ดูกันจะๆ ข้อพิรุธ ประกวดราคาจัดซื้อแอร์ 1.1 พันล้าน ก.พลังงาน แบ่งซอยงาน-ตั้งราคาซื้อเกิน-ส่อฮั้ว

กรณี กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน แจ้งยกเลิกประกาศประกวดราคาด้วยวิธีการอิเล็กทรอนิกส์โครงการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานในอาคารภาครัฐ (ค่าสนับสนุนการปรับปรุงอุปกรณ์ประสิทธิภาพสูง) จัดซื้อเครื่องปรับอากาศและติดตั้งในอาคารภาครัฐ ตามประกาศประกวดราคา เลขที่ E60/2556,E61/2556,E62/2556 รวมจำนวน 32,539 เครื่อง วงเงินการจัดซื้อกว่า 1,198,353,800 บาท
โดยระบุเหตุผลว่า ได้รับแจ้งจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เกี่ยวกับปัญหาการกำหนดคุณลักษณะทั่วไปตามขอบเขตของงาน (TOR) ที่อาจเป็นการกีดกันผู้เสนอราคา นั้น
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า ก่อนหน้าที่ กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน จะออกประกาศแจ้งยกเลิกประกาศประกวดราคาด้วยวิธีการอิเล็กทรอนิกส์โครงการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานในอาคารภาครัฐ ทั้ง 3 ฉบับดังกล่าว ในวันที่ 29 เมษายน 2556
สตง. ได้มีหนังสือ “ลับ” ที่ ตผ 0017/335 ลงวันที่ 26 เมษายน 2556 ถึง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมสำเนาเรียน อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบการจัดประกวดราคาจัดซื้อเครื่องปรับอากาศ เพื่อแจ้งข้อมูลการตรวจสอบพบความผิดปกติ ในการจัดทำประกาศประกวดราคาทั้ง 3 ฉบับ
โดย สตง.ระบุว่า จากการตรวจสอบข้อมูลตามประกาศประกวดราคาทั้ง 3 ฉบับ พบข้อสังเกต ดังนี้
1. การออกประกาศจัดซื้อเครื่องปรับอากาศ ทั้ง 3 ฉบับมีรายละเอียดเหมือนกัน และดำเนินการในช่วงเวลาเดียวกัน อาจเข้าข่ายลักษณะเป็นการแบ่งซื้อออกเป็นส่วนๆ โดยไม่มีเหตุผลความจำเป็น เนื่องจากเป็นการจัดซื้อพัสดุที่เหมือนและดำเนินการภายใต้โครงการเดียวกัน

