เอ็กซเรย์สาว Y จิ้น ‘ภู&ธีร์’ แห่งบ้านฮอร์โมน วัยว้าวุ่น
“เด็กกลุ่มนี้ต้องการเรียนรู้บางสิ่งบางอย่างที่ชีวิตจริงทำไม่ได้ เปรียบเทียบได้กับการแหกกฎครั้งคราว ยิ่งได้พบเจอเรื่องเพศประหลาด ๆ ยิ่งทำให้อยากทดลองในจินตนาการ แต่ไม่อยากปฏิบัติในชีวิตจริง”

แทบไม่เชื่อว่าละครชุดอย่าง ‘ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น’ แห่งค่ายจีทีเอชและนาดาวบางกอก ที่ออกอากาศทางช่องดาวเทียมจีเอ็มเอ็ม วัน ทุกคืนวันเสาร์นั้น จะประสบความสำเร็จ จนเป็นที่พูดถึงในกลุ่มนักเรียนกระโปรงบานขาสั้น ผ่านตามสื่อโซเซียลมีเดียที่มีการบอกต่อ ๆ กัน ทำให้ผู้ที่ไม่เคยติดตามต้องเปิดช่องยูทูปชมย้อนหลังจนยอดทะลุรวมหลายสิบล้านวิว
หากลองศึกษาถึงความเป็นไปของละครชุดเรื่องนี้ จะเห็นว่ามีหลายปัจจัยที่เกี่ยวโยงให้เกิดการพูดถึงวงกว้าง คล้ายคลึงกับ ‘หนังพี่มาก...พระโขนง’ และผลงานอื่น ๆ ที่ผ่านมาของจีทีเอช เพราะเนื้อหาส่วนใหญ่มุ่งเน้นในกลุ่มวัยรุ่นเป็นหลัก โดยเฉพาะเรื่องราวเกี่ยวกับความรักและเพศสภาพแล้ว ยิ่งทำให้เกิดกระแสบอกต่อในโซเซียลมีเดียมากขึ้น เนื่องจากไม่อาจปฏิเสธได้ว่าในแต่ละวันวัยรุ่นไทยจับจ้องอยู่กับสื่อใหม่เหล่านี้ไม่น้อยกว่า 5 ชั่วโมง...ฉะนั้นมีหรือที่จะไม่ติดกันงอมแงม
นอกจากนี้มองว่าตัวละครในเรื่องมีส่วนสำคัญที่ดึงดูดผู้ชม ซึ่งต้องยกเครดิตให้กับทีมงานที่รู้จักคัดสรรนักแสดงทั้งหน้าเก่าที่หวังจะดึงกลุ่มแฟนคลับ และหน้าใหม่ที่หวังจะปลุกปั้นเป็นคู่เทียบ 5 สุภาพบุรุษจุฑาเทพ แห่งวิกพระรามสี่ ด้วยบุคลิกแต่ละคนนั้นทั้งหล่อ สวย รวย ระเบิด แต่เหนือสิ่งอื่นใด เรื่องการแสดงไม่เป็นรองมืออาชีพ เพราะบทบาทที่ได้รับนั้นล้วนเสมือนชีวิตวัยเรียนที่เคยผ่านมา องค์ประกอบทุกอย่างเลยออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ
อีกหนึ่งจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ของค่ายหนังอารมณ์ดี คือ ประโยคฮิตกินใจ หรือ วรรคทอง เพราะย้อนไปไม่ว่าจะเป็น “ถึงแม่หนูจะดำ แต่หนูก็ยังรักของหนูนะ .. อ้วนดำ อ้วนดำ อ้วนดำ” – แฟนฉัน, “โห ... หล่อทะลุแป้งเลยว่ะ” - รถไฟฟ้า มาหานะเธอ หรือ “เวลาอยู่กับคุณ ผมโคตรมีความสุข .. อย่างนี้เค้าเรียกว่ารักรึเปล่า?” - กวน มึน โฮ ทั้งหมดล้วนฝังอยู่ในความรู้สึกของผู้ชม
