พณ.รับส่งออกปีนี้ไม่ถึงเป้า 7.5%
เผยส่ง ออกมิ.ย.ลบ 3.38% เศรษฐกิจจีนทรุด ทำครึ่งปีแรกโตแค่ 0.95% “พาณิชย์” รับปี 56 ส่งออกไม่ถึงเป้า 7.5% แต่มั่นใจส่งออกโตเกิน 3-6.5% เตรียมทบทวนเป้าหมายใหม่อีก 2 เดือน
นางวัชรี วิมุกตายน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตัวเลขการส่งออกมิ.ย. 2556 มีมูลค่า1.90 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 3.38% เทียบกับมิ.ย. 2555 ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 2.10 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 3.01 ส่งผลให้ไทยขาดดุลการค้ามิ.ย. 2556 มูลค่า 1,915 ล้านเหรียญสหรัฐ
ขณะที่ การส่งออกช่วง 6 เดือน (ม.ค.-มิ.ย.) 2556 มีมูลค่า 1.13 แสนล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 0.95% เทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา ส่วนการนำเข้า 6 เดือนมีมูลค่า 1.29 แสนล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 4.32% โดยไทยขาดดุลการค้าช่วง 6 เดือน มูลค่า 1.57 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
ทั้งนี้ การส่งออกที่ปรับตัวลดลง ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากเศรษฐกิจในประเทศจีนชะลอตัว ซึ่งจีนเป็นตลาดส่งออกสำคัญของไทย ในขณะที่ประเทศคู่ค้าอื่นๆเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวมากนัก ซึ่งจากเดิมคาดว่าการส่งออกเดือนนี้น่าจะปรับตัวดีขึ้น แต่ก็ไม่ได้เป็นอย่างที่คาดหวัง และการส่งออกยังเจอภาวะเศรษฐกิจจีนซ้ำเติม
อย่างไรก็ตาม การผลักดันให้ตัวเลขการส่งออกทั้งปี 2556 ขยายตัวตามเป้าหมาย 7.5% คงเป็นไปได้ยาก เพราะต้องผลักดันให้การส่งออกในช่วงครึ่งปีหลังทุกเดือนต้องมีการส่งออกไม่ ต่ำกว่า 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐขึ้นไป ดังนั้นคงต้องมีการทบทวนเป้าหมายตัวเลขการส่งออกปีนี้อีกครั้ง โดยการส่งออกอาจขยายตัวใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาที่ 3% ก็เป็นไปได้ แต่กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ยืนยันว่าน่าจะโตได้ถึง 6-6.5% คงต้องดูตัวเลขอีกครั้งว่าจะปรับลดลงเหลือเท่าไร ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้มุ่งขยายการค้าภาคบริการ และการท่องเที่ยวให้มากขึ้น เพื่อพยุงเศรษฐกิจไทยในปีนี้ให้ขยายตัวได้ตามเป้าหมาย
นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า จากการสอบถามสถานการณ์ส่งออกรายตลาดจากผู้อำนวยการส่งเสริมการค้าระหว่าง ประเทศ (ทูตพาณิชย์) เบื้องต้นตัวเลขการส่งออกปี 2556 อาจขยายตัวต่ำกว่า 7% เล็กน้อย โดยคาดว่าการส่งออกยังขยายตัวได้ในระดับ 6.5% ซึ่งเป็นการคาดการณ์ที่สูงกว่าหน่วยงานเศรษฐกิจอื่นๆประเมินว่าการส่งออกไทย จะโตในระดับ 5% และจะมีการทบทวนเป้าหมายการส่งออกอย่างเป็นทางการอีกครั้งในช่วง 2 เดือนหลังจากนี้
“กรมจะพยายามผลักดันการส่งออกทุกอย่าง มีแผนพิเศษที่จะบุกตลาดส่งออกให้หนักว่าเดิม โดยใช้มาตรการให้เข้าถึงตัวผู้ซื้อให้มากที่สุด ควบคู่กับการนำสินค้าภาคบริการไปบุกตลาดด้วย” นางศรีรัตน์ กล่าว
