K-Water ตั้งโต๊ะแถลง ปัดมีหนี้ 700 % ยันได้โครงการน้ำไม่เกี่ยว "ทักษิณ"
ทูตเกาหลีใต้ ควงผู้บริษัท K-Water ตั้งโต๊ะแจงข้อหา NGO แฉขาดทุน 700% ยันสถานะการเงินแข็งแกร่ง ปีที่แล้วกำไร 8 พันล้าน ประสบการณ์ทำฟลัดเวย์เพียบ ชี้ได้โครงการไม่เกี่ยว "ทักษิณ" เยือน -ส่วนผลกระทบคำพิพากษาศาลปค.รอดูท่าที รบ.ไทย ก่อน
(มณฑล ภาณุโภคิน (ขวา) ขณะยืนอธิบายแผ่นชาร์ตชี้แจงสถานะทางการเงินของบริษัท K-Water)
เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.2556 ที่อาคารไซเบอร์เวิลด์ นายจอน แจ มัน เอกอัครราชทูตเกาหลีประจำประเทศไทย นายยูน บยอง ฮุน รองประธานฝ่ายธุรกิจต่างประเทศ บริษัท เค-วอเตอร์ จำกัด และนายมณฑล ภาณุโภคิน กรรมการผู้จัดการบริษัท เค-วอเตอร์ จำกัด (ประเทศไทย) ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงกรณีที่นายยัม ฮยอง โชว ผู้อำนวยการสมาพันธ์สิ่งแวดล้อมเกาหลีใต้ ออกมาเปิดเผยว่า บริษัท เค-วอเตอร์ จำกัด ที่ชนะการเปิดซองประมูลโครงการบริหารจัดการน้ำในโมดูล A3 (แก้มลิง) และโมดูล A5 (ฟลัดเวย์) รวมวงเงิน 1.6 แสนล้านบาท มีสถานะทางการเงินที่ย่ำแย่ โดยมีอัตราส่วนหนี้สินสูงถึงกว่า 700% และเคยประสบปัญหาจากการก่อสร้างโครงการลักษณะเดียวกัน ในประเทศเกาหลีใต้
นายจอน กล่าวว่า บริษัท เค วอเตอร์ จำกัด เป็นรัฐวิสาหกิจซึ่งรัฐบาลเกาหลีใต้ถือหุ้น 99.99% จึงเชื่อมั่นในศักยภาพว่าจะดำเนินโครงการบริหารจัดการน้ำที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลไทยได้ แม้จะให้เวลาค่อนข้างสั้นและให้งบประมาณน้อย จนสุ่มเสี่ยงที่จะทำให้บริษัท เค-วอเตอร์ จำกัด ขาดทุน แต่ก็ไม่เป็นปัญหาใดๆ เพราะการเข้ามาดำเนินโครงการนี้เป็นไปเพื่อความสัมพันธ์อันดีของทั้งสองประเทศ
นายยูน กล่าวว่า เหตุที่ต้องจัดให้มีการแถลงข่าวครั้งนี้ เนื่องจากข้อกล่าวหาจากนักเคลื่อนไหวชาวเกาหลีใต้ ทำให้เกืดความไม่เข้าใจต่อการเข้ามาดำเนินโครงการบริหารจัดการน้ำของบริษัท เค-วอเตอร์ จำกัด ทั้งนี้ รัฐบาลเกาหลีใต้และบริษัท เค-วอเตอร์ จำกัด มีความกังวลต่อการขยายตัวของข่าวลือที่ไม่เป็นความจริง ยืนยันว่าบริษัท เค วอเตอร์ จำกัด พร้อมรับฟังคำวิจารณ์ที่สร้างสรรค์ แต่ไม่สนับสนุนการบิดเบือนข้อเท็จจริง
“ขอยืนยันว่าการที่บริษัท เค วอเตอร์ จำกัด ได้รับเลือกจากรัฐบาลไทยให้ดำเนินโครงการบริหารจัดการน้ำใน 2 โมดูล ได้ผ่านกระบวนการคัดเลือกที่โปร่งใส และเป็นไปตามกฎระเบียต่างๆ ที่รัฐบาลไทยวางเอาไว้ และเมื่อใดที่บริษัท เค-วอเตอร์ จำกัด ได้ทำสัญญา ก็จะปฎิบัติตามที่กฎหมายไทยกำหนดทุกอย่าง เพื่อให้โครงการประสำบความสำเร็จ” นายยูนกล่าว
ส่วนที่ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาให้รัฐบาลไทยนำแผนแม่บทบริหารจัดการน้ำกลับไปทำประชาพิจารณ์พร้อมผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม นายยูน กล่าวว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว แต่จะขอกลับไปศึกษารายละเอียด พร้อมกับฟังข้อมูลจากรัฐบาลไทยก่อนว่า จะดำเนินการอย่างไรต่อไป
นายยูน ยังกล่าวยืนยันด้วยว่า บริษัท เค-วอเตอร์ จำกัด ไม่เคยมีผลประกอบการขาดทุนแม้แต่ปีเดียว
