ถกจริยธรรมสังคมไทย ‘ป.ป.ช.’ แนะต้องมี ‘หิริโอตัปปะ’ ป้องกันคอร์รัปชั่นได้
เวทีถกจริยธรรมสังคมไทย ‘ป.ป.ช.’ แนะคนไทยต้องมี ‘หิริโอตัปปะ’ เชื่อมั่นป้องกันคอร์รัปชั่นได้ กสม.ชี้หลายคนไม่เข้าใจความหมาย ‘จริยธรรม’ เหตุขาดต้นแบบที่ดี เล็งหนุนรางวัลคุณธรรมดีเด่น
เมื่อวันที่ 4 ก.ค. 56 ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย มีการจัดงานครบรอบ 16 ปี สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ โดยในเวทีสนทนากลุ่ม ‘จริยธรรมในสังคมไทย’ ศ.พิเศษ วิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวว่า การป้องกันและปราบปรามการทุจริตจะเข้มแข็งและประสบความสำเร็จจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากสื่อมวลชน ถ้าไม่มีการเผยแพร่ข่าวสารให้สาธารณชนรับรู้ บ้านเมืองอาจตกอยู่ในภาวะตาบอด และจะถูกจารึกในประวัติศาสตร์ว่าสาเหตุของเรื่องที่จมปลักนั้น สื่อมวลชนมีส่วนให้มีการทำลายคุณธรรมขึ้น
“จริยธรรมที่บกพร่อง คือ ความกล้าหาญในวิชาชีพ ท่านต้องมีความรอบรู้ในวิชาชีพต้องมีอยู่อย่างแท้จริง เช่น พระต้องมีความรอบรู้ในหลักคำธรรมสอน ถ้าไม่มีความรอบรู้จะแสดงความกล้าหาญได้อย่างไร” กรรมการป.ป.ช. กล่าว และว่า ฉะนั้นสื่อมวลชนต้องสร้างหิริโอตับปะให้เกิดขึ้นในจิตใจด้วย นั่นคือ ความละอายและเกรงกลัวต่อบาป เพื่อป้องกันการคอร์รัปชั่น เพราะเราคงอยู่เฉยให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ได้ แม้ปัจจุบันชนเผ่าไทยเฉยจะมีมากที่สุดก็ตาม แต่เชื่อว่า หากมีการผนึกกำลังกันจะสร้างพลพรรคได้
ด้านนายสีมา สีมานันท์ ประธานอนุกรรมการวิสามัญส่งเสริมจริยธรรมเพื่อราชการใสสะอาด กล่าวถึงสังคมไทยจำเป็นต้องส่งเสริมให้เกิดความรับผิดชอบต่อสังคม และเคารพในกฎหมาย นอกจากนี้ต้องรณรงค์ให้ทุกคนลุกขึ้นพูด เมื่อพบเห็นเหตุการณ์ไม่ถูกต้อง เพื่อป้องกันการคอร์รัปชั่นที่อาจเกิดขึ้นได้
ส่วนศ.ดร.อมรา พงศาพิชญ์ ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) กล่าวว่า สังคมไทยกำลังเกิดความสับสนในความหมายของ ‘จริยธรรม’ จึงจำเป็นต้องยึดหลักเกณฑ์พิจารณา คือ จะต้องไม่ผิดกฎหมาย ศีลธรรม และไม่กระทบต่อผลประโยชน์ชาติ นอกจากนี้เรากำลังขาดผู้มีแบบอย่างทางจริยธรรมที่ดี ดังนั้นควรเริ่มต้นส่งเสริมจากการมอบรางวัลบุคคลดีเด่นแห่งปีด้านจริยธรรม และขยายผลสู่การสร้างคนให้รู้จักความถูกต้องและชอบธรรมสังคมให้ได้ต่อไป
ขณะที่นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ กล่าวว่า ตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 ต่างชาติวัดความเก่งของคนด้วยความฉลาดทางสติปัญญา (ไอคิว) ต่อมาศตวรรษที่ 20 เริ่มให้ความสำคัญกับความฉลาดทางอารมณ์ (อีคิว) ซึ่งคนไทยให้ความสำคัญที่จะส่งเสริมให้บุตรหลานเรียนเก่ง หากแต่ยังขาดเรื่องความฉลาดทางจริยธรรม (เอ็มคิว) ที่เด็กไทยยังไม่ได้รับการศึกษา จึงทำให้ปัจจุบันมีคนเก่งที่ขาดคุณธรรมจริยธรรมอยู่มาก
สำหรับสื่อมวลชนไทย นายเดชอุดม กล่าวว่า มีการกำกับดูแลกันเองภายใต้ธรรมนูญที่ร่างขึ้น โดยเป็นระบบความสมัครใจที่เขียนขึ้นเพื่อลงโทษตนเอง ดังนั้นหากไม่มีความเคารพในกลไกดังกล่าวจำเป็นต้องเร่งพิจารณาใหม่ และแม้จะมีกฎหมายที่ดีเพียงใด หากเปิดช่องให้คนไม่ดีเข้ามาบริหาร สังคมก็ยากจะสงบสุข.
