เปิดหลักฐาน"มัด” หจก. "ร้าง" คว้างานขุดลอกคลอง รัฐบาล"ยิ่งลักษณ์"
เปิดหลักฐาน “มัด” หจก. "ร้าง" คว้างานขุดลอกคูคลอง 32 ล. จังหวัดนนทบุรี ตามแผนแก้ปัญหาน้ำท่วม รัฐบาล “ยิ่งลักษณ์” -สตง. ยันถูกนายทะเบียนขีดชื่อออกตั้งแต่ ต้นปี 54 แต่เข้าทำสัญญาว่าจ้าง ต้นปี 55 เตรียมสาวลึกเจ้าหน้าที่รัฐเอี่ยว?-สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย รับผิดชอบ ดำเนินงานผ่านอำเภอ
กรณีปรากฏข้อมูลว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) ศรีพันธุ์ (2001) ได้รับว่าจ้างงานขุดลอกคูคลอง ตามแผนเยียวยา ฟื้นฟู และป้องกันความเสียหายจากอุทกภัยอย่างบูรณาการ โครงการสำคัญเร่งด่วน (Flagship) พื้นที่แก้ไขปัญหาอุทกภัย ของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ดำเนินงานในจังหวัดนนทบุรี จำนวน 8 สัญญา รวมวงเงิน 32,841,000 บาท ซึ่งมีการลงนามในสัญญาว่าจ้างช่วงเดือนมีนาคม –เมษายน 2555 มีสถานะเป็น หจก.ร้าง และถูกนายทะเบียนขีดชื่อออกจากทะเบียน ตั้งแต่เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2554 หรือคิดเป็นระยะเวลาห่างกันเกือบ 1 ปี นั้น
แหล่งข่าวระดับสูงจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ถึงการตรวจสอบเรื่องนี้ ว่า สตง. ตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวแล้ว และอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงด้านเอกสารเพิ่มเติม
เบื้องต้น จากการตรวจสอบข้อมูลการจดทะเบียนจัดตั้ง หจก. ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า หจก.แห่งนี้ มีสถานะร้างจริง แต่ในช่วงเวลาต่อมา หจก. ได้ยื่นเรื่องต่อศาลจังหวัดนนทบุรี เพื่อขอจดชื่อบริษัทคืนเข้าสู่ทะเบียนอีกครั้ง
“ หลังจาก หจก. ศรีพันธุ์ (2001) ถูกนายทะเบียนขีดชื่อออกจากทะเบียน เป็น หจก.ร้าง ในช่วงต้นปี 2554 ต่อมา หจก. ได้ยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อขอจดชื่อบริษัทคืนเข้าสู่ทะเบียนอีกครั้ง ซึ่งศาลจังหวัดนนทบุรี มีคำสั่ง เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2555 และบัดนี้คดีถึงที่สุดแล้ว และมีการออกหนังสือรับรองฉบับนี้ ไว้เป็นสำคัญ เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2555”
แหล่งข่าวกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม แม้ศาลจะมีคำสั่งให้ หจก.จดชื่อคืนเข้าสู่ทะเบียน แต่จากการตรวจสอบข้อมูลเอกสารทำสัญญาว่าจ้าง หจก. ให้เป็นผู้รับจ้างขุดลอกคูคลอง พบว่า ทำขึ้นในช่วงเดือนมีนาคม –เมษายน 2555 ก่อนที่ศาลจะมีคำสั่งออกมา จึงถือได้ว่า สถานะของหจก.แห่งนี้ ในช่วงที่มีการลงนามในสัญญาว่าจ้าง ยังคงมีสถานะร้างอยู่ ชี้ให้เห็นว่ากระบวนการคัดเลือกเอกชนเข้ามารับงาน ในโครงการดังกล่าว ส่อว่าจะมีความไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้น โดยเฉพาะขั้นตอนการตรวจสอบคุณสมบัติเอกชนที่เข้ามารับงาน ซึ่งขณะนี้ เจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่
(ดูหลักฐาน)
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า จากการตรวจสอบข้อมูลการจดทะเบียนจัดตั้ง หจก. ศรีพันธุ์ (2001) ณ วันที่ 4 พฤษภาคม 2556 ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า ยังไม่มีการแจ้งคำสั่งศาลดังกล่าว ให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า รับทราบแต่อย่างใด
สถานะของหจก. ยังคงมีสถานะ ร้าง หลังถูกนายทะเบียนขีดชื่อออก เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2554
(ดูหลักฐาน)
แหล่งข่าวจาก สตง. เปิดเผยกับ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า การดำเนินงานขุดลอกคูคลอง จังหวัดนนทบุรี ตามแผนเยียวยา ฟื้นฟู และป้องกันความเสียหายจากอุทกภัยอย่างบูรณาการ โครงการสำคัญเร่งด่วน (Flagship) พื้นที่แก้ไขปัญหาอุทกภัย ของรัฐบาล เป็นโครงการที่อยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ดำเนินงานผ่านทางอำเภอต่างๆ ถูกตรวจสอบข้อมูลความไม่ชอบมาพากลหลายประการ
เบื้องต้น จากการระดมเจ้าหน้าที่ สตง.ที่มีความชำนาญด้านการตรวจสอบงานวิศวกรรม จำนวน 40 คน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูล โดยการซุ่มตรวจโครงการ จำนวน 33 สัญญา จากจำนวนโครงการทั้งสิ้น 60 กว่าสัญญา พบว่า มีเอกชนเพียงไม่กี่รายที่ได้รับงาน
ขณะที่ราคาจ้างงาน สูงเกินวงเงินงบประมาณที่ตั้งไว้ ภาพรวมโครงการส่อว่าจะไม่ประสบความสำเร็จ เนื้องานที่ออกมาไม่คุ้มค่ากับงบประมาณที่ได้อนุมัติไป อาจส่งผลกระทบต่อการป้องกันปัญหาน้ำท่วมในอนาคต
“ผลจากการเข้าตรวจสอบเนื้องานโครงการต่าง ที่มีการว่าจ้างเอกสารดำเนินงาน พบว่า ความลึกของคลองที่ขุด น้อยกว่าที่สัญญาว่าจ้างระบุไว้ บางพื้นที่ ส่อว่าจะไม่มีการขุดลอกจริงเนื่องจาก ไม่มีหลักฐาน จำนวนดิน ที่ขุดลอกขึ้นมาไว้ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พื้นที่บางส่วนไม่สามารถขุดลอกได้ ก็ถูกนำมาคิดร่วมในเนื้องานเพื่อเบิกจ่ายเงิน เช่น สะพาน คลองซีเมนต์ รวมถึงการเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนบางราย ที่มีผลงานไม่ถึงเกณฑ์ที่ระเบียบกำหนดไว้ เข้ารับงานได้ สตง. คาดว่าจะมีการเปิดเผยผลการตรวจสอบอย่างเป็นทางการได้ในเร็วๆ นี้” แหล่งข่าวจากสตง.ระบุ
--------
อ่านประกอบ :
หจก. "ร้าง"คว้าขุดลอกคลองอื้อ 32 ล.-ฉีกหน้าแผนแก้ท่วม รัฐบาล "ยิ่งลักษณ์"