"อธิบดีกรมสรรพากร” โยน กรมศุลฯ ชงหลักฐานส่งออก ต้นเหตุคืนภาษี 30 บริษัทปริศนา
อธิบดีกรมสรรพากร ระบุชัดเจ้าหน้าที่ยึดถือหลักฐานส่งออกจากกรมศุลฯ เป็นหลัก ต้นเหตุคืนเงินภาษีมูลค่าเพิ่ม 30 บริษัทปริศนา 3.6 พันล้าน ยันทำงานร่วมกับตำรวจแกะรอยการกระทำความผิดมานานแล้ว ไม่นิ่งนอนใจ เผยมีคดีใหม่เตรียมจ่อฟันอีก แต่หวั่นคนร้ายรู้ตัวเผ่นหนีหมด
เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2556 นายสาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากร ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ถึงความคืบหน้าการสอบสวนคดีบริษัท 30 แห่ง ซึ่งเปิดทำธุรกิจได้ไม่นาน ทำเรื่องขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จำนวน 3.6 พันล้าน ก่อนจะทยอยปิดกิจการว่า ขณะนี้ได้มอบหมายให้คณะกรรมการของกรมสรรพากร ลงไปดูรายละเอียดขั้นตอนการทำงานของเจ้าหน้าที่ในระดับพื้นที่ที่เกิดเหตุ ว่ามีความบกพร่องเกิดขึ้นในจุดไหนบ้าง เพื่อจะได้นำมาใช้เป็นแนวทางปรับปรุงการทำงานให้มีประสิทธิภาพต่อไป
“เรื่องการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม ผมได้ให้นโยบายกับข้าราชการและเจ้าหน้าที่ไปหลายครั้งแล้วว่า จะต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดทุกครั้งก่อนคืนภาษี โดยเฉพาะข้อมูลการส่งออก ที่จะต้องมีหลักฐานยืนยันว่า มีการส่งออกเกิดขึ้นจริง ซึ่งในกรณีนี้ได้รับรายงานว่า ข้อมูลการส่งออกของบริษัททุกครั้ง มีหลักฐานยืนยันชัดเจนจากกรมศุลกากรทุกครั้ง จึงมีการคืนภาษีไป ”
นายสาธิต กล่าวต่อว่า การสอบสวนข้อมูลบริษัท 30 แห่ง ที่ยื่นขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มดังกล่าว กรมสรรพากรทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจมานานแล้ว เมื่อพบหลักฐานการกระทำความผิดชัดเจน ก็แจ้งความดำเนินคดีทันที และในระหว่างการสอบสวนไม่ต้องการเปิดเผยข้อมูลอะไรมาก เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้กระทำความผิดไหวตัวทัน และหลบหนีการจับกุมไปก่อน
“ที่มีการระบุข้อมูลว่า บริษัทบางแห่ง ไปตรวจสอบแล้วพบว่า เป็นห้องว่างๆ ก็เข้าใจว่า ผู้กระทำความผิดคงจะรู้ตัวและหลบหนีกันไปเรียบร้อยแล้ว”
เมื่อถามว่า ล่าสุดมีการตรวจสอบพบข้อมูลหุ้นส่วนใหญ่บริษัทที่ขอคืนภาษี มีอาชีพทำนา และเป็นลูกจ้างโรงงาน อธิบดีกรมสรรพากร ตอบว่า ในขั้นตอนการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท ของบริษัทบางแห่ง ที่ทำธุรกิจไม่ถูกต้อง มักจะมีการนำชื่อของบุคคลอื่น มาใช้เป็นกรรมการและผู้ถือหุ้น หากสังเกตที่หน้าตา รวมถึงที่อยู่ของบุคคลเหล่านี้ ก็จะพบว่า ไม่น่าจะเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นในบริษัทที่ทำธุรกิจใหญ่โตเลย
เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่า เรื่องนี้น่าจะมีข้าราชการและเจ้าหน้าเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย จะมีการสั่งโยกย้ายตำแหน่งในระหว่างการสอบสอนหรือไม่ อธิบดีกรมสรรพากร ระบุว่า ในขั้นตอนการสอบสวนเรื่องนี้ ทางกรมสรรพากร ได้สั่งการให้เจ้าหน้าเข้าไปรวบรวม สำนวนคดีที่เกี่ยวข้องทั้งหมด มาเก็บไว้ที่ส่วนกลางหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเอกสารการขอคืนภาษี รวมถึงหลักฐานต่างๆ จึงไม่น่าจะมีใครเข้าไปเปลี่ยนแปลงหรือยุ่งเกี่ยวอะไรกับเอกสารหลักฐานต่างๆ ได้
อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวทิ้งท้ายว่า กรณีการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มของ บริษัทอกชนทั้ง 30 แห่ง ไม่ใช่คดีแรกที่เกิดขึ้น ก่อนหน้านี้ สรรพากร ตรวจสอบพบข้อมูลและแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินการไปแล้ว และมีคดีใหญ่อีกหนึ่งคดี ที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ แต่เข้าใจว่าหลังจากที่มีข่าว 30 บริษัทออกมา ผู้เกี่ยวข้องอาจจะไหวตัวทัน และหลบหนีไปหมดแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้พยายามติดต่อขอสัมภาษณ์ นางเบญจา หลุยเจริญ อธิบดีกรมศุลกากร เพื่อให้ชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกระบวนการทำงานของกรมศุลกากร ในการจัดทำหลักฐานการส่งออกสินค้าของบริษัทเอกชน 30 แห่ง เพื่อนำมาขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มดังกล่าว แต่ไม่สามารถติดต่อได้
โดยเจ้าหน้าที่แจ้งว่า นางเบญจา ติดประชุมอยู่
@@ ดีเอสไอ สั่งกรุงไทยอายัดเงิน บริษัทเอกชน 30 แห่งแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2556 นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยความคืบหน้าคดีนี้ ว่า จากการเข้าตรวจสอบพบว่ากลุ่มบริษัทเอกชนดังกล่าวมีการกระทำความผิดจริง จึงให้ทางกระทรวงการคลังร้องทุกข์กล่าวโทษกับผู้กระทำผิด และได้รับคดีดังกล่าวไว้เป็นคดีพิเศษแล้ว โดยทั้ง 30 บริษัทเป็นตัวการที่กระทำความผิดและทำให้รัฐเกิดความเสียหาย
“ดีเอสไอจะทำหนังสือแจ้งไปยังธนาคารกรุงไทย ในฐานะที่เป็นธนาคารพาณิชย์ และเป็นนิติบุคคลที่ทำหน้าที่ในการคืนเงินภาษีให้ทำการยึดอายัดทรัพย์สินของบริษัทเอกชน 30 แห่ง ส่วนสถาบันการเงินอื่นหากพบว่า หลังการนำเงินภาษีเข้าบัญชีนิติบุคคลแล้วเงินถูกกระจายไปยังบุคคลอื่นๆ ดีเอสไอจะตามยึดคืนโดยจะประสานให้ธนาคารอื่นๆ อายัดเงินไว้ตรวจสอบต่อไป”
นายธาริต กล่าวว่า คดีนี้ ทางดีเอสไอมอบหมายให้นางศิวาพร ชื่นจิตศิริ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ทำหน้าที่ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน เนื่องจากเป็นคดีฉ้อโกงภาษีรายใหญ่ ซึ่งการตรวจสอบจะต้องทำอย่างละเอียดรอบครอบโดยเฉพาะการตรวจสอบทรัพย์สินเพื่อทำการยึดอายัดต่อไป
---------------
อ่านประกอบ :
“ทนุศักดิ์” ลั่น ฟันไม่เลี้ยง ขรก. เอี่ยว คดี 30 บ.ปริศนาคืนภาษี VAT 3.6 พันล้าน!!
ตีแสกหน้า!กรมสรรพากร บริษัทขอคืนภาษี 3.6 พันล. ล่องหน-ห้องเปล่า-ไร้ป้ายชื่อ
เปิด“ชื่อ -วงเงิน” 30 บริษัทปริศนา! ขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม 3.6 พันล้าน
พบ 30 บริษัทปริศนา!ขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม 3.6 พันล้าน เพิ่งก่อตั้ง-เบอร์โทร.เดียวกัน