ศาล ปค.สั่ง "ทางหลวง-คมนาคม" ปลูกต้นไม้ที่ตัดเพื่อขยายถนนบนเขาใหญ่คืน
ศาล ปค.กลางสั่ง "ทางหลวง-ก.คมนาคม" ปลูกต้นไม้ที่ตัดจากการขยาย ถ.ธนะรัชต์บนเขาใหญ่ คืนให้เหมือนสภาพเดิมมากที่สุด 
(ภาพจากเว็บไซต์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ)
วันนี้ (16 พ.ค.2556) ศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ 903/2553 คดีหมายเลขแดงที่ 755/2556 ในคดีที่สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนกับพวก รวม 130 คน ฟ้องกรมทางหลวงกับกระทรวงคมนาคม ในคดีพิพาทเกี่ยวกับการกระทำละเมิดหรือความรับผิดอย่างอื่นของหน่วยงานทาง ปกครองอันเกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมาย จากกรณีผ้ถูกฟ้องคดีทั้ง 2 อนุมัติให้บริษัทเอกชนดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2090 หรือถนนธนะรัชต์ (หรือโครงการขยายถนน) ซึ่้งเป็นประตูสู่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มรกดโลกทางธรรมชาติ จากแยกทางหลวงหมายเลข 2 - ต่อเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ต.หนองน้ำแดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตั้งแต่ กม.2-000.000 ถึง กม.10+100.000 ระยะทาง 8.1 กิโลเมตร ก่อสร้างถนนเป็นมาตรฐานทางพิเศษ 4 ช่องจราจร แบ่งทิศทางการจราจรด้วยเส้นทึบคู่สีเลืองกว้าง 0.10 เมตร ผิวจราจรเป็นแอสฟัสต์คอนกรีด (A.C.) ท่อระยบายน้ำ และไฟฟ้าแสงสว่าง โดยมีจุดเริ่มต้นการก่อสร้างที่จุดต่อเชื่อมทางต่างระดับปากช่องตะวันตกสู่ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ งบประมา่ณ 69,736,342 บาท
ซึ่งการดำเนินโครงการดังกล่าว ได้ทำการตัดฟันโค่นทำลายต้นไม้และพื้นดินตลอดแนวทั้งในและ นอกเขตทาง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพยากรธรรมชาติความหลากหลายทางชีวภาพ และระบบนิเวศน์ริมทาง นอกจากนี้ ยังก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอยา่งรุนแรง เพราะเดินถนนดังกล่าวเป็นถนนลาดยางขนาด 2 ช่องจราจร บางช่วงเป็น 4 ช่องจราจร ลักษณะพื้นที่ตลอดแนวทางทั้งสองด้านส่วนใหญ่ปกคลุมด้วยต้นไม้ทั้งใหญ่และ เล็กอยู่อย่างหนาแน่น ต้นไม้ใหญ่บางต้นเป็นต้นไม้หวงหา้มตามกฎหมายว่าด้วยป่าไม้ หากมีการตัดต้องได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้ก่อน ซึ่งจากการสำรวจขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) พบว่ามีอยู่ถึง 14 ชนิดไม้ บางต้นมีอายุกว่า 100 ปี มีรัศมีวงรอบโคนต้นตั้งแต่ 50 เซนติเมตรถึง 300 เซนติเมตร
จากข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ศาลปกครองมีคำพิพากษาให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้ง 2 ร่วมกับนำต้นไม้ตามชนิดประเภทขนาดเดียวกันหรือใกล้เคียงกันและในจำนวนเท่า กันกับต้นไม้ที่ถูกตัดโค่นไปแล้วตามบัญชีที่ได้สำรวจบันทึกเมื่อวันที่ 24 ธ.ค.2552 ไปปลูกทดแทนตามแนวเขตทางหลวงสาย 2090 ช่วง กม.2+000.000 ถึง กม.10+100.000 โดยให้เริ่มดำเนินการภายใน 60 วัน นับแต่วันที่คำพิพากษาถึงที่สุด เพื่อให้มีสภาพใกล้เคียงของเดิมให้มากที่สุด
