สุดอนาถ “ระบบโซตัส" ม.เกษตรฯ ศรีราชา “รุ่นพี่ –รุ่นน้อง” ไล่กันไปตาย แค่เรื่อง ‘ไหว้’ ?

 "...ระบบโซตัสในปัจจุบันทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ และถ้ามีคนคิดต่างก็จะถูกผลักให้เป็นศัตรูทันที ซึ่งไม่ต่างอะไรกับ “การล่าแม่มดในยุโรปยุคกลาง” แม้แต่น้อย แค่ไม่ไหว้ถึงกับต้องฆ่ากันให้ตายเชียวหรือ ?”

ปรากฎเหตุการณ์อื้อฉาวไม่เว้นแต่ละปี สำหรับกิจกรรมรับน้องเฟรชชี่ภายในมหาวิทยาลัย โดยก่อนหน้านี้ก็ปรากฎภาพนักศึกษาใหม่ถูกรับน้องด้วยวิธีการไม่เหมาะสม เช่น นำปลัดขลิกไปให้เลีย หรือให้นอนถอดเสื้อแช่ในน้ำเน่า มาแล้ว

และเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมาอย่างสด ๆ ร้อน ๆ คือกรณีมีรุ่นน้องจากคณะหนึ่งในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา โพสต์สถานะบนเฟซบุ๊กระบายถึงการกระทำของรุ่นพี่ที่มา “ว้าก” ใส่เธอด้วยเหตุผลเพียงแค่ ‘ไม่ยกมือไหว้รุ่นพี่ ?’

เรื่องไม่เป็นเรื่องกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตขึ้นมา

เมื่อรุ่นพี่บางคนมาเห็นสถานะบนเฟซบุ๊กของเธอ ก็โจมตีเธอด้วยถ้อยคำผรุสวาทหยาบคายต่าง ๆ นานา ทั้งให้สำเหนียกถึงประเพณีของคณะที่ปฏิบัติกันมาอย่างยาวนาน และทวีความรุนแรงไปจนถึงให้ลาออกจากคณะ และที่ร้ายแรงที่สุดคือ “ข่มขู่ใช้กำลังประทุษร้าย”

“ไม่อยากตายก็ลาออกไปซะ !! ไปอยู่ในที่ที่เค้าไม่มีระเบียบ ไม่มีประเพณีอะไร ผมขอให้คุณเรียนได้เกียรตินิยม !!” สถานะของรุ่นพี่คนหนึ่ง หลังจากเห็นโพสต์ของรุ่นน้องคนดังกล่าว

รวมถึงมีการประจานชื่อเธอ และล้อเลียนภูมิลำเนาเธอซึ่งเป็นคนภาคอีสานกันอย่างสนุกปาก เช่น “มันเป็นคนสุรินทร์ ระวังโดนเสกหนังควายเข้าท้องนะ” เป็นต้น และมีการรวบรวมคนไปสืบหาว่าอาศัยอยู่หอพักไหน เพื่อจะได้เรียกมาอบรมสั่งสอน (ด้วยวิธีไหนไม่อาจทราบได้)

ซึ่งส่อเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง !

อย่างไรก็ตาม เมื่อเรื่องดังกล่าวกระพือไปยังเพจต่าง ๆ ในเฟซบุ๊ก ทำให้มีกลุ่มคนอีกจำนวนไม่น้อยเข้ามาปกป้อง ‘สิทธิในการแสดงออก’ ของเธอ มีการวิจารณ์ว่าเรื่องดังกล่าวเป็นสิทธิส่วนบุคคลของเธอ และรุ่นพี่ไม่มีสิทธิจะไปไล่เธอออกจากมหาวิทยาลัยเพียงแค่เหตุผลที่เธอ ‘ไม่ไหว้’

ทั้งนี้มีความเห็นหนึ่งน่าสนใจระบุว่า “เพราะมีรุ่นพี่แบบนี้จึงทำให้ “ระบบโซตัส” โดนคนมองในแง่ลบ เพราะคนที่นำมาใช้ไม่มีวุฒิภาวะเพียงพอ เพียงแค่มีรุ่นน้องไม่เห็นด้วย แทนที่จะพิสูจน์ให้เด็กยอมเคารพจากใจ กลับเอามาประจานกันโครม ๆ ให้รู้ไว้ด้วยว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่มันไม่ใช่สิ่งที่รุ่นพี่พึงปฏิบัติต่อรุ่นน้อง แต่เป็นพฤติกรรมที่ทำเพื่อสนองความสะใจของตัวเองเท่านั้น”

ปรากฎว่า เมื่อถูกชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างเซ็งแซ่ ทำให้มีรุ่นพี่หลายคนลบสถานะตนเอง และมีการเรียกร้องให้เพจต่าง ๆ ลบข้อความที่นำไปแชร์จนว่อนเฟซบุ๊กอีกด้วย