รวมถึง ‘ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น’ ที่สร้างประโยคฮิตทั่วบ้านทั่วเมือง จน 2 นักแสดงนำ ‘สไปรท์-ไผ่’ โด่งดังเป็นพลุแตก กับประโยค “กินสไปรท์ต้องใส่ถุง” และกลายเป็นคู่จิ้นชาย-หญิง ชั่วข้ามคืน
แต่สำหรับสาววายนั้น ‘ภู-ธีร์’ กลับเป็นตัวละครเอกจากเรื่องนี้ที่ถูกจับเข้าไปอยู่ในจินตนาการ เพื่อให้ชายหนุ่มทั้งสองคนรักกันนอกจอจริง ๆ เรียกว่า จิ้นวาย ทำให้เกิดกระแสคลั่งไคล้ไม่แพ้ ‘สไปรท์-ไผ่’ ทีเดียว ถึงขนาดแต่ละตอนที่ออกอากาศลุ้นตัวโก่งให้ชายสองคนโผล่ออกมาหน้าจอ
ทั้งนี้ บรรดาสาววายจะถูกมองจากสังคมว่า โรคจิต เพี้ยน หมกมุ่นอยู่แต่เรื่องเพศ แต่ตัวสาววายมองว่าปกติ เป็นเพียงความชื่นชอบส่วนตัวเท่านั้น และการจะจับคู่ภู-ธีร์ให้รักกันนอกจอถือเป็นสิ่งน่ารักที่ไม่เป็นพิษภัยต่อสังคม

พญ.พรรณพิมล วิปุลากร รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข อธิบายต่อกรณีดังกล่าวว่า ในอดีตที่วัยรุ่นชายจะถูกอนุญาตในการสร้างจินตนาการทางเพศได้ ขณะที่วัยรุ่นหญิงกลับถูกสั่งห้าม แต่ปัจจุบันวัยรุ่นชายและหญิงต่างมีจินตนาการทางเพศเหมือนกัน เพราะถูกมองว่าการจินตนาการทางเพศนั้นเป็นเรื่องของวัย
อย่างไรก็ตาม การจินตนาการดังกล่าวต้องมีขอบเขต คือ 1.การจินตนาการต้องยอมรับว่าจะก่อให้เกิดอารมณ์และความรู้สึก ดังนั้นจำเป็นต้องเรียนรู้ให้ดีระหว่างสิ่งที่อยู่ในจินตนาการกับความรู้สึกตัวตน และ 2.ต้องเตือนว่าชีวิตคนเรามิได้ขึ้นอยู่กับจินตนาการอย่างเดียว หากแต่มีโลกความจริงประสมอยู่ด้วย แม้จะมีจินตนาการได้ แต่ครั้นจะนั่งฝันกลางวันโดยไม่ปฏิบัติภารกิจใดเลยเป็นไปไม่ได้ มิเช่นนั้นอาจทำให้เกิดการติดจนแยกแยะไม่ออกระหว่างจินตนาการกับโลกความจริง
รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต ยังกล่าวเจาะจงไปยังวัยรุ่นหญิง โดยเฉพาะกลุ่มสาววายว่า เด็กกลุ่มนี้ต้องการเรียนรู้บางสิ่งบางอย่างที่ชีวิตจริงทำไม่ได้ เปรียบเทียบได้กับการแหกกฎครั้งคราว ยิ่งได้พบเจอเรื่องเพศประหลาด ๆ ยิ่งทำให้อยากทดลองในจินตนาการ แต่ไม่อยากปฏิบัติในชีวิตจริง ทางที่ดีควรนำจินตนาการทางเพศเป็นส่วนหนึ่งให้เกิดชีวิตคู่ที่ดีในอนาคตมากกว่า เพราะจะสร้างความรักให้ยืนยาวได้ ทั้งนี้ มองว่าหากเลยช่วงอายุหนึ่งแล้ว พฤติกรรมดังกล่าวจะค่อย ๆ หายไปตามวัยเอง
................................................
ดังนั้นจะจิ้นใครใน ‘ฮอร์โมน’ ก็ควรอยู่ในขอบเขตของจินตนาการกับโลกความจริง...ด้วยความหวังดี .
