เปิดเหตุผล ป.ป.ช. "มติเอกฉันท์" ยกคำร้อง “สุดารัตน์” คดีคอมฯฉาว
ส่วนหนึ่งของมติที่ของประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่มีมติเอกฉันท์ 8:0 ยกคำร้อง “คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” อดีต รมว.สาธารณสุข ในคดียกเลิกการประมูลระบบคอมพิวเตอร์ของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) วงเงิน 821 ล้านบาท ซึ่งนายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการป.ป.ช.แถลงต่อสื่อมวลชน ในวันนี้ (2 ก.ค.2556)

(ภาพจากอินเทอร์เน็ต)
-----
ที่ประชุม ป.ป.ช.ได้พิจารณาสำนวนคดีกล่าวหาคุณหญิงสุดารัตน์กับพวก รวม 16 คน ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบกรณียกเลิกการประมูลระบบคอมพิวเตอร์ของกระทรวงทรวงสาธารณสุข รวมวงเงิน 821 ล้านบาท
เนื่องจากคดีนี้ อนุกรรมการไต่สวนชดแรกที่มีนายภักดี โพธิศิริ กรรมการ ป.ป.ช.เป็นประธานได้ไต่สวนเสร็จแล้ว แต่เมื่อจะเสนอเรื่องต่อ ป.ป.ช. ผู้ถูกกล่าวก็มีการยื่นเรื่องโต้แย้งเข้า โดยเวลาเดียวกันก็มีการยื่นถอดถอนนายภักดีออกจากตำแหน่ง กรรมการ ป.ป.ช. ที่ประชุม ป.ป.ช.จึงมีมติให้นายวิชัย วิวิตเสวี กับนายปรีชา เลิศกมลมาศ 2 กรรมการ ป.ป.ช.เข้าดำเนินการไต่สวนเพิ่มเติม สำหรับประเด็นที่มีปัญหามาก คือเอกสารบางชิ้นจากการไต่สวนที่เราได้มากับที่ผู้ถูกร้องส่งมามีบางจุดไม่ตรงกัน ป.ป.ช.จึงต้องตรวจอบว่าเอกสารชิ้นไหนเป็นเอกสารล่าสุด
ทั้งนี้ประเด็นสำคัญที่สุด คือการประชุมของคณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคา ครั้งที่หก เมื่อวันที่ 16 เม.ย.2547 ซึ่งเป็นการประชุมที่มีมติเรียก “กิจการร่วมค้า พีสแควร์ ไทยคอม” ที่เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุด มาต่อรองราคา แต่ต่อมาวันที่ 3 พ.ค.2547 “บริษัท ไพรม์ลิงก์ จำกัด” บริษัทที่เข้าร่วมประกวดราคาด้วย ได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อ รมว.สาธารณสุขในเวลานั้นก็คือคุณหญิงสุดารัตน์ ปลัด สธ. และคณะกรรมการฯ ขอให้ทบทวนผลการประกวดราคา ดังนั้น คณะกรรมการฯ จึงต้องจัดให้มีการประชุมอีกครั้ง เป็นครั้งที่เจ็ด ในวันที่ 15 มิ.ย.2547 ซึ่งที่ประชุมพิจารณาแล้วมีความเห็นว่า คุณภาพของทั้ง 2 บริษัทแตกต่างกัน โดยบริษัทไพรม์ลิงก์ฯแม้จะเสนอราคาสูงกว่ากิจการร่วมค้าพีสแควร์ฯ แต่ก็มีคุณสมบัติดีกว่า และราคาสูงกว่าไม่เกิน 20% นอกจากนี้ ยังบริษัทไพรม์ลิงก์ฯมีบริการหลังการขายที่ดีกว่ากิจการร่วมค้าพีสแควร์ฯ คณะกรรมการฯ จึงมีมติให้ยกเลิกการประกวดราคาที่ผ่านมา
ป.ป.ช.ต้องพิจารณาว่าการประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งที่เจ็ด เป็นการประชุมโดยชอบหรือไม่ ซึ่งจากการตรวจสอบคำวินิจฉัยของอัยการ กระทรวงการคลัง และศาลปกครองกลาง ก็ระบุตรงกันว่าเป็นการประชุมโดยชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากตราบใดที่คณะกรรมการฯ ยังไม่ได้เสนอผลการพิจารณาไปยังผู้มีอำนาจสั่งซื้อสั่งจ้าง คณะกรรมการฯ ย่อมมีดุลยพินิจที่จะทบทวนการดำเนินการขอตัวเองได้ และก็มีเหตุที่คณะกรรมการฯ จะนำกลับมาทบทวน ได้แก่หนังสือร้องขอความเป็นธรรมของบริษัทที่เข้าร่วมประกวดาราคา
ป.ป.ช.จึงเห็นว่าการกระทำของคณะกรรมการฯ เป็นการกระทำโดยชอบ ถูกต้อง และมีเหตุผล
ที่ประชุม ป.ป.ช.จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ 8:0 ว่าคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีต รมว.สาธารณสุข นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ผู้ช่วย รมว.สาธารณสุข และนายอุดมเดช รัตนเสถียร เลขานุการ รมว.สาธารณสุข ไม่มีพฤติกรรมข่มขืนใจและบีบบังคับให้ข้าราชการประจำกลั่นแก้ลงกิจการร่วมค้าพีสแควร์ฯ โดยจากการไต่สวนพยานบุคคลและเอกสารที่มีการอ้างถึง ข้อเท็จจริงไม่มีน้ำหนักที่จะฟังได้ว่าผู้ถูกกล่าวหาทั้งสามได้กระทำการตามที่มีการกล่าวหา
สำหรับ นพ.วิชัย เทียนถาวร อดีตปลัด สธ. ที่ประชุม ป.ป.ช.ก็มีมติเอกฉันท์ 8:0 ยกคำร้อง
ส่วนคณะกรรมการฯ ทั้ง 7 คน ประกอบด้วย นพ.ชาตรี บานชื่น นพ.สมชาย เชื้อเพชระโสภณ นพ.ชาญวิทย์ ทระเทพ นพ.เทียม อังสาชน ดร.วิบูลย์ แสงวีรพันธุ์ศิริ นายชัยเชวง กฤตยาคม และนายวริทธิ์นันท์ จินดาถาวรกิจ ที่ประชุม ป.ป.ช.ก็มีมติยกคำร้องด้วยมติ 5:3
ส่วน นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี อดีตปลัด สธ.ในฐานะประธานกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริกรณีการประกวดราซื้อและติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์ นพ.จรัล ตฤณวุฒิพงษ์ อดีตอธิบดีกรมควบคุมโรคและรักษาการแทนปลัด สธ. และ นพ.บุญเลิศ ลิ้มทองกุล ผู้ตรวจราชการ สธ. ที่ประชุม ป.ป.ช.มีมติให้เลื่อนการพิจารณาไปในการประชุมครั้งต่อไป
-----
