แพทย์ชนบทออกแถลงย้ำผลเจรจา รบ. ยัน “หมอประดิษฐ” ไม่เหมาะนั่ง รมว.สธ.
แพทย์ชมบทออก แถลงการณ์ ย้ำผลเจรจา รบ. 11 ข้อ ตั้ง กก.ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีปลด “หมอวิทิต” ไม่แปรรูปองค์การเภสัช ไม่แทรกแซง สปสช. ไม่บังคับใช้ P4P รพ.ชุมชน ส่งหลักฐานนายกฯปลด รมว.สาธารณสุข รอฟังผล ครม.ก่อนกำหนดท่าทีต่อ
(เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ - สุรนันทน์ เวชชาชีวะ ... ภาพจากเว็บไซต์หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์)
ชมรมแพทย์ชนบท โดย นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบท ได้ออกแถลงการณ์ สรุปผลการเจรจาระหว่างเครือข่ายเพื่อความเป็นธรรมในระบบสุขภาพกับผู้แทนนายกรัฐมนตรี (นายสุรนันท์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกฯ) เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2556 ณ โรงแรมรามาการ์เด้นท์ และ วันที่ 6 มิถุนายน 2556 ณ ทำเนียบรัฐบาล ได้ข้อสรุป 11 ข้อ มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
1.รัฐบาลยืนยันไม่ใช้ระบบร่วมจ่าย (Co-Payment) ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
2.รัฐบาลจะยกเลิกการเก็บ 30 บาท หากทบทวนข้อมูลแล้วว่าไม่คุ้มค่าและไม่เหมาะสม
3.รัฐมนตรีสาธารณสุขยืนยันที่จะปฏิบัติตาม พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยจะไม่มีการโอนอำนาจ ในการจัดสรรงบประมาณหลักประกันสุขภาพให้เขตบริการสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุข ทั้งพฤตินัยและนิตินัย
4. ยืนยันจะไม่มีการแทรกแซงการบริหารงานของ สปสช. เช่น ในกรณีการสั่งการให้มีการสร้างสำนักงาน สปสช.ในบริเวณกระทรวงสาธารณสุข
5.นายกรัฐมนตรีจะออกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงขององค์การ เภสัชกรรม และกรณีการปลด นพ.วิทิต อรรถเวชกุล แล้วให้จัดทำรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อนายกรัฐมนตรี และเผยแพร่ข้อเท็จจริงสู่สาธารณะเพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อการทำงานของ องค์การเภสัชกรรม ในฐานะหน่วยงานรัฐวิสาหกิจเพื่อสังคมในการสร้างความมั่นคงทางยาของประเทศ
6.รัฐบาลยืนยันจะไม่มีแปรรูปองค์การเภสัชกรรม โดยคงสถานภาพรัฐวิสาหกิจไว้ตามเดิม
7.รมว.กระทรวงสาธารณสุขยืนยันจะไม่มีการใช้เงินสะสม จำนวน 4,000 ล้านบาทขององค์การเภสัชกรรม เพื่อใช้สร้างศูนย์ความเป็นเลิศของกระทรวงสาธารณสุข
8.รมว.กระทรวงสาธารณสุขยืนยันจะไม่ให้มีการโอนงบประมาณโครงการสนับสนุนกิจกรรม ภาครัฐจำนวน 75 ล้านให้สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข และให้เป็นไปตามข้อสังเกตของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)
9.กรณีเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายของโรงพยาบาลชุมชน
(1) จะมีการออกเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายฉบับใหม่ในส่วนของโรงพยาบาลชุมชน ให้มีรายละเอียดตามฉบับ 4 และ 6 โดยมอบหมายให้ ดร.คนิศ แสงสุพรรณไปดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน
(2) ระยะเวลานับตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.2556 จนถึงวันที่เบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายฉบับใหม่จะมีผลบังคับใช้ ให้ใช้กลไกการเยียวยาต่อผู้ถูกรอนสิทธิ์ ตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2556 โดยให้ชดเชยเท่ากับส่วนต่างระหว่างอัตราตามเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายฉบับที่ 4, 6 และ 8 ทั้งหมด ทุกกลุ่มวิชาชีพ
(3) จะตั้งคณะกรรมการที่มาจากสหวิชาชีพ และจากทุกภาคส่วน เพื่อพิจารณาปรับปรุงอัตราเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่าย ในกลุ่มวิชาชีพอื่นๆให้เกิดความเป็นธรรมยิ่งขึ้น และพิจารณากำหนดพื้นที่ใหม่
10.ในส่วนของ P4P (Pay For Performance) ในส่วนของโรงพยาบาลชุมชน
(1) ให้เป็นไปโดยสมัครใจ และไม่จำเป็นต้องทำในทุกกลุ่ม ทุกฝ่าย
(2) หากจะดำเนินการนำเอา P4P มาใช้งานในโรงพยาบาลชุมชน ต้องให้ทุกภาคส่วนและสหวิชาชีพ ศึกษาและกำหนดหลักการ หลักเกณฑ์รายละเอียด ให้สอดคล้องกับบริบทของโรงพยาบาลชุมชนแต่ละแห่งก่อน และให้เป็นไปโดยสมัครใจ
11.เครือข่ายได้ชี้แจงเหตุผลถึงความไม่เหมาะสมในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณ สุขของ นายประดิษฐ สินธวณรงค์ และได้มอบข้อมูลและหลักฐานให้กับนายกรัฐมนตรี พิจารณาและใช้ดุลยพินิจแล้วแล้ว
“จะมีการนำสรุปผลการเจรจา เข้าสู่คณะรัฐมนตรี ในวันที่ 11 มิถุนายน 2556 ในคราวประชุมสัญจรที่ จังหวัดกำแพงเพชร ชมรมแพทย์ชนบทและเครือข่ายความเป็นธรรมในระบบสุขภาพจะประชุมและติดตามผลการประชุมของคณะรัฐมนตรี และกำหนดท่าทีในการเคลื่อนไหว ในวันที่ 11 มิถุนายน 2556 ต่อไป” แถลงการณ์ดังกล่าวระบุ