สั่งแบน หนัง “ฟ้าต่ำแผ่นดินสูง”-เนื้อหากระทบความสามัคคีคนในชาติ-เพื่อนบ้าน

เว็บไซต์เดลินิวส์ออนไลน์ รายงานว่า ในวันนี้้ 24 เมษายน 2556 นางปริศนา พงษ์ทัดศิริกุล ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดีทัศน์ กล่าวถึงการที่คณะอนุกรรมการฯ พิจารณาไม่อนุญาตให้ภาพยนตร์เรื่อง “ฟ้าต่ำแผ่นดินสูง” ฉายเผยแพร่ในราชอาณาจักรไทยว่า ภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวทางคณะอนุกรรมการฯได้มีมติเป็นเอกฉันท์ว่า เนื้อหาขัดกับกฎกระทรวงที่กำหนดลักษณะของประเภทภาพยนตร์ พ.ศ. 2552 ในข้อ 7 ที่กำหนดไว้ว่า ภาพยนตร์ที่ห้ามฉายในราชอาณาจักรมีลักษณะ 6 ประการ ดังต่อไปนี้ (1) เนื้อหาที่กระทบกระเทือนต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ หรือการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (2) สาระสำคัญของเรื่องเป็นการเหยียดหยามหรือนำความเสื่อมเสียมาสู่ศาสนาหรือไม่เคารพต่อปูชนียบุคคล ปูชนียสถาน หรือปูชนียวัตถุ (3) เนื้อหาที่ก่อให้เกิดการแตกความสามัคคีระหว่างคนในชาติ (4) เนื้อหาที่กระทบกระเทือนต่อสัมพันธไมตรีระหว่างประเทศ (5) สาระสำคัญของเรื่องเกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์ และ (6) เนื้อหาที่แสดงการมีเพศสัมพันธ์ที่เห็นอวัยวะเพศ ซึ่งภาพยนตร์เรื่อง ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ มีเนื้อหาเข้าข่ายในข้อที่ (3) และ (4) จึงไม่สามารถอนุญาตให้ฉายภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวได้ และได้แจ้งมติให้แก่ผู้สร้างรับทราบแล้ว
“ปกติแล้วทางคณะอนุกรรมการฯ ไม่มีสิทธิ์ไปตัดทอนเนื้อหาภาพยนตร์เรื่องใดได้ นอกจากทางผู้สร้างต้องการจะได้รับการพิจารณาให้ฉายในเรตไหน อาทิ ภาพยนตร์บางเรื่องมีภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาเรต 20+ แต่ทางผู้สร้างต้องการที่จะฉายในเรต น 18+ ผู้สร้างจะกลับไปปรับเนื้อหาให้เข้ากับกฎกระทรวง ซึ่งกรณีดังกล่าวหากทางผู้สร้างต้องการให้คณะอนุกรรมการฯอนุญาตให้ฉายก็ต้องกลับไปพิจารณาเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมและปรับเอง จากนั้นจึงเสนอมาให้พิจารณาอีกครั้ง ซึ่งยืนยันว่าทางคณะอนุกรรมการฯพร้อมเปิดโอกาสให้ผู้สร้างยื่นอุทธรณ์คำพิจารณาได้” ปลัดวธ. กล่าว
แหล่งข่าวจากคณะอนุกรรมการฯ กล่าวว่า เนื้อหาของภาพยนตร์เรื่อง ฟ้าต่ำแผ่นดินสูง ในส่วนที่คณะอนุกรรมการฯเห็นว่าไม่สมควรอนุญาตให้ฉายมีความยาวประมาณ 2 นาที โดยมีเนื้อหาไม่เหมาะสมเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ และยังมีเนื้อหาบางส่วนที่พาดพิงเกี่ยวกับกรณีพิพาทปราสาทพระวิหารระหว่างไทยกับกัมพูชาด้วย ทั้งนี้ทางผู้สร้างได้ยื่นขออนุญาตฉายเป็นภาพยนตร์ประเภทหนังแผ่นขายทั่วไป ไม่ได้ฉายในโรงภาพยนตร์
ขณะที่ นายนนทวัฒน์ นำเบญจพล ผู้กำกับภาพยนตร์ดังกล่าวชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กเพจ“Boundary: ฟ้าต่ำแผ่นดินสูง” วานว่า ข้อมูลที่เขานำเสนอนั้น ได้มาจากการลงพื้นที่จริง และต้องการให้ภาพยนตร์ดังกล่าวเป็นพื้นที่นำเสนอของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจริงๆ โดยจะขออุทธรณ์การพิจารณาของคณะอนุกรรมการต่อไป
“ข้อมูลทั้งหมดที่ผมได้จากการลงไปยังพื้นที่จริงจากมุมมองของประชาชนในพื้นที่จริงที่อาศัยอยู่บริเวณชายแดน ไทย - กัมพูชา ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากข้อพิพาทกรณีเขาพระวิหาร ส่วนหนึ่งทางผู้สร้างต้องการให้ภาพยนตร์เรื่อง ฟ้าต่ำแผ่นดินสูง เป็นพื้นที่การแสดงออกให้ประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจริงๆ ได้แสดงมุมมอง ทัศนคติ และความคิดเห็นที่พวกเค้าไม่มีโอกาสได้สื่อและได้พูดออกมาสู่สาธารณชนได้รับรู้ ประชาชนควรมีสิทธิได้พูดในสิ่งที่คิด และภาพยนตร์ฟ้าต่ำแผ่นดินสูงเป็นการนำสารของประชาชนทุกฝ่ายมาสู่สาธารณชน และอยากให้ฟังความคิดเห็นที่ต่างกันและอยู่ร่วมกันได้ในสังคม และยังคงเชื่อว่าประชาชนไทยมีวิจารณญาณในการทำความเข้าใจในชุดข้อมูลนี้ด้วยตัวของพวกเขาเอง”
“ถึงแม้ว่าภาพยนตร์จะไม่ได้รับอนุญาตให้เผยแพร่ ผมจะยื่นอุทธรณ์ในขั้นต่อไป และแม้ในท้ายที่สุด ภาพยนตร์จะไม่ได้รับอนุญาต ผมก็จะถ่ายทอดสิ่งที่ผมได้พบเห็น ได้พูดคุย ได้เข้าใจ จากการลงพื้นที่จริงบริเวณชายแดนทั้งฝั่งไทยและฝั่งกัมพูชา ผ่านการพูดและการเขียนของผมต่อไป”
