำร้อง 2.ตัดสินเข้าข้างไทย 3.ตัดสินเข้าข้างกัมพูชา และ 4.ศาลตัดสินกลางๆ อย่างไรก็ดี ยังไม่ขอคาดคะเนผลการตัดสินของศาลในขณะนี้” นายวีรชัยกล่าว
เมื่อถามว่า ในการเตรียมถ้อยแถลงมีวิธีการหาหลักฐานต่อสู้คดีอย่างไร นายวีรชัย กล่าวว่า ได้มีการนำแผนที่จากเอกสารประมวลคดีเก่าที่อยู่ในศาลโลก 6 ฉบับมาพิจารณา รวมถึงจดหมายเหตุที่อยู่ในกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ แล้วนำมาเปรียบเทียบกันว่าตรงหรือต่างกันหรือไม่ รวมถึงยังค้นหาข้อมูลใหม่ๆมาเพิ่มเติม
ทั้งนี้ เหตุผลที่ว่าทำไมเอกสารบางอย่างที่ศาล แต่เราไม่มี ก็เป็นเพราะในการต่อสู้คดีเมื่อปี 2505 เราได้ยื่นต่อศาลและศาลได้เก็บไปเลย แต่ตอนนี้ได้ถูกนำมาเผยแพร่ต่อสาธารณชนแล้ว เช่น เอกสารแผนที่ เอส 3 และเอส 4
เมื่อถามถึงความพร้อมในการเตรียมรายละเอียดแจ้งพิกัดพื้นที่รอบปราสาทพระวิหารเพื่อส่งให้กับผู้พิพากษาของศาลโลก นายวีรชัย กล่าวว่า ได้เตรียมข้อมูลไว้แล้ว และพร้อมที่จะยื่นได้ทันตามกำหนดในวันที่ 26 เม.ย.นี้ โดย รมว.ต่างประเทศได้แจ้งต่อนายกฯ รับทราบแล้ว แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด
ส่วนที่จุดให้สงสัยว่ากัมพูชาปลอมแปลงแผนที่นั้น นายวีรชัย กล่าวว่า ไม่ต้องดูจากที่ไหนเลย เพราะเมื่อเปิดดูคำขอของกัมพูชาแล้ว ก็เห็นได้ชัดเจนเลยว่ามีการนำแผนที่ของไทยในคดีเก่ามาตกแต่งเพิ่มเติม และในคดีเดิม กัมพูชาได้ยื่นแผนที่ประกอบไปไม่ถึง 20 ฉบับ แต่ในการยื่นเอกสารข้อสังเกตของแต่ละฝ่าย ก็พบว่ากัมพูชาได้มีการดัดแปลงแผนที่ ซึ่งเนื้อหาก็ไม่ได้ถูกซ่อนอะไร ถ้าใครดูก็ต้องเห็น
ผู้สื่อข่าวถามว่า ระหว่างการรอคำตัดสินของศาล คณะทำงานกฎหมายจะดำเนินการอะไรต่อไป นายวีรชัย กล่าวว่า ต้องเตรียมการให้คนไทยมีความพร้อมที่สุดในการทำความเข้าใจทันทีในผลคำตัดสิน ของศาลโลก โดยมีการให้ข้อมูลและอธิบายสิ่งที่คณะต่อสู้คดีทำไปทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเอกสารหรือคำให้การทางวาจา
เมื่อถามว่าหลังการแถลงต่อศาลแล้ว ฝ่ายไทยได้พูดคุยกับทางกัมพูชาบ้างหรือไม่ นายวีรชัย กล่าวว่า ยังไม่มีการติดต่อกับทางกัมพูชาการ แต่ถ้ามีความจำเป็น ก็สามารถติดต่อกันได้ โดยต้องขออนุญาตจากผู้บังคับบัญชาก่อน ทั้งนี้ตนยืนยันว่าทั้ง 2 ฝ่ายไม่ได้โกธรกัน
ผู้สื่อข่าวถาม ศ.อแลง แปลเล่ต์ ว่าจะให้คะแนนความยากของคดีนี้เท่าใด โดย ศ.อแลง กล่าวว่า ไม่อยากให้คะแนนความยากหรือความง่าย แต่อยากให้คะแนนกับความน่าสนใจของคดีนี้ และตนมองว่าคดีนี้เป็นเรื่องที่มีความท้าทายมากกว่า
เมื่อถาม ศ.เจมส์ ครอว์ฟอร์ด ว่าถ้ามองในฐานะที่ไม่ใช่ทนายความ จะมองถึงแนวโน้มของคดีนี้อย่างไร ซึ่งตอบว่าไม่สามารถคาดคะเนได้ว่าศาลจะตัดสินคดีอย่างไร “แต่เมื่อเราอยู่ในทะเล ก็เหมือนอยู่ในอุ้งมือของพระเจ้า”
ทั้งนี้ เห็นว่าการชี้แจงของฝ่ายไทยทำได้ดีมาก มีการชี้แจงประวัติศาสตร์และแผนที่อย่างละเอียด แม้คนไม่เคยรู้ความเป็นมาประวัติศาสตร์ชาติไทยมาก่อน
"เชื่อว่าเหตุการณ์นี่ทำให้คนไทยหวนคำนึงถึงและซาบซึ้งในประวัติศาสตร์ที่ถูกนำมาต่อสู้ในคดีนี้" ศ.เจมส์ ครอว์ฟอร์ด กล่าว
ขณะที่นายวีรชัย กล่าวเสริมว่า คนไทยควรภูมิใจที่เราไม่เคยตกเป็นเมืองขึ้นของใคร
ผู้สื่อข่าวสอบถาม น.ส.อลินา มิรอง ถึงการมาทำงานร่วมกับคณะของไทย โดยกล่าวว่า ทราบถึงการเข้าสู่คณะต่อสู้คดีนี้เมื่อปี 2554 และทราบว่าจะถูกวางตัวให้การต่อศาล เมื่อเดือน ก.ย.2555 ทั้งนี้ รู้สึกตื่นเต้นและเป็นเกียรติที่ได้มีโอกาสร่วมงานนี้ รวมถึงได้ค้นพบรายละเอียดต่างๆเกี่ยวกับแผนที่ที่จะถูกนำมาต่อสู้คดี ซึ่งก็รู้สึกตื่นเต้นกับเรื่องนี้
ขณะที่ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า รัฐบาลพร้อมสนับสนุนคณะต่อสู้คดีอย่างเต็มที่มาตลอด 3 ปี โดยเห็นว่าการต่อสู้คดีครั้งนี้เป็นประวัติศาสตร์ของคนไทย ที่แสดงความสามัคคีและความมีน้ำหนึ่งใจเดียวกัน