เปิดสเปคอนุภรรยา ‘จอมพลผ้าขาวม้าแดง’ คู่เทียบ ‘ท่านพินิจ’ เเห่งสุภาพบุรุษจุฑาเทพ
เปิดสเปคอนุภรรยา ‘จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์’ เจ้าของฉายาจอมพลผ้าขาวม้าแดง คู่เทียบ ‘ท่านพินิจ’ แห่งคุณชายพุฒิภัทร เน้นลูกครึ่ง สวยขั้นนางงาม ชาติตระกูลดี

‘คุณชายพุฒิภัทร’ แห่งละครชุดสุภาพบุรุษจุฑาเทพ ที่ใกล้จะลาจอช่อง 3 คืนนี้ ถือได้ว่าเป็นตอนที่สามารถกระชากเรตติ้งให้กับสถานีอย่างถล่มทลายมากที่สุด ด้วยความน่ารักของคู่พระนางอย่าง ‘เจมส์ จิรายุ’ และ ‘เบลล่า ราณี’ รวมถึงฉาก เสื้อผ้า หน้าผม ที่ช่างเหมาะสมกับยุคสมัย ที่สำคัญคงต้องยกความดีความชอบให้กับ ‘เก้าแต้ม’ ผู้รังสรรค์บทประพันธ์ที่ตีแผ่วงการขาอ่อนไทยได้อย่างแนบเนียนกับประเด็นที่หลายคนอยากรู้เบื้องหลังของการประกวดนี้ว่ามีอะไรแอบแฝงบ้าง ไม่ว่าจะเป็น ความอิจฉา ความริษยา เส้นสายค่ายนางงาม หรือแม้กระทั่ง ‘เล้านางงามในคราบชนชั้นสูง’ ซึ่งล้วนถูกนำเสนอไว้ในตัวละคร ‘ท่านพินิจ’ อย่างครบถ้วน
หากแต่เรื่องราวความโสมมของวงการขาอ่อนไทยในอดีตที่ถูกตีแผ่ผ่านวรรณกรรมนั้น กลับเป็นเหตุการณ์ที่มีส่วนคล้ายคลึงกับชีวิตจริงของอดีตรองนางสาวไทย ปี 2496 ‘อมรา อัศวนนท์’ ซึ่งเคยถูกจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีสมญานามว่า ‘จอมพลผ้าขาวม้าแดง’ ขอเธอแต่งงานภายหลังรับตำแหน่งอันทรงเกียรติ โดยเสนอจะให้ที่ดินแถวสุขุมวิทและเงินนับสิบล้านบาท แต่เธอไม่ยอมที่จะเป็นอนุภรรยาใคร เพราะทราบดีว่าจอมพลผู้นี้มีภรรยาหลวงและอนุภรรยาอยู่แล้ว กระทั่งจอมพลสฤษดิ์ถึงแก่อสัญกรรม เธอจึงรอดพ้นจากห้วงความปรารถนาดังกล่าว และใช้ชีวิตอยู่กินกับอังกูร บุรานันท์จนถึงปัจจุบัน (อ่านเพิ่มเติม:อิงเสี้ยวชีวิต ‘จอมพลผ้าขาวม้าแดง-อมรา’ กับวิมานสีชมพูแห่งคุณชายพุฒิภัทร ?)
อย่างไรก็ตาม เคยสงสัยหรือไม่ว่าทำไมรองนางสาวไทยอย่างอมรา อัศวนนท์ จึงต้องตาต้องใจจอมพลผ้าขาวม้าแดงมากกว่าเจ้าของตำแหน่งนางสาวไทยตัวจริง
ด้วย ‘อมรา’ ถูกจับตาจากนักหนังสือพิมพ์ให้เป็นตัวเก็งของการประกวดตั้งแต่เริ่มต้น และคาดหวังว่าจะได้ตำแหน่งนางสาวไทย เพราะความสวยโดดเด่นของเด็กสาวลูกครึ่งไทย-ฝรั่งเศส ประกอบกับใบหน้าที่ละม้ายคล้ายคลึงกับอลิซาเบท เทย์เลอร์ จนได้รับฉายาว่า “อลิซาเบท เทย์เลอร์ แห่งตะวันออก” อีกทั้งยังเป็นถึงธิดาของหลวงประเจิดอักษรลักษณ์ที่ช่ำชองภาษาอังกฤษ ยิ่งยังผลให้เธออาจเป็นที่หมายตาของจอมพลมากรักผู้นี้มากขึ้น
บัลลังก์แห่งความงามใกล้เธอมาทุกขณะ เมื่อได้ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายด้วยคะแนนนำในรอบแรกของคืนการประกวดวันที่ 9 พร้อมเสียงเชียร์จากชาวศิษย์เก่ามาแตร์เดอี ซึ่งเป็นสถานศึกษาเดียวกับเธอมาให้กำลังใจอย่างล้นหลาม
