แกะรอย อำนาจ “อย.” แบนชิงโชคใต้ฝาเครื่องดื่มชูกำลัง ทำได้ หรือไม่ (กล้า)ทำ?
แกะรอย อำนาจ “อย.” สั่งแบนแคมเปญชิงโชคใต้ฝาเครื่องดื่มชูกำลัง 4 ยักษ์ใหญ่ ไม่มีช่องทาง ทำได้ หรือไม่ (กล้า)ทำ?

กรณี คณะกรรมการกฤษฎีกา มีความเห็นข้อกฎหมาย “ฟันธง” ว่า การโฆษณาส่งเสริมการขายโดยการระบุข้อความใต้ฝาของเครื่องดื่มที่ผสมกาเฟอีน ไม่ถือเป็นการเข้าข่ายจัดเป็นการแสดงข้อความบนฉลากของภาชนะบรรจุ ตามที่ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ทำเรื่องขอความเห็นไป
โดยให้ระบุเหตุผลว่า “ เครื่องดื่มที่ผสมกาเฟอีน มีการขึ้นทะเบียนตำรับอาหารและแจ้งรายการหรือรายละเอียดฉลากไว้ถูกต้องแล้วตามมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 แม้ต่อมาได้มีการแสดงข้อความเป็นนัยให้มีการชิงโชคระบุรางวัลไว้ที่ใต้ฝาหรือจุกขวดเครื่องดื่มที่ผสมกาเฟอีน แต่ข้อความที่ระบุรางวัลไว้ที่ใต้ฝาหรือจุกขวดนั้น ไม่ได้เกี่ยวกับรายการอาหารและรายการทะเบียนตำรับอาหาร ไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อควบคุมคุณภาพอาหาร หรือเพื่อคุ้มครองความปลอดภัยของผู้บริโภค รวมทั้งใต้ฝาหรือจุกขวดไม่ใช่ที่ที่เปิดเผย ไม่มีลักษณะมองเห็นได้ชัดเจนและไม่สามารถอ่านได้ง่าย
ดังนั้น จึงเห็นว่าการแสดงข้อความตามที่หารือนี้ไม่เข้าข่ายเป็นการแก้ไขรายการทะเบียนตำรับอาหารอันจะต้องได้รับอนุญาตจากผู้อนุญาตตามมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 และมิใช่การแสดงข้อความฉลากตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 194 พ.ศ. 2543เรื่อง ฉลาก ลงวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2543
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้ทำการสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับแนวทางและการควบคุมดูแล เครื่องดื่มผสมกาเฟอีน ของ อย. พบว่า กองพัฒนาศักยภาพผู้บริโภค สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข เคยเผยแพร่ข้อมูลหลักเกณฑ์ควบคุมเครื่องดื่มผสมกาเฟอีน ไว้ชัดเจน ว่า
“ เครื่องดื่มที่ผสมกาเฟอีนในปัจจุบันมีการแข่งขันด้านโฆษณาสูง เพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับประโยชน์จากข้อมูลข่าวสารที่มากับโฆษณา จะได้ไม่เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาจึงได้ออก เรื่อง หลักเกณฑ์การโฆษณาเครื่องดื่มที่ผสมกาเฟอีนดังนี้
1. การโฆษณาเครื่องดื่มที่ผสมกาเฟอีน ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขดังต่อไปนี้
1.1 ให้แสดงคำเตือน “ไม่ควรดื่มเกินวันละ 2 ขวด เด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรดื่ม” ดังนี้
-สื่อสิ่งพิมพ์แสดงคำเตือนในข้อความโฆษณาด้วยตัวอักษรขนาดและสีที่อ่านได้ชัดเจน
-สื่อวิทยุกระจายเสียง แสดงคำเตือนในส่วนเสียงโฆษณาฟังได้ชัดเจนทุกพยางค์
-สื่อวิทยุโทรทัศน์ทางฉายภาพ และภาพยนตร์แสดงคำเตือนในส่วนเสียงโฆษณาฟังได้ชัดเจนทุกพยางค์หรือเป็นอักษรลอย (Super) เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 5 วินาทีข้อความคำเตือนต้องแสดงด้วยตัวอักษรที่มีสีรูปแบบ และขนาด ที่อ่านได้ง่าย ชัดเจน ทั้งนี้ขนาดความสูงของตัวอักษรที่ปรากฏบนจอภาพต้องไม่น้อยกว่า 1 ส่วน ใน 25 ส่วน ของขนาดความสูงจอภาพ โดยมีขนาดความกว้างตัวอักษรความหนา และช่องว่างระหว่างตัวอักษรที่เหมาะสมกับขนาดความสูงด้วย
1.2 ต้องไม่ทำให้เข้าใจว่าดื่มแล้วเพิ่มกำลังงาน มีพลัง ทำงานได้มากขึ้น โดยไม่รู้จักเหนื่อย ตื่นทันทีไม่ง่วงนอน ตื่นอยู่ตลอดเวลา หรือทำให้ประสบความสำเร็จทางเพศ
1.3 ต้องไม่ใช้นักกีฬา หรือผู้ใช้แรงงาน เป็นผู้แสดงแบบโฆษณา
2. การโฆษณาเครื่องดื่มที่ผสมกาเฟอีน ดังต่อไปนี้เป็นข้อตกลงที่ได้รับความเห็นชอบร่วมกันระหว่างสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาและผู้ประกอบการ
2.1 จะไม่ชักจูงหรือโน้มน้าวให้ซื้อหรือบริโภค เพื่อนำรายได้ไปบริจาคเป็นสาธารณกุศล
2.2 ต้องไม่โฆษณาในลักษณะการแถมพก หรือให้รางวัลด้วยการเสี่ยงโชค หรือมีการให้ของแถม
