ดูชัดๆ เหตุผล & อำนาจ "เฟซบุ๊ก" สั่งแบนเพจ เด็ก ม. 6 อุบล - เสียหายนับล้านบาท
ดูชัดๆ เหตุผลเฟซบุ๊ก สั่งแบนเพจ เด็ก ม. 6 อุบล เสียหายนับล้านบาท กับความเขี้ยว ของ "คนไทย & "มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก" ใครสุดๆ กว่ากัน?
ยังคงเป็นเรื่องค้างคาใจใครหลายคนในสังคม ต่อกับกรณีที่ "เฟซบุ๊ก" ออกคำสั่งแบน เพจ ทั้ง 9 แห่ง ของ เด็ก มัธยมชั้นปีที่ 6 จ.อุบลราชธานี ที่นำมาประกาศไว้ในเว็บไซต์ขายสินค้าแห่งหนึ่ง เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
คำถามที่น่าสนใจ คือ เด็ก ม.6 รายนี้ และกลุ่มแฟนแอดมิน ทำผิดกฎเงื่อนไขสำคัญอะไร ของ เฟซบุ๊ก ถึงทำให้ถูกสั่งโทษแบน "แบบจัดหนัก-จัดเต็ม" ในครั้งนี้
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลในเว็บ "Faceblog.in.th" พบว่า ล่าสุดมีการนำเสนอบทความเกี่ยวกับกรณี เฟซบุ๊ก สั่งแบน เพจทั้ง 9 แห่ง
โดยใช้ชื่อเรื่อง ว่า “กรณีศึกษา Fanpage นี้มีไว้ขาย?”
มีเนื้อหาน่าสนใจดังนี้
-----------
เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ที่ผ่านมา หลายๆ คนอาจจะได้ทราบข่าวเรื่องของเด็กคนหนึ่งที่ทำ Facebook FanPage แล้วเรียก Like จากผู้ใช้มากมาย แต่ละเพจมีคนกด Like มากกว่า 1 แสนคน
จากนั้นก็ทำการประกาศขายให้กับคนที่สนใจตั้งแต่ 30,000 บาทจนถึง 50,000 บาท
เวลาต่อมา Facebook ทำการแบนเพจเหล่านั้นทั้งหมด
ซึ่งเด็กคนนั้นก็บอกว่า เค้าไม่ได้ทำอะไรผิด เพราะเค้าแค่ดูแลมันไม่ไหวเพราะเพจเยอะเกินไปก็เลยอยากนำไปขาย
Faceblog.in.th เลยอยากจะวิเคราะห์ให้กันว่า การขาย Facebook Fanpage เป็นเรื่องผิดหรือไม่ แล้วทำไมเด็กคนนี้ถึงโดนแบนเพจทั้งหมด
ถ้ายังจำกันได้ เราเคยวิเคราะห์เรื่อง [กรณีศึกษา] เปลี่ยนข้อความให้เป็นภาพ = Like ? ออกมา ซึ่งเรายังคงเจตนารมณ์เดิมว่า Fanpage ที่มีชื่อกิ๊กก๊อกๆ แต่มี Like มากมายก่ายกองจะเกิดจากการนำคำคมบ้างละ คลิปบ้างละ มาโพสต์ลง Fanpage ของตัวเอง แล้วเมื่อมีคนมาก็เห็นก็จะกด Like กด Share จนทำให้มียอดมากมาย ซึ่งถามว่าเนื้อหาภายใน Fanpage ของตนเองนั้น เกิดจากการสร้างด้วยตัวเองหรือไม่
คำตอบ คือ ไม่เชิงครับ เพราะรูปแบบหรือการออกแบบพื้นหลัง โอเค อันนี้ยอมรับว่าหลายๆ เพจอาจจะทำเอง แต่ข้อความคำคมทุกอย่าง มันเป็นเรื่องที่วนเวียนกันภายใน Facebook
คุณอาจจะเข้าเพจนี้เจอข้อความแบบนี้
แต่พอเข้าไปอีกเพจก็เจอข้อความแบบเดียวกันแต่คนละพื้นหลัง ฉะนั้น มันก็เป็นวัฏจักรของคนขี้ก๊อปวนเวียนกันไปแบบนี้แหละครับ (กลุ่มแอดมิน เด็กม.6 ยืนยันว่าเป็นคนผลิตข้อความขึ้นเอง ก่อนจะกระจายไปตามเพจในกลุ่ม ไม่ได้ไปลอกใครมา และมีการให้เครดิตทุกครั้ง)
แล้วการขาย Fanpage เป็นเรื่องผิดหรือไม่?
ไม่ผิดครับ แต่เมื่อไปอ่าน Statement of Rights and Responsibilities ของ Facebook ในหัวข้อที่ 4 หัวข้อย่อยที่ 9 พบว่า
9. You will not transfer your account (including any Page or application you administer) to anyone without first getting our written permission.