แต่แล้วในคืนวันตัดสิน ตัวเก็งอย่าง ‘อมรา’ ก็พลิกโผเมื่อถูกเบียดรัศมีความงามจาก ‘อนงค์ อัชชวัฒนา’ หรือ ‘อนงค์ นาคะเกศ’ ลูกสาวช่างตัดเสื้อในกรุงเทพฯ ที่ไม่ได้สวยโดดเด่นแต่แรกกลับเป็น ‘ม้าตีนปลาย’ ทะยานสู่เจ้าของมงกุฏนางสาวไทยคนที่ 12 ของประเทศทันที เนื่องจาก ‘อมรา’ ที่เคยงามเด่นเป็นสง่ามาทุกรอบการประกวดกลับซูบซีด ไม่กระปรี้กระเปร่า หรืออาจเป็นเพราะทรงผมใหม่ที่ไม่รับกับใบหน้าเธอก็ตาม หากแต่ตรงกันข้ามผิวพรรณหน้าตาของ ‘อนงค์’ กลับสวยสดชื่นผิดหูผิดตาขึ้นทันทีชวนให้เหมาะกับตำแหน่งค่ำคืนวันนั้น
อย่างไรก็ตาม แม้ ‘อมรา’ จะได้เพียงตำแหน่งรองนางสาวไทย แต่เธอก็ถูกหมายปองจากจอมพลผ้าขาวม้าแดงหว่านล้อมทุกวิถีทางเพื่อได้มาซึ่งอนุภรรยาคนนี้ ผิดกับนางสาวไทยตัวจริงอย่าง ‘อนงค์’ ไม่เคยมีข่าวเกี่ยวกับการถูกทาบทามจากจอมพลคนดังกล่าวแต่อย่างใด อาจเพราะเป็นลูกสาวช่างตัดเสื้อ ใบหน้าดูหยาบกร้าน และถ่ายรูปไม่ขึ้น เมื่อเทียบกับ ‘อมรา’ ก็เป็นได้
ทั้งนี้ ‘อนงค์’ ปรากฏเพียงภาพการแต่งงานกับนายแพทย์ไพฑูรย์ นาคะเกศ แพทยศาสตร์บัณฑิตหนุ่มวัย 25 ปี จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อปี 2500 ซึ่งใช้ชีวิตคู่ร่วมกันเรื่อยมาอย่างมีความสุขนั่นเอง
แล้วนางสาวไทยยุคหลังมีเหตุการณ์คล้ายคลึงกันหรือไม่นั้น???
‘บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี’ อดีตนางสาวไทย ปี 2543 ได้กล่าวไว้ในหนังสือ ‘บั้นท้ายนางงาม’ ว่า การส่งส่วยหรือมีอะไรบางอย่างกับกรรมการผู้ชายนั้น ยืนยันว่าเวทีใหญ่ ๆ ไม่มีกรณีดังกล่าวแน่นอน เพราะนางงามต้องอยู่ในสายตาพี่เลี้ยงและกองประกวดฯ ตลอด แต่เวทีเล็ก ๆ ที่ประกวดกันในอำเภอหรือจังหวัดอาจจะเป็นไปได้ เพราะได้ยินข่าวเข้าหูมาเหมือนกัน ซึ่งส่วนใหญ่จะถูกใจกันหลังประกวดเสร็จ
แต่มีข่าวหนึ่งที่เป็นประเด็นจนทำให้สื่อหลายสำนักลุกขึ้นมาขุดคุ้ยวงการนางงาม นั่นคือ ข่าวตัวเก็งผู้เข้าประกวดมิสอันดามันนอนกับกรรมการเพื่อให้ได้ตำแหน่ง จึงเรียกได้ว่าช่วงนั้นประชาชนต่างมองว่านางงามเป็นผู้หญิงขายตัว อย่างไรก็ตาม ข่าวดังกล่าวยังคงเป็นข้อสงสัยเท่านั้น และยืนยันว่า เวทีใหญ่ ๆ ไม่มีเหตุการณ์เช่นนั้นแน่นอน
..........................................................
ภายใต้ความงามที่ถูกปูนฉาบไว้ในวงการขาอ่อนไทยนั้น ล้วนสวยสง่าและชวนให้หลงใหลไปกับมนต์เสน่ห์ของหญิงสาวมากความสามารถ หากแต่ไม่มีใครที่จะรู้เบื้องหลังของรอยแตกร้าวภายใต้ปูนแผ่นนั้น จึง คาดหวังเพียงว่า วงการประกวดนางงามไทยคงหมดยุคกังฉิน และคงไม่ต้องได้ยินข่าวไม่ดีเหมือนในอดีตอีกต่อไป.
@@@ เรียบเรียงข้อมูลจาก หนังสือดอกไม้ของชาติ:จากเวทีความงามสู่เวทีชีวิต ของ 'อรสม สุทธิสาคร'