2. ตามรายละเอียดขอบเขตงาน (ทีโออาร์) ในส่วนข้อ 5.2 คุณลักษณะทั่วไป ข้อ 5.2.3 ระบุว่า “เครื่องปรับอากาศชนิดแยกส่วนเป็นเครื่องที่ประกอบสำเร็จเรียบร้อย จากโรงงานในประเทศที่มีมาตรฐานสูง และมีความชำนาญในการผลิต เครื่องปรับอากาศเครื่องหมายการค้านั้น มาไม่น้อยกว่า 5 ปี และโรงงานผลิตต้องได้รับมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมระบบบริหารคุณภาพ ISO 9001:2008,มาตรฐานระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม ISO 14000:2004 และการบริหารจัดการแรงงานที่เป็นสากล มรท.8001-2553”
โดยเฉพาะในส่วนที่ระบุว่า “การบริหารจัดการแรงงานที่เป็นสากล มรท.8001-2553” นั้น เมื่อพิจารณาตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2549 ข้อ 5 ประกอบกับระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุพ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ในส่วนการใช้พัสดุที่ผลิตในประเทศ และกิจการของคนไทย ข้อ 16 ในส่วนการกำหนดรายละเอียดหรือคุณลักษณะเฉพาะนั้นกล่าวถึงไว้เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเท่านั้น และในส่วนของโรงงานผู้ผลิตหรือผู้ประกอบการนั้น กล่าวถึงไว้เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการรับรองระบบคุณภาพเท่านั้น นอกจากนี้ เมื่อพิจารณามาตรฐาน มรท.8001-2553
ที่กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานนำมาใช้กำหนดเป็นเงื่อนไขในการพิจารณาคัดเลือกผู้ขายนั้นเป็นมาตรฐานที่กล่าวถึงการกำหนดในเรื่องที่เกี่ยวกับมาตรฐานระบบบริหารจัดการแรงงานที่ดี โดยมุ่งเน้นการยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงาน และเสริมสร้างการพัฒนาธุรกิจที่ยั่งยืน ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับคุณภาพหรือมาตรฐานของพัสดุที่จัดซื้อประกอบกับระเบียบฯ ไม่ได้มีการกำหนดหรือกล่าวถึงในส่วนนี้ไว้ต่างจากมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมและการรับรองระบบคุณภาพที่มีการกล่าวไว้อย่างชัดเจน และเมื่อตรวจสอบโรงงานหรือผู้ประกอบการที่ได้รับการรับรองตาม ตามประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรง เรื่องสถานประกอบกิจการที่ได้รับการรับรองมาตรฐานแรงงานไทย (มรท.8001-2553) ระดับพื้นฐานและระดับสมบูรณ์ นั้นพบว่า มีสถานประกอบกิจการทุกประเภทที่ได้รับการรับรองเป็นจำนวนประมาณ 121 แห่ง และมีการประกอบกิจการที่แตกต่างกันไป มีสถานประกอบกิจการที่เกี่ยวข้องกับการขายเครื่องปรับอากาศเพียงน้อยรายที่ได้รับมาตรฐานดังกล่าว
ดังนั้น เมื่อพิจารณาจากรายละเอียดข้างต้นการกำหนดให้โรงงานผู้ผลิตต้องได้รับการรับรองมาตรฐานแรงงานไทย ตาม มรท.8001-2553 นั้น
จึงเข้าข่ายลักษณะเป็นการขัดขวางการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรมเป็นการปฏิบัติไม่ถูกต้องที่ตามระเบียบ สำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2549 ข้อ 5 ประกอบกับระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และอาจเข้าข่ายลักษณะความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 4 ที่ระบุว่า “ผู้ใดตกลงร่วมกันในการเสนอราคา เพื่อวัตถุประสงค์ที่จะให้ประโยชน์แก่ผู้ใดผู้หนึ่ง เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ โดยหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม หรือโดยการกีดกันมิให้มีการเสนอสินค้าหรืบริการอื่นต่อหน่วยงานของรัฐ หรือโดยการเอาเปรียบแก่หน่วยงานของรัฐอันมิใช่ เป็นไปในทางประกอบธุรกิจปกติ ...”
3.ราคาสูงสุดของการประกวดราคาซื้อด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ที่กำหนดไว้เป็นราคาที่ใช้ในการเริ่มต้นการประมูลในแต่ละประกาศนั้นมีวงเงินสูงกว่าราคามาตรฐานครุภัณฑ์ ที่จัดทำโดยสำนักมาตรฐานงบประมาณ สำนักงบประมาณ ที่จัดทำขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 เพื่อใช้เป็นแนวทางในการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี เพื่อให้เจ้าหน้าที่สำนักงบประมาณ ส่วนราชการรัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐ มีแนวทางปฏิบัติงานให้เป็นมาตรฐานเดียว โดยหากมีการเปลี่ยนในด้านราคา สำนักมาตรฐานงบประมาณจะแจ้งให้ทราบต่อไป ซึ่งยังไม่การแจ้งการแก้ไขเปลี่ยนแปลงราคามาตรฐานครุภัณฑ์แต่อย่างใด
ดังนั้น การราคาสูงสุดของการประกวดราคาซื้อด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ที่กำหนดไว้ในแต่ละประกาศนั้น จึงมีวงเงินสูงกว่าราคามาตรฐานครุภัณฑ์ และสรุปได้ดังนี้
3.1 ประกาศประกวดราคาด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ เลขที่ E 60/2556 ลงวันที่ 29 มีนาคม 2556 จัดซื้อจำนวน 11,315 เครื่องคำนวณตามราคามาตรฐานครุภัณฑ์ที่กำหนดไว้ได้เป็นจำนวนเงินเท่ากับ 387,062,800 บาท แต่ราคาสูงสุดของการประกวดราคาซื้อด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ที่กำหนดไว้เท่ากับ 400,640,800 บาท สูงกว่าคิดเป็นจำนวนเงินเท่ากับ 13,578,000 บาท
3.2 ประกาศประกวดราคาด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ เลขที่ E 61/2556 ลงวันที่ 29 มีนาคม 2556 จัดซื้อจำนวน 11,097 เครื่อง คำนวณตามราคามาตรฐานครุภัณฑ์ที่กำหนดไว้ได้เป็นจำนวนเงินเท่ากับ 384,007,800 บาท แต่ราคาสูงสุดของการประกวดราคาซื้อด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ที่กำหนดไว้เทากับ 397,324,200 บาท สูงกว่าคิดเป็นจำนวนเงินเท่ากับ 13,316,400 บาท
3.3. ประกาศประกวดราคาด้วยวิธีการอิเล็กทรอนิกส์ เลขที่ E 62/2556 ลงวันที่ 29 มีนาคม 2556 จัดซื้อจำนวน 10,127 เครื่อง คำนวณตามราคามาตรฐานครุภัณฑ์ที่กำหนดไว้ได้ เป็นจำนวนเงินเท่ากับ 388,236,400 บาท แต่ราคาสูงสุดของการประกวดราคาซื้อด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ที่กำหนดไว้เท่ากับ 400,388,800 บาท สูงกว่าคิดเป็นจำนวนเงินเท่ากับ 12,152,400 บาท

สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน พิจารณาแล้วเห็นว่า หากข้อมูลที่ได้รับดังกล่าวข้างต้นเป็นความจริงแล้วอาจทำให้กระทรวงพลังงาน และกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานได้รับความเสียหายได้ จึงขอให้ท่านในฐานะเป็นผู้กำกับ ดูแลการปฏิบัติงานของกรมฯ ได้พิจารณาดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุดังกล่าว ให้เป็นไปโดยถูกต้อง ตามระเบียบข้อบังคับและกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อป้องกันความเสียหายและเป็นการรักษาผลประโยชน์ของราชการต่อไป