(ขอบคุณข้อมูลจากคุณ "Ake Osothongs")
ถึงถ้าหากแปลเป็นไทยจะได้ว่า “คุณไม่สามารถโอนย้ายบัญชีของคุณ (รวมถึงเพจและแอพฯ ต่างๆ ที่คุณเป็นผู้ดูแลอยู่) ให้กับคนอื่นโดยไม่ได้รับการอนุญาตอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรจากทาง Facebook ก่อน” มันก็เรื่องกลายเป็นเรื่องขัดกันไปโดยปริยาย
ทำไม Fanpage ของเด็กคนนั้นโดนแบนทั้งหมด?
จากการวิเคราะห์คิดว่า พอมันเป็นข่าวขึ้นมา Facebook ก็คงจะทำการตรวจสอบแล้วพอพบว่าเจ้าของเพจต้องการขายให้คนอื่นโดยไม่ผ่านการอนุญาตของตน ก็เลยทำให้เค้าจำเป็นต้องแบนเพจทั้งหมดไปเพราะขัดกับเจ้าข้อตกลงข้างบน ทั้งนี้การอ้างว่า Like ที่ได้ทั้งหมดเป็นของจริงๆ ไม่ได้ใช้อะไรโกง ไม่สามารถเอามาแก้ตัวกับข้อนี้ได้อย่างแน่นอน
แหล่งข่าวในวงการผู้จัดทำแฟนเพจเฟซบุ๊กเพื่อจำหน่ายต่อ กล่าวยืนยัน สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า แม้เฟซบุ๊ก จะออกกฎข้อห้ามเรื่องการเปลี่ยนมือเฟซบุ๊กไว้ แต่ความเป็นจริงมันไม่สามารถป้องกันอะไรได้มาก เพราะรูปแบบการซื้อขายเปลี่ยนมือเพจในเมืองไทยที่นิยมทำกันอยู่ ใช้วิธีการตั้งแต่งบุคคลที่เข้ามาซื้อเพจ ให้เป็นแอดมินร่วม หรือผู้ดูแลงานในตำแหน่งอื่น ซึ่งมีมากกว่า 4 ตำแหน่ง
มีน้อยมากที่จะใช้วิธีการเปลี่ยนแปลงชื่อผู้ดูแลในทันที
ด้วยเหตุผลนี้ จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไร ที่การขายเพจ จะทำกันมานานแล้ว หลายคนตั้งหลักตั้งตัวได้จากการขายเพจ จนกระทั่งหันมาประกอบอาชีพนี้โดยตรงเลยก็มี
แหล่งข่าวรายนี้ ยังย้ำว่า ส่วนกรณีที่เฟซบุ๊คออกคำสั่งแบบเพจในกลุ่ม เด็ก ม.6 ครั้งนี้ จำนวนเกือบ 100 เพจ แทนที่จะแบนแค่ 9 เพจ ที่มีการนำมาประกาศขาย
เข้าใจว่าคำสั่งที่ออกมา ไม่ใช่การสั่งแบนเฉพาะแค่เพจ แต่เป็นการสั่งแบนโปรไฟล์แอดมิน ที่มีชื่อดูแลเพจ
ซึ่งในวงการรับรู้กันดีว่า เป็นโทษที่ร้ายแรงมาก!!