ด้านนายมณฑล กล่าวว่า ที่นายยัมระบุว่า นับแต่บริษัท เค-วอเตอร์ จำกัด มีอัตราส่วนหนี้สินสูงถึง 758% นับตั้งแต่การดำเนินโครงการฟื้นฟูแม่น้ำสายหลัก 4 สายในประเทศเกาหลีใต้ เมื่อ 5 ปีก่อน ความจริงบริษัท เค-วอเตอร์มีอัตราส่วนหนี้สินเพียง 122.8% ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับรัฐวิสาหกิจของประเทศเกาหลีใต้อื่นๆ ซึ่งมีอัตราส่วนหนี้สินเฉลี่ย 195.0% ขอยืนยันว่าสถานะการเงินของบริษัท เค-วอเตอร์ จำกัด มั่นคง โดยในปี 2555 มีทรัพย์สิน 676,000 ล้านบาท มีรายได้ 99,000 ล้านบาท ได้รับความน่าเชื่อถือจากสถาบันจัดอันดับระดับโลก จากสแตนดาร์ดแอนด์พัวส์ที่ A+ และจากมูดีส์ที่ A1
“สำหรับผลประกอบการเฉพาะปี 2555 บริษัท เค-วอเตอร์ จำกัด มีรายได้ 109.000 ล้านบาท มีรายจ่าย 101,000 บาท มีกำไรสุทธิ 8,000 บาท เหตุที่มีกำไรสุทธิต่ำ เนื่องจากบริษัท เค-วอเตอร์ จำกัด เป็นรัฐวิสาหกิจที่ไม่ได้มุ่งแสวงหากำไร สำหรับเรื่องกระแสเงินสด ก็ยอมรับว่ามีสถานะเป็นหนี้อยู่บ้าง แต่ในระบบบัญชีก็ถือว่าเรายังมีกำไรอยู่” นายมณฑลกล่าว
สำหรับเรื่องที่มีรูป พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางไปที่สำนักงานใหญ่ของบริษัท เค-วอเตอร์ จำกัด ในประเทศเกาหลีใต้ นายมณฑล กล่าวว่า บริษัท เค-วอเตอร์ จำกัด เป็นศูนย์ให้การศึกษาด้านการบริหารจัดการน้ำ โดยก่อนหน้านี้นอกจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ก็เคยต้อนรับผู้นำจากชาติต่างๆ โดย พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางไปเยือนในปี 2554 หลังเกิดน้ำท่วมใหม่ในประเทศไทยแล้ว หลังจากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีถึงได้เดินทางไปเยือนบริษัท เค-วอเตอร์ จำกัด ขอยืนยันว่าเรื่องนี้เลศนัยใดๆ ทางการเมือง
ส่วนที่ผู้อำนวยการสมาพันธ์สิ่งแวดล้อมเกาหลีใต้เปิดเผยว่าบริษัท เค-วอเตอร์ จำกัด ไม่มีประสบการณ์ทำฟลัดเวย์อย่างเพียงพอ เนื่องจากในประเทศเกาหลีใต้ก็เคยก่อสร้างฟลัดเวย์เพียงแค่ 18 กิโลเมตรเท่านั้น นายมณฑล กล่าวว่า บริษัท เค-วอเตอร์ จำกัด มีประสบการณ์ทำฟลัดเวย์ในประเทศเกาหลีใต้ถึง 29 สาย ซึ่งมีความยาวมากกว่า 18 กิโลเมตรอย่างแน่นอน และก่อนจะดำเนินโครงการใดๆ ที่จะมีผลกระทบต่อประชาชน ก็จะทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) กับรายงานผลกระทบด้านสุขภาพ (HIA) ตามมาตราของกฎหมายประเทศนั้นๆ
(อ่านเอกสารซึ่งบริษัท เค-วอเตอร์ จำกัด ทำขึ้นเพื่อชี้แจงข้อสงสัย รวม 7 ประเด็นได้ ที่นี่)
เมื่อถามว่าการออกมาเปิดข้อมูลเรื่องบริษัท เค-วอเตอร์ จำกัดขาดทุน กับการที่ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาในคดีแผนแม่บทบริหารจัดการน้ำออกมาใกล้เคียงกัน เคยสงสัยหรือไม่ว่าอาจจะมีคนบางกลุ่มต้องการล้มการประมูลโครงการบริหารจัดการน้ำ นายมณฑล กล่าวว่า “ด้วยจังหวะเวลา 3 วันที่ผ่านมา ซึ่งมีข่าวเกี่ยวกับบริษัท เค-วอเตอร์ จัด ซึ่งบิดเบือนออกมาพร้อมๆ กัน ก็เป็นไปได้ อย่างไรก็ตาม จะขอน้อมรับคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง”
กรรมการผู้จัดการบริษัท เค-วอเตอร์ จำกัด (ประเทศไทย) ยังกล่าวว่า ส่วนผลกระทบจากคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง ที่อาจทำให้การเซ็นสัญญาล่าช้าออกไป 1-2 ปี เราจะขอดูเงื่อนไขในสัญญาจากรัฐบาลไทยก่อน หากอยู่ร่วมกันได้และยุติธรรมก็จะอยู่ร่วมกันจนจบ
นายมณฑล ยังกล่าวยอมรับว่า นับแต่บริษัท เค-วอเตอร์ จำกัด ชนะการเปิดซองประมูลโครงการบริษัทจัดการน้ำ 2 โมดูล ก็มีรายงานขึ้นมาว่า มีคนบางกลุ่มไปประกาศว่า หากจะทำสัญญากับบริษัท เค-วอเตอร์ จำกัด จะจ่ายเงินใต้โต๊ะ 18% จึงขอประกาศไว้ตรงนี้เลยว่า หลังจากบริษัท เค-วอเตอร์ จำกัด เซ็นสัญญากับรัฐบาลไทย หากจะทำสัญญากับบริษัทใด บริษัท เค-วอเตอร์ จำกัด จะทำสัญญากับบริษัทนั้นโดยตรง
