รอมฎอนเริ่ม 10 ก.ค. ใต้ยังป่วนบึ้มทหารเจ็บ 8
จุฬาราชมนตรี ประกาศกำหนดวันที่ 1 เดือนรอมฎอนปีนี้ตรงกับวันที่ 10 ก.ค. หลังไม่มีใครเห็นดวงจันทร์ตามที่ประกาศให้ดูเมื่อดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า 8 ก.ค. คนสามจังหวัดใต้แห่ไปที่หอชมดวงจันทร์ อ.ยะหา แน่นขนัด สถานการณ์ในพื้นที่ยังระอุ ดักบึ้มรถยีเอ็มซีของทหารที่มายอ ปัตตานี กำลังพลบาดเจ็บ 8 นาย

นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี ได้ออกประกาศจุฬาราชมนตรี เรื่อง กำหนดวันที่ 1 ของเดือนรอมฎอน ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1434 ความว่า ตามที่ได้ประกาศให้พี่น้องชาวไทยมุสลิมทั่วประเทศดูดวงจันทร์เพื่อกำหนดวันที่ 1 ของเดือนรอมฎอน ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1434 ในวันจันทร์ที่ 8 ก.ค.2556 เวลาหลังดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้านั้น ปรากฏว่าในวันและเวลาดังกล่าวไม่มีผู้เห็นดวงจันทร์ จึงประกาศว่า วันที่ 1 ของเดือนรอมฎอน ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1434 ตรงกับวันพุธที่ 10 ก.ค.2556
ช่วงเย็นของวันจันทร์ที่ 8 ก.ค.พี่น้องมุสลิมในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ไปรอดูดวงจันทร์ตามประกาศของสำนักจุฬาราชมนตรี โดยเฉพาะที่หอชมดวงจันทร์บ้านบูเก๊ะปาเระ ตั้งอยู่บนเนินเขาด้านหลังโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชยะหา อ.ยะหา จ.ยะลา มีพี่น้องมุสลิมจำนวนนับพันคนขึ้นไปรอดูดวงจันทร์กันอย่างเนืองแน่น ก่อนจะกลับลงมาในช่วงค่ำหลังจากไม่มีใครเห็นดวงจันทร์
บึ้มรถบรรทุกของทหาร-กำลังพลเจ็บ 8 นาย
สำหรับสถานการณ์ในพื้นที่ตลอดวันจันทร์ที่ 8 ก.ค.ยังคงมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 09.00 น. พ.ต.อ.กองอรรถ สุวรรณขำ ผู้กำกับการ สภ.มายอ จ.ปัตตานี รับแจ้งเหตุระเบิดบนถนนในหมู่บ้านราวอ หมู่ 4 ต.กระหวะ จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยทหารและฝ่ายปกครอง
ในที่เกิดเหตุพบหลุมระเบิดขนาดใหญ่เต็มถนน กว้างประมาณ 3 เมตร ลึก 1 เมตร มีเศษซากระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ถังแก๊สกระจายเกลื่อน ห่างออกไปพบรถบรรทุกยีเอ็มซีของทหารกระเด็นตกไปอยู่ในนาข้าวข้างทาง สภาพรถด้านหน้าพังยับ มีกำลังพลได้รับบาดเจ็บ 8 นาย จึงรีบลำเลียงส่งโรงพยาบาลมายอ รายชื่อผู้บาดเจ็บประกอบด้วย
1) ส.อ.อดิพงษ์ รักวงศ์ อาการสาหัส 2) ส.อ.สุรัช ผลพิบูลย์ 3) พลทหารชาญชัย ราชพล
4) พลทหารอาทิตย์ รัชตพันธ์ 5) พลทหารเอกสิทธิ์ เนียมแทน 6) พลทหารนภดล ชายคีรี
7) พลทหารฮาริฟ ทรงอนงค์ และ 8) พลทหารทศพล สำนักพงษ์ โดยทั้งหมดได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