ล่าสุด หลังจากโดนวิจารณ์กันขรม ปรากฎว่าได้มีการขอขมากันระหว่างรุ่นน้องรายนี้ กับรุ่นพี่ที่นำไปประจาน ขณะที่มีรายงานแจ้งว่าได้ทำการส่งเรื่องไปยัง รศ.ชัยวัฒน์ ชัยกุล รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา เพื่อให้เข้ามาตรวจสอบในเรื่องนี้โดยด่วนแล้ว

เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2556 สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้ติดต่อไปยัง องค์การบริหาร องค์การนิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา (อบ.ก.) เพื่อให้ชี้แจงถึงกรณีดังกล่าว

โดย อบ.ก. เล่าว่า ขณะนี้อยู่ช่วงการนัดคุยกันเพื่อปรับความเข้าใจระหว่างรุ่นพี่และรุ่นน้องคนดังกล่าว และเร็ว ๆ นี้จะมีการนัดประชุมผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวอีกครั้ง

อย่างไรก็ตามต้องเข้าใจว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพียงอารมณ์ชั่ววูบของทั้งสองฝ่าย และทาง อบ.ก. เองก็ลดและเลิกกิจกรรมการว้ากลงไปบ้างแล้ว และมีการเสริมกิจกรรมสร้างสรรค์เพิ่มมากขึ้น ดังนั้นควรเข้าใจในจุดนี้ด้วย

“ที่นี่มองระบบโซตัสเปรียบเสมือนบ้าน แต่ข้างนอกกลับมองเป็นแง่ลบ โดยจุดยืนของระบบโซตัสที่นี่คือ สอนน้องด้วยเหตุผลและสร้างสรรค์ ซึ่งทุกขึ้นตอนปฏิบัติตามกฎระเบียบของมหาวิทยาลัยถูกต้อง”

เป็นที่น่าสังเกตว่า ‘ระบบโซตัส’ ในปัจจุบันทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ และถ้ามีคนคิดต่างก็จะถูกผลักให้เป็นศัตรูทันที ซึ่งไม่ต่างอะไรกับ “การล่าแม่มดในยุโรปยุคกลาง” แม้แต่น้อย

แค่ไม่ไหว้ถึงกับต้องฆ่ากันให้ตายเชียวหรือ ?

นายปิยรัฐ จงเทพ เลขาธิการกลุ่มเยาวชนปฏิรูปการรับน้องประชุมเชียร์แห่งชาติ (Anti-SOTUS) เผยกับสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ถึงกรณีดังกล่าว ว่า มันเกิดจากการที่รุ่นพี่พยายามใช้วัฒนธรรมการไหว้มาเป็นการแบ่งชนชั้น คือถ้าน้องไหว้พี่ จะทำให้รุ่นพี่รู้สึกมีอำนาจ ซึ่งมันไม่สมควรเกิดขึ้นในสถาบันระดับอุดมศึกษา และถ้าแค่เหตุการณ์น้องไม่ไหว้พี่ ถึงขนาดต้องมีการปลุกระดมกันออกมาประจานและกดดันน้อง ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้นในระดับปัญญาชน

นายปิยรัฐ อธิบายอีกว่า ระบบโซตัสกำลังอยู่ในจุดที่อ่อนที่สุดในประวัติศาสตร์ที่เคยมีมา และไม่เหมาะกับบริบทสังคมอีกแล้ว เนื่องจากเมื่อพิจารณาดูให้ดีจะเห็นว่าระบบไม่ได้สร้างความรักอย่างแท้จริง เพราะถ้าพี่รักน้องจริงต้องแสดงความรักที่บริสุทธิ์ ไม่ใช่เมื่อมีน้องคิดต่างก็ไปรุมประนาม แต่นี่มันไม่ใช่ มันคือการสร้างพรรคสร้างพวก ซึ่งถือเป็นปัญหาและอุปสรรคในการพัฒนาประชาธิปไตย

“สังคมปัจจุบันมีการคิดต่าง แสดงความเห็นอย่างหลากหลาย การบังคับให้คนคิดเหมือนกันหรือกระทำภายใต้ระบบรุ่น ไม่มีใครสามารถรับประกันได้ว่ามีจุดอ่อน หรือจุดแข็งอย่างไร การที่ระบบไม่สามารถควบคุมและตรวจสอบได้ ทำให้เกิดความรุนแรงขึ้นอย่างในทุกวันนี้”

ไม่ว่าบทสรุปเรื่องนี้จะจบลงอย่างไร แต่ที่แน่ ๆ คงเป็นอุทาหรณ์ให้เห็นว่าเพียงแค่เรื่องเล็ก ๆ อย่างการไม่ยกมือไหว้ กำลังทำให้ ‘ระบบโซตัส’ เดินมาถึงทางตัน และก้าวสู่ยุคล่มสลายในเร็ววัน หากยังดื้อและไม่ยอมปรับเปลี่ยนให้เข้าบริบทสังคมสมัยใหม่เฉกเช่นทุกวันนี้