"วราเทพ"แจงรับซื้อข้าวขาดทุน 2.2 แสนล้าน เป็นการนับรวมสามฤดูกาล
นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม ในระหว่างมอบนโยบายให้หน่วยงานภายใต้การกำกับ 3 หน่วยงาน ได้แก่ กรมการข้าว กรมส่งเสริมการเกษตร และองค์การตลาดเพื่อการเกษตร (อ.ต.ก.) ว่า เรื่องที่สำคัญเกี่ยวกับโครงการจำนำข้าวเปลือกรอบที่ 2 ปี 2555/56 ส่วนของกระทรวงเกษตร คือ การขึ้นทะเบียนเกษตรกร และควบคุมจำนวนข้าวเปลือกไม่ให้เกินจำนวนที่คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) กำหนดไว้ที่ 7 ล้านตัน โดยในขณะนี้มีข้าวเข้าโครงการแล้ว 5 ล้านตัน และแม้ว่าในช่วงที่เหลือของปีกรมส่งเสริมการเกษตร คาดการณ์ว่าจะมีผลผลิตที่จากทั่วประเทศอีกประมาณ 3.1-3.2 ล้านตัน แต่เพราะรัฐบาลปิดการขึ้นทะเบียนเกษตรกรไปแล้ว และยังมีกำหนดวงเงินต่อครัวเรือนไม่เกิน 5 แสนบาท ประกอบทุกปีจะมีข้าวเข้าโครงการน้อยกว่าที่ลงทะเบียนไว้เสมอ ในปีนี้จึงเชื่อว่าจะมีเข้าโครงการไม่เกินกรอบที่ กขช.ตั้งไว้ ทั้งนี้ ขอให้ทุกหน่วยงานทำความเข้าใจเรื่องเกณฑ์การรับจำนำใหม่ให้เกษตรกรรับทราบด้วย
นายวราเทพกล่าวอีกว่า โครงการจำนำข้าวมีหลายขั้นตอนจึงอาจมีช่องโหว่ให้ผู้ที่ตั้งใจแสวงหาประโยชน์ ดังนั้น ในโอกาสที่โครงการอยู่ในระหว่างเปลี่ยนผ่านจะทำให้พูดคุยกับเกษตรกร เจ้าหน้าที่ และผู้ประกอบการได้ชัดเจนขึ้น ซึ่งอดีตมีการห้ามไม่ให้ทุจริตแต่ไม่เกิดผล เพราะทุกคนคิดว่าเป็นเรื่องปกติ เป็นเรื่องเล็กน้อย ผู้บริหารต้องส่งสัญญาณลงไปให้ชัดเจนว่าจะแสวงประโยชน์แบบเดิมไม่ได้แล้ว
"ทุกกระทรวงก็ต้องทำงานให้หนัก ตามนโยบายของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่จะใช้วิกฤตในครั้งนี้เปลี่ยนแปลงการทำงานให้มีประสิทธิภาพ โดยภายใน 2-3 เดือนนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงการทำงานอย่างเป็นรูปธรรม" นายวราเทพกล่าว
จากนั้น นายวราเทพให้สัมภาษณ์ภายหลังการมอบนโยบายว่า ตัวเลขที่คณะอนุกรรมการปิดบัญชีสินค้าเกษตรที่ระบุว่า โครงการจำนำข้าวขาดทุน 2.2 แสนล้านบาทนั้น เป็นการรวมโครงการรับจำนำข้าว 3 ฤดูกาล คือฤดูกาลผลิต 54/55 ฤดูกาลผลิต 55 และฤดูกาลผลิต 55/56 ซึ่งหากรวมการขาดทุน 2 โครงการแรกจะขาดทุนที่ 1.36 แสนล้านบาท ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ยุติในเบื้องต้นแล้ว ขณะที่ตัวเลขขาดทุนปี 55/56 นั้นคณะอนุกรรมการปิดบัญชีฯ ยังไม่ได้รวมข้าวสารในสต๊อกที่ อ.ต.ก.และองค์การคลังสินค้า (อคส.) ระบุว่า มีข้าวอีก 2 ล้านตันข้าวสาร ซึ่งคณะอนุกรรมการปิดบัญชีได้ยอมรับว่า หากรวมข้าวสารอีก 2 ล้านตัน โครงการจะขาดทุนลดลง ดังนั้น ตัวเลขขาดทุนที่ 2.2 แสนล้านบาทนั้นจึงไม่เป็นที่สรุป และยังไม่ได้รับรองจากหน่วยงาน ส่วนข้อมูลการขาดทุนที่แน่ชัดนั้น จะได้ข้อสรุปภายใน 2 สัปดาห์นี้
ขอบคุณข่าวจาก

