หลักฐานใหม่ลายมือ“ซี 9”อ้างคำสั่ง“อธิบดี” ที่มาปมคืนภาษีฉาว 3.6 พันล้าน
เปิดหลักฐานชิ้นใหม่ลายมือ“ซี 9”เขียนบันทึกถึงลูกน้อง อ้างคำสั่ง“อธิบดี” ก่อนสั่งคืนภาษี 30 บริษัทปริศนา 3.6 พันล้าน ที่มาปมคลิปว่อนเสียงคล้าย“สาธิต รังคสิริ”
ก่อนที่กรมสรรพากรจะคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้ผู้ประกอบการที่จดทะเบียนจัดตั้งในพื้นที่บางรัก กรุงเทพฯ จำนวน 30 บริษัทวงเงิน 3.6 พันล้านบาท นายศุภกิจ ริยะการ สรรพากรพื้นที่กรุงเทพมหานคร 22 ได้มีคำสั่งวันที่ 3 เมษายน 2556 เวียนถึงทุกส่วนและทีมกำกับภาษีโดยแนบบันทึกข้อความรายงานผลการตรวจเยี่ยมของนางชนาทิพย์ วีรสืบพงศ์ รองอธิบดีกรมสรรพากร เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2556 ที่สั่งให้เจ้าหน้าที่ชะลอการคืนภาษีช่วง 6 เดือนภาษีแรกไว้ก่อน แม้ว่าผลการตรวจจะกลับมาก่อนครบ 6 เดือนก็ตาม (อ่านประกอบ: ดูชัดๆบันทึก“รองอธิบดี”ชะลอคืนภาษี 6 เดือน ก่อน“ซี 9”อ้าง“อธิบดี”สั่งลุย)
คำสั่งของนายศุภกิจมีข้อความดังนี้
“ให้ทุกทีมกำกับตรวจความเรียบร้อยของแต่ละสำนวนการตรวจของตนเอง ให้เรียบร้อยตามแนวปฏิบัติของ มก. แต่สำหรับผลการตรวจเยี่ยม ข้อ 3 วรรคท้ายที่ให้ชะลอการคืนภาษี 6 เดือนแรกนั้น เป็นเพียงความเห็นของผู้ตรวจซึ่งเรื่องนี้ท่านอธิบดีได้แจ้งให้ที่ประชุมคราวตรวจเยี่ยม สท.22 ให้คืนได้ทันทีเมื่อผลการตรวจไม่พบประเด็นความผิด โดยไม่จำเป็นต้องรอให้ครบ 6 เดือน”
(ใส่ภาพเอกสาร)
ที่มาของหนังสือของนายศุภกิจมาจากการเดินทางไปให้นโยบายการทำงานต่อเจ้าหน้าที่ระดังสูงของสำนักงานสรรพากรเขตพื้นที่บางรักของนายสาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากร เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2556 ซึ่งเป็นการเดินทางมาให้นโยบาย สท. 22 หลังจาก นางชนาทิพย์ วีรสืบพงศ์ รองอธิบดีกรมสรรพากร เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 255
มีข้อมูลระบุว่า มีการบันทึกเสียงในวันเดินทางมาตรวจเยี่ยมของนายสาธิตเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2556 ไว้ด้วย (อ่านประกอบ:คลิปว่อนกรมสรรพากร เสียงคล้าย“อธิบดี”สั่งการคืนภาษี 3.6 พันล้าน)
ก่อนหน้านี้ นายสาธิต รังคศิริ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวยืนยันกับสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า ในการชี้แจงนโยบายการดำเนินงานของอธิบดีกรมสรรพากร ต่อเจ้าหน้าที่ในช่วงที่เดินทางไปตรวจเยี่ยม สท.22 ได้ระบุชัดเจนว่า บริษัทเอกชนทั้งรายใหม่ จะต้องปฏิบัติเป็นแนวทางเดียวกัน และภายหลังจากที่มีการตรวจสอบข้อมูลบริษัทเอกชนครบ 6 เดือน แล้ว ก็ให้ตรวจสอบข้อมูลประเด็นที่เห็นว่ามีความผิดปกติเพิ่มเติมอีกครั้งจนสิ้นความสงสัย
จากนั้นจะมีการคืนภาษีให้หรือไม่ก็เป็นเรื่องที่ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของหัวหน้าพื้นที่สรรพากรแต่และแห่งตัดสินใจ