2 ปี "ยิ่งลักษณ์" สัญจร 11 ครั้ง เซ็นงบฯยอดทะลุ 1 ล้านล้าน
700 วันบนเก้าอี้นายกรัฐมนตรีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หอบคณะรัฐมนตรี (ครม.) เดินสายประชุมในต่างจังหวัดมาแล้ว 11 ครั้ง
นอกจากลงพื้นที่สำรวจผลงานรายกลุ่มจังหวัด รับฟังปัญหาภาคประชาชนแบบ "เรียลิตี้" และการแจกงบประมาณรายจังหวัดเฉลี่ยจังหวัดละ 100 ล้านบาท
หนึ่งในอีเวนต์สำคัญทุกครั้ง คือ เซ็นอนุมัติ "กรอบวงเงิน" หลังจากรับฟังข้อเสนอจากภาคเอกชน-กลุ่มจังหวัด
แบ่งเป็นครั้งที่ 1 ณ บ้านเกิดนายกรัฐมนตรี จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับการจัดสรรวงเงิน 387,389.44 ล้านบาท
โดยเน้นหนักไปด้านแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งระบบขนส่ง คมนาคม โลจิสติกส์
ครั้งที่ 2 จังหวัดอุดรธานี ถิ่นฐานที่ถูกขนานนามว่า "เมืองหลวง" ของพรรคเพื่อไทย ได้รับการอนุมัติวงเงิน 187,072 ล้านบาท และกว่าครึ่งเป็นแผนงานรองรับโครงการลงทุนขนาดใหญ่มูลค่า 2 ล้านล้านบาท
ครั้งที่ 3 เยือนภาคใต้โซนอันดามันที่จังหวัดภูเก็ต อนุมัติวงเงินไปเพียง 84,064 ล้านบาท โดยยังคงสอดคล้องกับแผนการลงทุนก้อนใหญ่ของรัฐบาลเช่นกัน
ครั้งที่ 4 จังหวัดกาญจนบุรี ได้รับการจัดสรรวงเงินให้ 33,111.49 ล้านบาท ไฮไลต์สำคัญคือการสนับสนุน "ทวายโปรเจ็กต์" เพื่อสร้างพื้นที่เศรษฐกิจเชื่อมโยงกับประเทศพม่า
ขณะที่ครั้งที่ 5 การเยือนถิ่นพรรคร่วมรัฐบาลของ "พลังชล" ที่จังหวัดชลบุรีมีการอนุมัติงบประมาณไปเพียง 17,698.48 ล้านบาท
ครั้งที่ 6 จังหวัดสุรินทร์ และกลุ่มจังหวัดอีสานใต้ ถูกเสนองบประมาณไปกว่า 122,638.06 ล้านบาท
ครั้งที่ 7 การกลับมาเยือนถิ่นปักษ์ใต้อีกครั้งที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีการอนุมัติงบประมาณไปอีก 40,200.99 ล้านบาท
ขณะที่บ้านเกิดของ "ทนุศักดิ์ เล็กอุทัย" รมช.คลัง ที่จังหวัดอุตรดิตถ์ ถูกใช้เป็นสถานที่สัญจรครั้งที่ 8 ได้รับงบประมาณไปเพียง 51,385.47 ล้านบาท
ครั้งที่ 9 จังหวัดฉะเชิงเทรา ที่มีเจ้าถิ่นเป็นคนการเมือง "ตระกูลฉายแสง" ได้รับการปันงบประมาณไปกว่า 91,714.78 ล้านบาท
ส่วนครั้งที่ 10 ได้รับการชักชวนจากเจ้าภาพชื่อ "วราเทพ รัตนากร" รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ส่งผลให้วาระนี้ที่จังหวัดกำแพงเพชร ได้รับการอนุมัติงบฯถึง 71,747.76 ล้านบาท
และล่าสุดกับครั้งที่ 11 ณ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พิกัดสำคัญของภาคอุตสาหกรรม ได้รับข้อเสนอภาพรวมที่คาดว่าจะถูกเสนอกรอบวงเงินอีกหลายหมื่นล้านบาท ประกอบไปด้วย 4 เรื่อง 12 ประเด็นหลัก ครอบคลุมทั้งแผนการส่งเสริมการค้า การลงทุน โลจิสติกส์ การบริหารทรัพยากรน้ำ ฯลฯ
