องค์กรโลกยกบทกวี ‘เนาวรัตน์’ สลักเคียงคู่วาทะไอนสไตน์-คานธี
กุนสท์เวลท์ อี.วี. เบอร์ลิน ยกบทกวี ‘เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์’ สลักเคียงคู่วาทะระดับโลกไอนสไตน์-คานธี

นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย เมื่อบทกวี ‘วิถีไทย’ ของ 'ครูเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์' ศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์ ปี 2536 ได้รับการคัดเลือกจากโครงการพาทธ์ ออฟ วิชั่นนารี่ ออฟ เดอะ เวิล์ด (Path of Visionaries of the World) ดำเนินการโดยกุนสท์เวลท์ อี.วี. เบอร์ลิน (KUNSTWELT e.V. Berlin) ภายใต้การอุปถัมภ์ขององค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) นำวรรคทองช่วงท่อนจบสลักลงแผ่นหินบนทางเท้าฟรีดริชสตราเซอร์ เคียงคู่วาทะบุคคลสำคัญต่าง ๆจากทั่วโลก เช่น อัลเบิร์ต ไอนสไตน์, มหาตมะ คานธี, แองตวน เดอ แซ็งค์เตกซูเปรี ณ กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมันนี โดยมีใจความว่า
ศิลปวัฒนธรรมประจำชาติ
เอกราชเอกลักษณ์เอกศักดิ์ศรี
เป็นคันฉ่องส่องความงามและความดี
เป็นโคมฉายช่วยชี้วิถีชน ฯ
The art and cultural heritage of a nation
Resonates its sovereignty, independence and unique pride.
Reflecting what is good and beautiful,
it lightens the path of the people.
NaowaratPongpaiboon, poet, Thailand
แหล่งข่าวกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า ประเทศไทยได้รับจดหมายเชิญเข้าร่วมจากโครงการดังกล่าวทางสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเบอร์ลิน จึงส่งจดหมายมายังกระทรวงการต่างประเทศ และแจ้งเรื่องผ่านกระทรวงวัฒนธรรม เพื่อดำเนินการคัดเลือกวาทะของบุคคลสำคัญของไทยที่มีผลงานทางด้านศิลปวัฒนธรรม
ซึ่งวธ.จึงได้คัดเลือกวาทะของศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์ ‘เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์’ จากบทกวี ‘วิถีไทย’
กระทั่งเมื่อ 31 ส.ค. 2555 ทางสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงเบอร์ลิน โดยนายเชิดชู รักตะบุตร อัครราชทูต ปฏิบัติราชการแทนเอกอัครราชทูต ได้แจ้งให้ว่าบทกวีของนายเนาวรัตน์ ได้รับคัดเลือกจากโครงการดังกล่าวและขอรับคำแปลผลงานการประพันธ์เป็นภาษาเยอรมัน เพื่อเตรียมการตีพิมพ์ในแผ่นป้ายแสดงผลงานของโครงการ
ด้านครูเนาวรัตน์ กล่าวว่า ได้รับการประสานงานจากกระทรวงวัฒนธรรมแล้ว ซึ่งบทกวีดังกล่าว จะถูกแปลเป็นภาษาเยอรมันและนำไปสลักลงแผ่นหิน ซึ่งตนและคณะ ได้กำหนดการเดินทางส่งมอบบทกวีที่ถูกรับเลือกให้แก่โครงการพาทธ์ ออฟ วิชั่นนารี่ ออฟ เดอะ เวิล์ด ภายในปี 2556 นี้
สำหรับความหมายของบทกวี ‘วิถีไทย’ ประพันธ์ขึ้นเพื่อใช้ในงานที่เกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรม ตอนที่แต่ง เป็นช่วงที่สังคมเรียกร้องความเป็นตัวของตัวเองผ่านทางวัฒนธรรม เพราะเห็นว่างานวัฒนธรรมเป็นงานที่แสดงถึงความเป็นตัวของตัวเอง สิ่งที่เด่นชัดในงานวัฒนธรรม คือ ความเป็นเอกราช ซึ่งก็คือความไม่ขึ้นกับอะไร ความเป็นอิสระ และจะต้องไม่ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลและการครอบงำใดใด
" ‘เอกลักษณ์’ คือความเป็นหนึ่ง ไม่เหมือนใคร มิได้หมายความถึงความหยิ่งผยอง หากแต่คือการรู้จักตัวเอง และสร้างลักษณะพิเศษของตัวเองขึ้นมา ‘ศักดิ์ศรี’ คือ ความงามและความดี ศักดิ์ มาจากคาว่า ศักย หรือศักติ - ศักดิ์ – ศักดา คือความสามารถ ศรี แปลว่า ความดีและความงาม"
ศิลปินแห่งชาติ กล่าวต่อว่า บทกวีข้างต้นเป็นบทกวีที่ใช้เสียงแบบไทย ใช้จังหวะแบบไทย ใช้การเล่นคำแบบไทย ซึ่งเป็นอรรถรสของบทกวีแบบไทยอันเป็นเอกลักษณ์หนึ่งของความเป็นไทยด้วย เพื่อให้ผู้อ่านและสังคมแสวงหาความเป็นเอกลักษณ์ จึงได้ ‘ชูธง’ เรื่อง ‘ความเป็นไทย’ นี้ขึ้นมา แล้วอะไรคือความเป็นไทยที่แท้จริง?? คำตอบคือ ‘ศิลปวัฒนธรรม’ นั่นเอง วัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่จะมีความเป็นตัวของตัวเอง (เอกลักษณ์) มีศักดิ์ศรี ซึ่งความยิ่งใหญ่, ความมีเอกลักษณ์และศักดิ์ศรีนี้รวมกันได้ความหมายว่า ไท ซึ่งพ้องเสียงกับคำว่า ไทย
ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมยังได้ประกาศผลการตัดสินรางวัลกวีสุนทรภู่ให้กับ ‘ครูเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ของไทยอีกด้วย โดยจะมีการมอบรางวัลในวันสุนทรภู่ 26 มิ.ย. 56 พร้อมกับผู้ได้รับรางวัลคนอื่นจาก 10 ประเทศอาเซียนด้วย .
บทกวี 'วิถีไทย' ฉบับเต็ม
วัฒนธรรมคือวิถีเเห่งชีวิต
ของคนคิดคนทำคนสร้างสรรค์
เพื่อประโยชน์เป็นอยู่รู้เเบ่งปัน
ไปตามขั้นครรลองของชีวิต
ศิลปะนั้นเป็นความเจนจัด
จากปฏิบัติการงานการประดิษฐ์
ศิลปวัฒนธรรมจึงนำคิด
ให้รู้ทิศรู้ทางรู้ย่างเท้า
พื้นฐานบ้านเราคือชาวบ้าน
ทำงานไร่นามาก่อนเก่า
เป็นปู่เป็นย่าตายายเรา
ปลูกเหย้าเเปลงย่านเป็นบ้านเมือง
เป็นเมืองเรืองรู่งเป็นกรุงไกร
ลูกไทยหลานไทยได้ฟูเฟื่อง
น้ำใจไมตรีมีนองเนือง
จากเบื้องบรรพกาลถึงวันนี้
ศิลปวัฒนธรรมประจำชาติ
เอกราชเอกลักษณ์เอกศักดิ์ศรี
เป็นคันฉ่องส่องความงามเเละความดี
เป็นโคมฉายช่วยชี้วิถีชนฯ
ที่มาภาพ: http://www.oknation.net/blog/songer/2013/04/08/entry-2