สอบสวนทราบว่า ทหารชุดดังกล่าวสังกัดกองร้อยทหารราบที่ 15331 (ร้อย ร.15331) หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 25 ก่อนเกิดเหตุกำลังพลทั้ง 8 นายได้ออกลาดตระเวนเส้นทางเพื่อดูแลความปลอดภัยครู โดยใช้รถยีเอ็มซีเป็นพาหนะ มี ส.อ.อดิพงษ์ เป็นพลขับ เมื่อเสร็จภารกิจแล้วได้เดินทางกลับฐานซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุราว 1 กิโลเมตร โดยมีกำลังพลเดินเท้าตามมาห่างๆ อีก 6 นาย จังหวะนั้นคนร้ายได้ใช้วิทยุสื่อสารกดจุดชนวนระเบิดแสวงเครื่องที่บรรจุในถังแก๊ส คาดว่าน้ำหนักประมาณ 70 กิโลกรัมที่ฝังไว้ใต้ผิวถนน โชคดีที่ระเบิดทำงานเร็ว แรงระเบิดอัดเข้าที่ตอนหน้าของตัวรถ ทำให้รถยีเอ็มซีกระเด็นตกข้างทาง และมีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงซ้ำ จนเกิดการยิงปะทะกันกับทหารราว 5 นาที ก่อนที่คนร้ายจะล่าถอยไป ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
มีรายงานว่ารถบรรทุกยีเอ็มซีของทหารมีน้ำหนักถึง 2.5 ตัน ใหญ่กว่ารถยูนิม็อกที่ถูกคนร้ายลอบวางระเบิดที่ อ.กรงปีนัง จ.ยะลา จนทหารเสียชีวิต 8 นายเมื่อวันเสาร์ที่ 29 มิ.ย.2556 จึงมีการประเมินกันว่าหากกำลังพลชุดนี้ใช้รถยูนิม็อก หรือแรงระเบิดอัดใส่ช่วงกลางของตัวรถ อาจเกิดโศกนาฏกรรมซ้ำรอยที่ อ.กรงปินัง ได้

ยิงรายวันยังเพียบ-วันเดียวดับ 1 เจ็บ 1
ก่อนหน้านั้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 ก.ค. เวลา 08.00 น. ขณะที่ นายสมชาย ไชยนุ้ย อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55 บ้านนาเกตุ หมู่ 1 ต.นาเกตุ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี กำลังขี่รถจักรยานยนต์อยู่บนถนนสายชนบท ท้องที่บ้านคลองช้าง หมู่ 4 ต.นาเกตุ หลังเสร็จงานในสวนยางพาราและเตรียมนำน้ำยางไปขาย ระหว่างทางถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนพกขนาด 9 มม.ยิงใส่ ทำให้นายสมชายเสียชีวิตคาที่ หลังก่อเหตุคนร้ายได้ชิงอาวุธปืนพกขนาด 9 มม.ของญาตินายสมชาย พร้อมโทรศัพท์มือถือหลบหนีไปด้วย เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ส่วนที่ อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส เวลาประมาณ 18.55 น. คนร้าย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบยิง นายอุสมาน ดือราแม อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 117 บ้านไอร์ตืองอ หมู่ 5 ต.ศรีสาคร ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดขณะที่นายอุสมานกำลังขี่รถจักรยานยนต์อยู่บนถนนหน้ามัสยิดบ้านไอร์ตืองอ มุ่งหน้ากลับบ้านหลังประกอบพิธีละหมาด เบื้องต้นตำรวจยังไมสรุปสาเหตุการลอบยิง
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 พี่น้องมุสลิมขึ้นไปดูดวงจันทร์ที่หอชมดวงจันทร์ อ.ยะหา จ.ยะลา อย่างเนืองแน่น
2 สภาพรถยีเอ็มซีที่ถูกดักระเบิดที่ อ.มายอ จ.ปัตตานี