ส่งผลให้ระยะเวลา 1 ปี 11 เดือนของ "รัฐบาลยิ่งลักษณ์" กับภารกิจเดินทางสัญจรรวม 11 ครั้ง มีการอนุมัติกรอบวงเงินไปแล้วกว่า 1.08 ล้านล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขหลักล้านล้านบาท ก็เป็นเพียง "กรอบวงเงิน" ที่สวนทางกับการอนุมัติ "จ่ายจริง" อย่างชัดแจ้งที่ยืนยันโดยข้อมูลจากสำนักงบประมาณ
จากข้อมูลตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 2556 สำนักงบประมาณได้รายงานผลการดำเนินการโครงการตามมติ ครม.สัญจร รวม 10 ครั้ง (ไม่รวมอยุธยา) มีการจัดสรรวงเงินไปเพียง 6,719.64 ล้านบาท
โดยสำนักงบประมาณระบุว่า เป็นการอนุมัติงบประมาณจากเงินงบฯกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ประจำปีงบประมาณ 2555-2556 โดยใช้เกณฑ์การจัดสรรวงเงินจากความจำเป็นเร่งด่วนตามคำขอของหน่วยงานเจ้าของโครงการ
แบ่งเป็นปีงบประมาณ 2555 มีการประชุม ครม.สัญจร 6 ครั้ง ได้แก่ เชียงใหม่ อุดรธานี ภูเก็ต กาญจนบุรี ชลบุรี และสุรินทร์ ได้รับการจัดสรร 223 โครงการ วงเงินรวม 5,363.01 ล้านบาท
และมีหน่วยงานยกเลิกไม่ขอรับการจัดสรร 1 โครงการ ได้แก่ โครงการปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำพร้อมระบบกระจายน้ำสนับสนุนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โครงการขยายผลโครงการหลวงแม่สลอง จังหวัดเชียงราย ซึ่งได้รับการจัดสรรวงเงินจากค่าใช้จ่ายในการเยียวยาฟื้นฟู และป้องกันความเสียหายจากอุทกภัยอย่างบูรณาการ วงเงิน 1.2 แสนล้านบาท
ปีงบประมาณ 2556 มีการประชุม ครม.สัญจร 4 ครั้ง ได้แก่ สุราษฎร์ธานี อุตรดิตถ์ และฉะเชิงเทรา (ไม่รวมอยุธยา) ได้รับการจัดสรร 77 โครงการ วงเงินรวม 1,356.63 ล้านบาท และมีการผูกพันงบประมาณปี 2557 อีก 36 ล้านบาท
ฉะนั้นเมื่อเปรียบเทียบกรอบวงเงินที่ ครม.สัญจรอนุมัติ 11 ครั้งรวม 1.08 ล้านล้านบาท แต่กลับมีการคัดกรอง-เบิกจ่ายงบประมาณได้จริงเพียง 6,719.64 ล้านบาท
เป็นตัวเลข "กรอบวงเงิน" และตัวเลข "เบิกจ่ายจริง" ที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
หลังจากนี้ "ยิ่งลักษณ์และคณะ" เหลือเป้าหมายในการประชุม "ครม.สัญจร" อีกเพียง 7 ครั้ง จะครบกำหนดตามแผนการเดินทางทัวร์ 18 กลุ่มจังหวัดทั่วประเทศ
และหมายถึงยังคงมีตัวเลข "กรอบวงเงิน" ให้รัฐบาลอีกหลายหมื่นล้าน-แสนล้านบาทเช่นเดียวกัน
จึงเป็นที่น่าสนใจว่า 2 ปีสุดท้ายของ "รัฐบาลยิ่งลักษณ์" จะสานต่อตัวเลขที่เคยอนุมัติไว้ให้ปรากฏเป็นรูปธรรมได้อย่างไร
ขอขอบคุณข่าวจาก

