"5 ปัญหา" อื่น ของโครงการรับจำนำข้าว นอกจากตัวเลข "ขาดทุน"

(วรากรณ์ สามโกเศศ - ภาพจากเว็บไซต์สำนักข่าวไทย)
เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.2556 ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต นักเขียนบทความด้านเศรษฐศาสตร์ ได้ตั้งข้อสังเกตถึงโครงการรับจำนำข้าว นอกจากไปจากตัวเลขขาดทุนจากโครงการนี้ ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว "วรากรณ์ สามโกเศศ" ใน 5 ประเด็น ดังนี้
การประเมินจำนวนเงินที่ขาดทุนของโครงการจำนำข้าวนั้นสำคัญแต่ก็ไม่ควรละเลยประเด็นอื่นๆที่สำคัญเช่นเดียวกันเช่น
(1) การจำนำข้าวราคาสูงกว่าตลาดมากทำให้เกษตรกรรีบผลิตข้าวที่ให้ปริมาณมากออกมาเร็วๆ โดยสนใจเรื่องคุณภาพน้อยลง จริงอยู่ข้าวหอมมะลิได้ราคาดีกว่าแต่ต้องใช้เวลาปลูกนานกว่า สู้เร่งปลูกข้าวคุณภาพต่ำกว่าจากพันธุชนิดไวแสงไม่ได้ ข้าวไทยซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องคุณภาพก็จะเสื่อมลงในสายตาผู้บริโภค
(2) มีผู้ลักลอบนำข้าวจากประเทศเพื่อนบ้านมาสวมรอยเพื่อรับราคาจำนำ จนช่วยตอกย้ำชื่อเสียงที่เลวลงของข้าวไทย
(3) เงินจำนวน 350,000 ล้านบาทที่รัฐบาลใช้ไปในการจำนำข้าว(ตัวเลขล่าสุด กท.พณ.) แท้จริงแล้วมีทางเลือกอื่นในการใช้ อาจนำไปใช้ในการพัฒนารถไฟ ถนน ทางน้ำฯ โดยไม่ต้องใช้เงินกู้ที่มีดอกเบี้ยอีกหลายแสนล้านบาท หรือเอาไปใช้เพื่อพัฒนาการศึกษาหรือสาธารณสุข หรือเอาไปทำวิจัยด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อเพิ่ม productivity ของปัจจัยการผลิต
(4) การรั่วไหลของเงินจำนวนมหาศาลจากระบบการจำนำข้าวตามที่มีการศึกษาโดย TDRI .คอรัปชั่นโดยตัวของมันเองทำให้เหลือเงินที่สร้างประโยชน์ได้จริงๆน้อยลง แต่โดยแท้จริงแล้วคอรัปชั่นทำลายความดีงามของสังคมโดยเฉพาะภาคราชการ มันเป็นยิ่งกว่าโรคร้ายที่บ่อนเฃาะสังคมเรา
และ (5) รัฐบาลจะทำอะไรกับข้าวที่อ้างว่ามีอยูในสต๊อค 252,000 ล้านบาท เพราะข้าวมันเสื่อมคุณภาพลงทุกวัน ไฃโลจำนวนมากที่เก็บข้าวก็ขาดคุณภาพอยู่แล้ว และจะเอาไฃโลที่มีคุณภาพมาเก็บข้าวจากฤดูกาลใหม่จากไหน. ทั้งหมดนี้เป็นประเด็นที่สังคมควรพิจารณาประกอบไปกับตัวเลขขาดทุน.