3. การโฆษณาเครื่องดื่มที่ผสมกาเฟอีน นอกจากต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ.2522 แล้วยังต้องปฏิบัติตามกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย เช่น พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 พระราชบัญญัติวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์พ.ศ.2498
4. การโฆษณาเครื่องดื่มที่ผสมกาเฟอีนที่ฝ่าฝืนหลักเกณฑ์ดังกล่าวข้างต้น เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยามีสิทธิสั่งให้แก้ไข หรือยกเลิกการโฆษณานั้น ๆ ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบพบว่า รูปแบบการจัดแคมเปญส่งเสริมยอดขายของเครื่องดื่ม ชูกำลัง ที่ผู้ประกอบการหลายแห่ง นำมาใช้กัน ส่วนใหญ่ จะเป็นการ จัดชิงโชคใต้ฝา อาทิ รายการ "ลุ้นโชคใต้ฝา 500 ล้าน กับเอ็ม-150" ของบริษัท โอสถสภา จำกัด , รายการ "รวย 100 ล้านกับบาวแดง" ของบริษัท คาราบาวตะวันแดง จำกัด , รายการ "ฝาแรงมอบโชค" ของบริษัท เครื่องดื่มแรงเยอร์ จำกัด และ รายการ "เป้าหมายคว้ากระทิง" และ "พลิกฝาคว้ากระทิง" ของ บริษัท เครื่องดื่ม กระทิงแดง จำกัด
อาจจะมีลักษณะเข้าข่ายตามข้อกำหนด ที่ อย.ไว้ในเรื่อง การให้รางวัลด้วยการเสี่ยงโชค หรือมีการให้ของแถม ซึ่งเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยามีสิทธิสั่งให้แก้ไข หรือยกเลิกการโฆษณานั้น ๆ ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ผู้บริหารระดับสูงเครื่องดื่มชูกำลัง เคยให้สัมภาษณ์ ฐานเศรษฐกิจ ชี้แจงเรื่องการทำโฆษณาสินค้าด้วยการเสี่ยงโชคใต้ฝาไว้
โดย นายเสถียร เศรษฐสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คาราบาวตะวันแดง จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มชูกำลัง ภายใต้แบรนด์ คาราบาวแดง กล่าวว่า การออกแคมเปญ "รวย 100 ล้าน กับบาวแดง" นั้นได้รับการอนุญาตอย่างถูกกฎหมายจากกระทรวงมหาดไทยแล้ว
"ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังถือเป็นตลาดที่ใหญ่ และหากผู้ประกอบการไม่ออกมาทำแคมเปญหรือกิจกรรมการตลาดที่ต่อเนื่อง อาจทำให้สินค้าต่างๆที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกันออกมาแย่งแชร์ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังได้ ซึ่งยอมรับว่าแต่ก่อนกลุ่มเครื่องดื่มชูกำลังมีความเสียเปรียบสินค้าชนิดอื่นในเรื่องการทำตลาดอยู่บ้าง แต่ในช่วง3-4 ปีที่ผ่านมาหลังจาก อย.ปลดล็อกเรื่องกฎหมายและการโฆษณาพอสมควรทำให้สามารถทำการตลาดได้มากขึ้น"
ขณะที่นายปริญญา เพิ่มพานิช ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและปฏิบัติการขาย บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) ผู้จัดจำหน่ายเครื่องดื่มชูกำลัง "แรงเยอร์" กล่าวว่า เชื่อว่าการจำกัดห้ามโฆษณาการชิงโชคใต้ฝา จะไม่ส่งผลกระทบต่อการทำตลาดของแบรนด์แรงเยอร์ และบริษัทเตรียมงบการตลาดทั้งสิ้น 100 ล้านบาท เพื่อใช้ในการแจ้งเกิดให้กับแรงเยอร์อีกครั้ง ผ่านการทำกิจกรรมการตลาดแบบ 360 องศา โดยโปรโมชันแรกที่จะทำคือ สะสมฝาครบ 5 ฝา นำมาแลกแรงเยอร์ได้ฟรี 1 ขวด ที่รถขายเสริมสุขทั่วประเทศ
ส่วนนายชนินทร์ เทียนเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทไอเบฟเวอเรจ จำกัด อดีตผู้บริหารเครื่องดื่มชูกำลัง "กระทิงแดง" กล่าวว่า การชิงโชคใต้ฝาถือเป็นหัวใจหลักของการทำตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง การจะห้ามทำแคมเปญหรือโฆษณาเชื่อว่าเป็นไปได้ยาก และแม้หน่วยงานภาครัฐจะมีบทลงโทษในการทำผิด แต่เป็นบทลงโทษที่ไม่รุนแรง เช่น การปรับเงิน 2-3 หมื่นบาท เพราะเมื่อเทียบกับมูลค่าที่ได้รับจากยอดขายและกำไรหลักสิบล้านบาท ย่อมคุ้มค่ากว่า และผู้ประกอบการก็เลือกที่จะถูกปรับดีกว่ายกเลิกแคมเปญ
คำถามที่น่าสนใจ คือ อย. ได้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ควบคุมเรื่องการโฆษณา ของเครื่องดื่มชูกำลังที่ประกาศเอาไว้มากน้อยแค่ไหน?
ไม่มีช่องทาง ทำได้ หรือไม่ (กล้า)ทำ?
