ดูชัดๆบันทึก“รองอธิบดี”ชะลอคืนภาษี 6 เดือน ก่อน“ซี 9”อ้าง“อธิบดี”สั่งลุย
เปิดบันทึกรองอธิบดีกรมสรรพากร สั่งชะลอคืนภาษี 6 เดือน ก่อน“ซี 9”อ้างคำสั่ง “อธิบดี” ไม่ต้องปฏิบัติตาม ที่มาปมคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม 30 บริษัทปริศนา 3.6 พันล้าน
มีเอกสารชิ้นหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับกรณีการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่เครือข่ายผู้ประกอบการ จำนวน 30 บริษัทวงเงิน 3.6 พันล้านบาท คือ บันทึกข้อความรายงานผลการตรวจเยี่ยม สรรพากรพื้นที่ 22 ของนางชนาทิพย์ วีรสืบพงศ์ และคณะผู้ตรวจราชการสำนักมาตรฐานการกำกับและตรวจสอบภาษี เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2556 เพื่อสุ่มตรวจสำนวนการตรวจสอบภาษี รับฟังปัญหา ข้อเสนอแนะและให้คำแนะนำทางการแก้ไขปัญหาในการปฏิบัติงาน
บันทึกข้อความ วผ.2/2556 ฉบับนี้ทำขึ้นเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2556 โดยนางสาวกันตยา เหาะเจริญ นักตรวจสอบภาษีชำนาญการ มีความยาว 3 หน้ากระดาษ
สาระสำคัญ คือ ให้เจ้าหน้าที่ชะลอการคืนภาษีช่วง 6 เดือนภาษีแรกไว้ก่อน แม้ว่าผลการตรวจจะกลับมาก่อนครบ 6 เดือนก็ตาม
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำเนื้อหาบางส่วนมาเสนอดังนี้
ประเด็นการตรวจเยี่ยม (หน้า 2 )
หัวข้อที่ 2 ประเด็นการตรวจสอบ
สำนวนหมายเรียกตรวจสอบภาษีอากร สำนวนการวิเคราะห์และตรวจนิติบุคคลที่มีภาษีเงินได้นิติบุคคลชำระไว้เกิน สำนวนการตรวจตรวจคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม และสำนวนการตรวจปฏิบัติการ
ผลการตรวจเยี่ยม
1.การสุ่มตรวจสำนวนการออกหมายเรียกตรวจสอบภาษี มีการปฏิบัติตามขั้นตอนของระเบียบตรวจสอบ
2.การสุ่มตรวจสำนวนการวิเคราะห์และตรวจนิติบุคคลที่มีภาษีเงินได้นิติบุคคลชำระไว้เกิน
-ไม่จัดทำกระดาษทำการที่มีนัยสำคัญ เช่น การกระทบยอดขายตามแบบ ภ.ง.ด.50 และ ตามแบบ ภ.พ.30
-การประมาณการกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีครึ่งปี (มาตรา 67 ทวิ)
-ไม่ปรากฏหลักฐานการตรวจสอบมูลเหตุของผลขาดทุนสะสมยกมา
-เอกสารของผู้เสียภาษีมิได้ลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง
3.การสุ่มตรวจสำนวนการตรวจคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม มิได้ปฏิบัติตามระเบียบและแนวทางปฏิบัติ ดังนี้
-การไม่ขอขยายเวลาล่วงหน้าก่อนครบกำหนด 7 วัน ตามระเบียบฯ
-ไม่เริ่มดำเนินการภายใน 15 วันนับแต่วันรับเรื่อง
-ไม่พบหลักฐานการแจ้งผลการตรวจให้ผู้เสียภาษีรับทราบ
-ไม่บันทึกในคำให้การ (ต.6) หรือ บันทึกแต่ไม่ครบถ้วนในสาระสำคัญ
-มิได้จัดทำกระดาษทำการประกอบประเด็นที่ตรวจพบ
-มิได้จัดทำกระดาษทำการประกอบประเด็นที่ตรวจพบ
-มิได้รายงานผลการตรวจตามประเด็นที่ได้กำหนดไว้
ส่วนงานกรรมวิธีและคืนภาษี (หน้า 3)
มิได้ชะลอการคืนตามแนวทางปฏิบัติฯกรณีเป็นผู้ประกอบการจด VAT รายใหม่ ซึ่งกำหนดให้ส่งทีมกำกับดูแลตรวจคืนภาษีแรกที่ขอคืน นอกนั้นให้ชะลอการคืนช่วง 6 เดือนภาษีแรกไว้ แม้ว่าผลการตรวจจะกลับมาก่อนครบ 6 เดือนก็ตาม
4. การสุ่มตรวจสำนวนการตรวจปฏิบัติการ
........ ………………
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและเห็นควร
1.ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายวางแผนและประเมินผลการตรวจสอบภาษีทราบเพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานและจะได้เป็นแนวทางดำเนินการต่อไป
2.สำเนาแจ้งทุก สท.กทม.เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทีมกำกับดูแลทราบและจะได้ปฏิบัติงานให้ถูกต้องตามระเบียบ ฯต่อไปและ ขออนุญาตส่งแฟ้มข้อมูลดังกล่าวให้ สท. กทม.22-30 ทาง E-mail
ลงชื่อ นางสาวกันตยา เหาะเจริญ นักตรวจสอบภาษีชำนาญการ
ต่อมาวันที่ 3 เมษายน 2556 นายศุภกิจ ริยะการ ผู้อำนวยการ สรรพากรพื้นที่กรุงเทพมหานคร 22 ได้มีบันทึกคำสั่งเวียนถึงทุกส่วนและทีมกำกับภาษีโดยแนบบันทึกข้อความรายงานผลการตรวจเยี่ยมของนางชนาทิพย์ วีรสืบพงศ์ ว่า
“ให้ทุกทีมกำกับตรวจความเรียบร้อยของแต่ละสำนวนการตรวจของตนเอง ให้เรียบร้อยตามแนวปฏิบัติของ มก. แต่สำหรับผลการตรวจเยี่ยม ข้อ 3 วรรคท้ายที่ให้ชะลอการคืนภาษี 6 เดือนแรกนั้น เป็นเพียงความเห็นของผู้ตรวจซึ่งเรื่องนี้ท่านอธิบดีได้แจ้งให้ที่ประชุมคราวตรวจเยี่ยม สท.22 ให้คืนได้ทันทีเมื่อผลการตรวจไม่พบประเด็นความผิด โดยไม่จำเป็นต้องรอให้ครบ 6 เดือน"
คำสั่งดังกล่าวของนายศุภกิจดังกล่าวเป็นที่มาของการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้บริษัทปริศนาจำนวน 30 รายในพื้นที่บางรัก 3,647 ล้านบาท และเป็นประเด็นอื้อฉาวในขณะนี้
(ดูเอกสารประกอบ)