'ผอ.สศค.' โต้ 'มูดี้ส์' นำข้อมูลผิดพลาดประเมินจำนำข้าว
ผอ.สศค.ติ"มูดี้ส์" นำข้อมูลที่ผิดพลาดมาพิจารณาโครงการจำนำข้าว พร้อมชี้แจงทำความเข้าใจใหม่ เผย ครม.เศรษฐกิจ ยังไม่หารือกรณีมูดี้ส์ห่วงจำนำข้าว อาจทำให้ไทยโดนปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ...
เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. เปิดเผยภายหลังเข้าร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจว่า ที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจไม่ได้หารือกรณีสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือหรือ มูดี้ส์ อินเวสเตอร์เซอร์วิส ทำหนังสือสอบถามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจไทย และเตรียมปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือเครดิตของประเทศลง จากการดำเนินโครงการดังกล่าว เนื่องจากมองว่าเป็นภาระทางการคลัง และทำให้หนี้ของประเทศเพิ่มขึ้น
ผอ.สศค. กล่าวต่อว่า ตำหนิการทำงานของมูดี้ส์นำข้อมูลที่ผิดพลาดมาพิจารณา โดยขณะนี้ สศค.อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลโครงการรับจำนำข้าว เพื่อทำหนังสือชี้แจงให้มูดี้ส์รับทราบอีกครั้ง เนื่องจากที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลตัวเลขที่แท้จริงทำให้ กระทรวงการคลังขาดข้อมูลในการชี้แจงต่อมูดี้ส์ แต่ยอมรับว่าการรวบรวมข้อมูลโครงการรับจำนำเป็นเรื่องยาก เพราะกระทรวงการคลังรับทราบเพียงข้อมูลเงินกู้ที่ใช้ในโครงการจำนวน 4.1 แสนล้านบาท และสภาพคล่องของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. อีก 9 หมื่นล้านบาท รวมเป็น 5 แสนล้านบาทเท่านั้น โดยในเบื้องต้นกระทรวงการคลังจะชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับการรับจำนำข้าวรอบใหม่ ว่าจะต้องใช้เงินเท่าไร และจะใช้เงินจากส่วนใด เพราะมูดี้ส์จับตามองว่ารัฐบาลต้องกู้เงินเพิ่ม เพื่อใช้ในโครงการจำนำข้าว ซึ่งทำให้ฐานะการคลังของประเทศมีปัญหา และเป็นปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้ถูกลดเครดิต
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกระทรวงการคลัง ได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ฯ รายงานสถานการณเสถียรภาพทางเศรษฐกิจไทยล่าสุด โดยเฉพาะเงินทุนไหลเข้า ซึ่งในเดือนเมษายนที่ผ่านมา พบว่า สัญญาณเงินทุนไหลเข้าประเทศลดลง เป็นผลมาจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เตรียมนำมาตรการมาใช้ในการควบคุมเงินทุนไหลเข้า ส่งผลให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทอ่อนค่าลง และเริ่มมีเงินไหลออกนอกระบบมากขึ้นในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่เชื่อว่าจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ จากนั้นเงินทุนต่างประเทศจะไหลเข้าไทยอีกครั้ง เนื่องจากประเทศที่มีปัญหาทางเศรษฐกิจยังคงดำเนินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือ QE อยู่ต่อไป โดยในส่วนภาครัฐได้เตรียมความพร้อมรับมือการเคลื่อนย้ายแหล่งเงินทุนแล้ว โดยให้กระทรวงการคลังและ ธปท.ใช้มาตรการยืดหยุ่นจำกัดการเคลื่อนย้ายเงินทุน.
ขอบคุณข่าวจาก