“ การสั่งแบนโปรไฟล์แอดมิน ถือเป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะไม่ว่าแอดมินที่ถูกสั่งแบน จะไปปรากฏชื่อในเพจไหน มีส่วนร่วมมากน้อยแค่ไหน เพจทั้งหมดก็จะถูกแบนในทันที โทษต่างจากการถูกแบนแค่เพจ เพราะเพจไหนที่ถูกแบน ก็จะหายไปแค่เพจนั้น แต่เพจอื่นยังคงอยู่”
“คิดว่าข้อมูลที่มีการส่งเรื่องร้องเรียนไปยังเฟซบุ๊ก จะต้องเป็นข้อหาหนักอย่างแน่นอน แอดมินกลุ่มนี้ น่าจะมีคนไม่ชอบ หรือมีคู่แข่งอยู่เยอะก็เป็นไปได้”
แหล่งข่าวรายนี้ ยังอธิบายลักษณะของสาเหตุที่ทำให้เฟซบุ๊ก สั่งแบนโปรไฟล์แอดมิน เพจได้ ว่า มีหลายเรื่อง เช่นการประกาศขายเพจ เพื่อประโยชน์ด้านธุรกิจ ซึ่งเฟซบุ๊กไม่ให้ทำ การลงข้อความในลักษณะที่เป็นการหลอกลวงเพื่ออื่น เพื่อสร้างประโยชน์ให้กับตนเอง เช่น การลงรูปภาพผู้หญิง และให้ตอบคำถามเพื่อแลกกับการดูหน้าอกเปลือย หลังหลอกเอาไลค์เป็นต้น
เมื่อถามว่า โดยปกติแอดมิน ที่ถูกแบบเพจหรือโปรไฟล์ มีใครที่ได้ทำเรื่องขอคืนเพจไปที่เฟซบุ๊ก แล้วได้คืนหรือไม่
แหล่งข่าวรายนี้ ตอบว่า ก็เคยมีเหมือนกัน แต่ต้องใช้เวลานั้นมาก และยากมาก แถมเสียค่าใช้จ่ายไม่ใช่น้อย แค่ค่าส่งข้อความไปหา "มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก" ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊กก็ตกครั้งละประมาณ 100 เหรียญสหรัฐแล้ว ซึ่งหลายคนก็มองว่ามันคุ้ม เมื่อนำมาเทียบกับ ระยะเวลาในการทำเพจ รวมถึงจำนวนยอดไลค์ ที่มีมากกว่าหลักแสนไลค์ขึ้นไป
“ เราก็เคยถูกแบนเพจเหมือนกัน ตอนแรกก็คิดว่าจะส่งข้อความไปหา พี่มาร์คเหมือนกัน กำลังจะส่งอยู่แล้ว แต่มาคิดอีกที เราไม่จำเป็นต้องทำอะไรขนาดนั้น เพราะเพจมันสร้างกันง่าย ก็เลยตัดสินใจไม่ส่งข้อความไป ส่วนเรื่องการถูกแบนโปร์ไฟล์ เท่าที่ทราบ เขาจะใช้วิธีการไปตั้งอีเมลใหม่ หรือเอาชื่อบุคคลอื่นมาใช้ ก็สามารถสมัครใหม่ได้แล้ว เพราะเฟซบุ๊ก จะแบนแค่โปรไฟล์เดิม บางคนใช้ชื่อนาม-สุกล เดิม แต่เปลี่ยนอีเมล์ ใหม่ก็สามารถสมัครได้แล้ว”
แหล่งข่าวรายนี้ ยังกล่าวต่อไปว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้เรื่องการประกาศขายเพจของแอดมินกลุ่มเด็ก ม.6 กลายเป็นจุดสนใจมาก และสั่งแบนได้ง่าย เป็นเพราะนอกจากการประกาศขายเพจจำนวนมากพร้อมกันแล้ว การลงข้อความในประกาศยังมีการระบุรายละเอียดเพจไว้ครบถ้วน ซึ่งเรื่องแบบนี้ไม่ค่อยมีใครเขาทำกัน ส่วนใหญ่เขาจะให้ข้อมูลกันนิดหน่อย
ส่วนรายละเอียดไปคุยกันที่หลังบ้านอีกครั้ง
แหล่งข่าวรายนี้ ยังให้ข้อมูลด้วยว่า นอกเหนือจากการประกาศขายเพจโดยตรงแล้ว การเปิดให้เช่าเพจ ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่ง ที่มีคนทำกัน คิดราคาเช่าตามจำนวนยอดไลค์ ระยะเวลาเช่า จำนวนข้อความที่จะนำมาโพสต์ด้วย ซึ่งสามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้กับเจ้าของเพจ โดยที่ไม่ต้องขายเพจของตนเองไปให้บุคคลอื่น
“ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าแอดมิน กลุ่มเด็ก ม. 6 จะได้เพจคืนมาหรือเปล่า แต่ฟันธงได้เลยว่า เป็นเรื่องที่ยากมาก ไม่ทางได้คืนหรอก เพราะเท่าที่ดูข้อร้องเรียนที่แจ้งไปยังเฟซบุ๊กน่าจะเป็นข้อกล่าวหาที่รุนแรงมาก จับมือใครดมไม่ได้ และไม่รู้ว่าข้อร้องเรียนที่ยื่นเรื่องไป ทางเฟซบุ๊กจะรับฟังหรือเปล่า ดูแล้วมันยากมากๆที่จะเอาเพจกลับคืนมาได้"
-----
อ่านประกอบ
แอดมิน กลุ่ม เด็ก ม. 6 อุบล ถูกลูกหลง เฟซบุ๊กสั่งแบนเกือบ 100 เพจ -สูญนับล้าน
พบอีกเพียบ !! ประกาศขายแฟนเพจ มือสอง- ผู้ขายระบุราคาดีกว่า “ทอง”
ด่วน!! เฟซบุ๊ก สั่งแบน เพจ เด็ก ม. 6 อุบล ที่นำออกมาประกาศขายแล้ว
ฮือฮา!! เด็ก ม.6 อุบล ประกาศขายแฟนเพจ พร้อมยอดไลค์ ตั้งราคาสูงครึ่งแสน
