รมว.พณ.เล็งถกสุภาเจ๊งจำนำข้าว-ส.โรงสียันไม่ป้องคนผิด
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ "นิวัฒน์ธำรง" เตรียมเชิญ "สุภา" ถกขาดทุนจำนำข้าว ชี้ พบโกงฟันไม่เลี้ยง คาด กำหนดราคากลางประมูลข้าวได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้ ขณะ สมาคมโรงสีข้าว ลั่นไม่ปกป้องโรงสีโกง
นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ดูแลหน่วยงาน ทั้งกระทรวงพาณิชย์ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กรมประชาสัมพันธ์ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าว อาทิ องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) กรมส่งเสริมการเกษตร ซึ่งจะเป็นการทำงานร่วมกับ นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้สำหรับเรื่องการประมูลข้าวเพื่อระบายข้าวในสต๊อก และการกำหนดราคากลาง คาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้ โดยการดำเนินการครั้งนี้ จะเป็นการเปิดประมูลให้กับผู้ค้าขายข้าว ทั้งเพื่อการบริโภคภายในประเทศและส่งออก อีกทั้งอนาคตจะมีการส่งออกข้าวในรูปแบบข้าวนึ่งด้วย
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เตรียมขอข้อมูลโครงการจำนำข้าวกับ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว ที่ออกมายอมรับว่า มีการทุจริตทุกขั้นตอน และมีการขาดทุนจำนวนมาก รวมทั้งอาจจะมีการหารือกัน ซึ่งส่วนตัวยอมรับว่ามีความสนิทสนมกันอยู่แล้ว นอกจากนี้ เตรียมนำเทคโนโลยีเข้ามาร่วมตรวจสอบด้วย และหากพบว่ามีการกระทำผิดจริง จะดำเนินการขั้นเด็ดขาดทันที
นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวเสริมว่า แม้ว่าจะได้รับมอบหมายให้ดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติด้วย แต่เป็นเพียงระดับนโยบายเท่านั้น ซึ่งเรื่องของ หลวงปู่เณรคำ มีข้าราชการที่รับผิดชอบโดยตรงอยู่แล้ว
ส.โรงสียันร่วมโครงการรับจํานําข้าวรัฐบาล
นายมานัส กิจประเสริฐ นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย เปิดเผย สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า โรงสีพร้อมที่จะเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวกับรัฐบาล แม้ว่ารัฐบาลจะมีความเข้มงวดต่อการตรวจสอบการกระทำทุจริตมากขึ้น และมีขั้นตอนของการตรวจสอบสต๊อกข้าวที่ละเอียด ซึ่งทางโรงสีบางแห่งอาจต้องมีการลงทุนในเรื่องของระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อรายงานผลการตรวจสอบและการเคลื่อนย้ายข้าวเพิ่มเติมก็ตาม แต่เชื่อว่าโรงสีพร้อมที่จะลงทุนเพื่อให้ระบบการตรวจสอบการกระทำทุจริตสมบูรณ์ขึ้น และทำให้โรงสีไม่เป็นจำเลยสังคม ในโครงการรับจำนำข้าว ว่า มีส่วนในการกระทำทุจริต ทำให้โครงการไม่สามารถเดินหน้าช่วยเหลือเกษตรกรต่อไปได้ โดยโรงสีพร้อมที่จะสนับสนุนรัฐบาล เอาผิดกับโรงสี ที่มีการกระทำความผิดซ้ำซากอย่างเต็มที่ โดยทางสมาคมจะไม่เข้าไปปกป้องเด็ดขาด เพื่อทำให้ภาพพจน์ของโรงสีดีขึ้น
"วราเทพ"ย้ำลุยเกษตรโซนนิ่ง
นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ในส่วนของกระทรวงเกษตรฯ ส่วนตัวได้ดูงาน 2 กรม 1 รัฐวิสาหกิจ คือ กรมการข้าว กรมส่งเสริมการเกษตร และ อ.ต.ก. ยืนยันไม่ได้มาดูแค่โครงการรับจำนำข้าวเพียงอย่างเดียว เพราะยังต้องดูแลเรื่องเกษตรโซนนิ่ง เพื่อเพิ่มรายได้ ลดต้นทุน และหาพันธุ์พืชที่เหมาะกับการเพาะปลูกในแต่ละพื้นที่ ส่วนเรื่องปุ๋ย อ.ต.ก. ส่วนตัวไม่ทราบว่าปัจจุบันยังมีอยู่หรือไม่ แต่เช้าวันนี้ในเวลา 08.30 น. จะมีการหารือหน่วยงานเรื่องการทำงานร่วมกัน
ทั้งนี้ยืนยันว่า การทำงานร่วมกันกับพรรคชาติไทยพัฒนา ไม่มีปัญหา เพราะได้ร่วมงานมาแล้วตั้งแต่ต้นแล้ว พร้อมทั้งไม่หนักใจที่ต้องมาดูเรื่องการบริหารจัดการข้าวทั้งหมด เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เกิดโอกาส จึงอยากขอบคุณชาวนาที่เข้าใจการบริหารจัดการ และปรับลดราคาจำนำข้าว ซึ่งในฤดูการผลิตหน้า รัฐบาลขอเวลาในการชี้แจงพูดคุยต่อไป และยืนยันว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ของเกษตรกร
'ธวัช'เผยเตรียมสรุปตรวจโกดังข้าวเสนอครม.9ก.ค.นี้
พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า การตรวจสอบโรงสี ตั้งแต่วันที่ 27 มิ.ย. จนถึงปัจจุบัน พบมีปัญหาทั้งหมด 27 จุด เป็นโรงสี 24 จุด ก็ได้สั่งการให้ดำเนินการร้องทุกข์ดำเนินคดีในข้อหายักยอกทรัพย์โรงสีที่มีข้าวสารสูญหายใน 4 จุดคือ ที่ จ.ชัยนาท ปทุมธานี สงขลา และ พัทลุง ทั้งนี้ มีการประสานให้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ และกรมการค้าภายใน เข้าตรวจสอบบัญชีแล้ว อีกทั้งยังได้ไปตรวจสอบโรงสีที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่มีปัญหาอยู่ 11 จุด ซ้ำอีกครั้ง ส่วนโรงสีที่เหลืออีก 12 จุด ได้ให้ ผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้บังคับการจังหวัด ไปตรวจสอบในเอกสารเพิ่มเติม พร้อมทั้งจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ในการตรวจสอบได้สั่งปิดโรงสีและจุดรับจำนำ จำนวน 8 จุด ในกรณีที่มีกองข้าวล้มที่ จ.อุทัยธานี 3 โกดัง ก็ให้ตรวจสอบซ้ำอีกครั้ง และคาดว่า ก็จะสรุปให้ทางคณะกรรมาธิการข้าวแห่งชาติ พิจารณาและเสนอให้ทันในการประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันที่ 9 ก.ค.นี้ ทั้งนี้ ยังคงยึดถือในนโยบายเดิม รวมทั้งจะเร่งดำเนินการให้เสร็จเร็วก่อน 30 วัน ด้วย

